(รัก)แรกพบ50%

819 Words
วันรายงานตัวของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 “ฐิสา เร็วๆ หน่อยสิลูกเดี๋ยวไม่ทันนะ” “จ้าป้า ฐิสามาแล้ว” เสียงกึกกักดังมาจากด้านบน ก่อนเจ้าของใบหน้าผุดผ่องเรือนร่างสวยสะพรั่งสมวัยเป็นสาวเต็มตัวจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งซอยเท้าลงมา หทัยรัตน์ถอนหายใจ ทว่าใบหน้ากลับระบายยิ้มด้วยความภาคภูมิใจกับภาพหลานสาวในชุดนักศึกษาน้ำตาปริ่ม แต่ไม่วายปากก็บ่นออกไปตามใจคิด “ทำอะไรให้มันเป็นกุลสตรีหน่อยได้มั้ยเรา เป็นสาวจนเข้ามหาลัยเเล้ว สอนไม่จำเลยหลานคนนี้” หทัยรัตน์จับเสื้อผ้าที่เข้าที่อยู่เเล้วบนตัวหลานสาวให้เรียบร้อยกว่าเดิม ส่วนคนถูกบ่นหาได้โกรธซะที่ไหน มิหนำซ้ำยังยิ้มอย่างเอาใจ วรฐิสารู้ดีว่าบนโลกนี้ไม่มีใครจะรักและทำทุกอย่างให้เธอได้เท่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้อีกเเล้ว ก็มีอย่างที่ไหน บ่นไปก็น้ำตาคลอไป เธอรู้ว่าป้าภูมิใจในตัวเธอ “โถ่ ป้า อย่าบ่นเลยนะจ๊ะ บ่นมากเดี๋ยวแก่เร็วนะ ไหนป้าบอกเรารีบไม่ใช่เหรอจ๊ะ ไปกินข้าวกันดีกว่า ฐิสาหิวเเล้ว เดี๋ยวเราได้รีบไปกัน” หลานโผเข้ากอดเอาหน้ามาซบแล้วพาเดินควงเเขนไป จนนางต้องส่ายหน้ากับความฉอเลาะช่างเอาอกเอาใจนั้น กินข้าวเรียบร้อย สองป้าหลานพากันเดินออกมาจากบ้าน ปิดประตูรั้วเรียบร้อย จูงมือกันเดินไปปากซอยเรียกรถเเท๊กซี่เพราะไม่อยากไปสายเกินกว่าเวลาที่กำหนดไว้ หน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาเดินกันขวักไขว่ บรรยากาศดูคึกคักไม่น้อย การรายงานตัวผ่านพ้นไปด้วยดี เธอได้เข้าเป็นนักศึกษาคณะบริหารอย่างเต็มตัว แม้มีส่วนอื่นที่วรฐิสาต่างจากคนอื่นบ้าง ก็ตรงการกู้ยืม กยศ ที่ทำให้กระบวนการของเธอเสร็จสิ้นช้ากว่าคนอื่นหน่อย และถูกมองด้วยสายตาเย้ยหยันเล็กน้อยจากเพื่อนบางคนตั้งเเต่ยังไม่ได้รู้จักกัน “ไม่ต้องก็ได้นะลูก” หทัยรัตน์ถาม นานาจิตตัง แต่นางเห็นสายตาเพื่อนบางคนที่มองหลานเช่นกัน วรฐิสาส่ายหน้า “ไม่เลยจ๊ะป้า ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปใส่ใจเลย เราไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย ดีซะอีกฐิสาจะได้แบ่งเบาภาระป้าได้ด้วย” สองมือจับจูงเดินออกไปข้างหน้าด้วยกัน เสียงใสว่าต่อ “เเล้วฐิสายังวางแผนไว้อีกนะจ๊ะ ว่าถ้าเรื่องการเรียนลงตัวแล้วสักพักจะรับสอนพิเศษช่วยป้าอีกทาง” พ่อเธอเป็นชาวต่างชาติ หลังจากมีเธอได้สามปี พ่อแม่ก็เลิกรา แม่เเต่งงานไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ทิ้งเธอให้อยู่กับป้าแรกๆ ส่งเงินมาให้บ้าง แต่พอแม่ท้องลูกอีกคน เงินที่ส่งมาก็หายไป ป้าเลี้ยงเธออย่างเต็มตัว เปรียบเหมือนแม่ “มันจะเหนื่อยไปมั้ยลูก ป้ายังไหว แค่ที่ช่วยป้าทำขนม ตั้งใจเรียนได้ใบปริญญามาให้ป้าชื่นใจ แค่นี้ก็พอเเล้วลูก” “อันนั้นมันแน่นอนอยู่เเล้วจ๊ะ ฐิสาจะตั้งใจเรียน ป้ารออีกหน่อยนะจ๊ะ เรียนจบแล้วฐิสาก็จะหางานทำ ทีนี้จะได้มีเงินเดือนเลี้ยงป้า จะเลี้ยงให้นั่งกินนอนกินให้อ้วนเลย” “เด็กคนนี้นี่” “แต่ตอนนี้เรากลับไปทำขนมกันดีกว่าเนอะ” “วันนี้มีออเดอร์เยอะเลย เดี๋ยวแวะซื้อของไปเพิ่มหน่อยนะลูกนะ” สองป้าหลานต่างหัวเราะ เดินออกมาพร้อมกัน เป็นอีกวันที่ชื่นมื่นมีความสุข ทั้งสองเดินมาถึงด้านหน้ามหาวิทยาลัยเธอบอกให้ป้ายืนรอ ส่วนตัวเองเดินออกไปเรียกรถเเท๊กซี่ ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ว้าย!! ผู้คนแถวนั้นต่างเเตกตื่น วรฐิสาหันกลับไป พริบตาแรกไม่ทันตั้งตัว แต่พอเห็นเป็นทป้าที่หมดสติล้มลงไป ดวงตาคู่หวานเบิกกว้าง เธอรีบวิ่งเข้าไปหา ทรุดตัวลงนั่งกลางวง “ป้ารัตน์!!” หญิงสาวร้องเรียก หวังให้คนหมดสติตอบสนองบ้าง แต่ไม่เลย มีคนเข้ามาช่วยพัด โทรตามรถพยาบาล เสียงตื่นตกใจหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้เด็กสาวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่หายใจ!! ไม่หายใจ… หมายความว่ายังไง ไม่นะ!! “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยป้าหนูด้วย!!” วรฐิสาน้ำตาไหลพรากส่งเสียงร้องตะโกน มีคนขึ้นมาพยายามปั๊มหัวใจ แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น ท่ามกลางวงล้อมเสียงเซ็งแซ่ของผู้คน น้ำตาหญิงสาวยังไหลลงมาไม่ขาดสาย แล้วเธอควรจะทำอย่างไร จนมีเสียงทุ้มเข้มของใครคนหนึ่งดังขึ้น “ผมเป็นหมอ ขอทางหน่อยครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD