ตอนที่5 เรื่องทุกข์ใจของพี่ชาย

1993 Words
เมื่อรถสปอร์ตคันหรูของเจ้าขุนแล่นออกไปจนลับสายตาข้าวหอมก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปภายในบ้านแล้วเดินตรงขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมตัวลงมาทานข้าวเย็นร่วมกับพ่อแม่ที่ยังไม่กลับมาจากร้านเพชรทันที ติ๊ง!!!! เสียงไลน์กลุ่มดังขึ้น ทำให้ข้าวหอมที่กำลังนั่งทาครีมอยู่นั้นชะงักแล้วหันไปสนใจกับเสียงแจ้งเตือนก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาอ่านข้อความเผื่อว่าจะเป็นข้อความของคนในครอบครัว "ใครกันนะ แล้วนี่กลุ่มอะไร เราเข้ากลุ่มนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน"ทันทีที่กดเข้าแอพไลน์ข้าวหอมก็ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยเมื่อเห็นข้อความของกลุ่มไลน์ใหม่เด้งขึ้นมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รอช้าที่จะรีบกดเข้าไปอ่านข้อความทันที จอมเดช : น้องข้าวหอมถึงบ้านรึยังครับ พี่จอมเดชเองนะครับ ทันทีที่เธอกดเข้ามาอ่านข้อความปรากฏว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มของสามพี่น้องที่จอมเดชได้แอบดึงข้าวหอมเข้ามาเมื่อกลางวันนั่นเอง ข้าวหอม : อ้อสวัสดีค่ะ ข้าวหอมกลับมาถึงบ้านได้สักพักแล้วค่ะ พี่เจ้าขุนขับรถมาส่ง แต่ตอนนี้พี่เจ้าขุนกลับคอนโดไปแล้วค่ะ ข้าวหอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วด้วยนะคะ "บ้าจริง!!!พิมพ์อะไรไปเนี้ยข้าวหอม"ปากเรียวสบถออกมาเบาๆเมื่อตัวเองพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยความเคยชินเพราะทุกๆวันที่เธอกลับมาถึงบ้านเจ้าหยางพ่อของเธอก็มักจะไลน์มาถาม ซึ่งเธอก็จะตอบแบบนี้ทุกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่ใช่คนในครอบครัวแล้วแบบนี้พวกพี่ๆเขาจะคิดยังไงกัน.... จอมพล : พี่ว่าตอนนี้น้องข้าวหอมคงจะแอบนอนเพราะเหนื่อยจากการกิจกรรมวันนี้จนไม่อาบน้ำหรือเปล่าครับ ข้าวหอม : ข้าวหอมอาบน้ำแล้วจริงๆ นะคะ จอมทัพ : พี่ไม่เชื่อครับ ไอ้เจ้าขุนมันมักจะเล่าให้พี่ฟังอยู่บ่อยๆว่าน้องสาวมันขี้เกียจอาบน้ำมากเลย ข้าวหอม : เอ๊ะ?ข้าวหอมต้องทำไงพวกพี่ถึงจะเชื่อคะ จอมเดช : ส่งรูปมาให้พวกพี่ดูครับ แล้วพวกพี่จะเชื่อว่าน้องข้าวหอมอาบน้ำแล้วจริงๆ ทันทีที่ข้าวหอมได้อ่านข้อความดวงตากลมโตก็ค่อยๆก้มลงมองสำรวจดูชุดของตัวเองที่อยู่ลุคในเสื้อยืดสีขาวตัวบางและกางเกงยีนขาสั้นที่มีสิทธิ์ใส่แค่ภายในบ้านเท่านั้น 'ฝั่งสามพี่น้อง' ติ๊ง!!!! เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นพร้อมกัน 3 ครั้งทำให้หนุ่มหล่อทั้งสามคนที่กำลังเชื่อมต่อไลน์เข้าทีวีหน้าจอขนาด 60 นิ้วอยู่นั้นต่างพากันตั้งหน้าตั้งตาจ้องมองไปยังหน้าจอขนาดใหญ่อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งข้อความที่ปรากฏขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่นั้นก็เป็นภาพของข้าวหอมที่อยู่ในลุคเสื้อยืดสีขาวบางๆกางเกงขาสั้นธรรมดาๆกับท่าโพสที่ไร้เดียงสาของเธอ ทำให้สามพี่น้องถึงกับต้านทานความอยากของตัวเองไม่ไหว เฮือก!!!เสียงกลืนน้ำลายลงคอของสามพี่น้องดังขึ้นพร้อมกันสายตาคมจับจ้องมองผิวขาวๆในจอขนาดใหญ่อย่างอดกลั้นแต่ทว่ายิ่งมองความอยากความต้องการก็ยิ่งเพิ่มขึ้น.... "แม่งเอ้ย!!!กูไม่ไหวแล้ววะ ขอจัดการไอ้เดชน้อยก่อนละกัน ซี๊ดดด อื้มมมม"พูดจบจอมเดชก็ควักลูกชายขนาดใหญ่ออกมาจากกางเกงขาสั้นพร้อมกับใช้มือหนาชักรูดขึ้นลงอย่างเสียวซ่านสายตาคมพลางจ้องมองรูปภาพของข้าวหอมที่อยู่บนหน้าจอทีวีเพื่อเพิ่มความอยากของตัวเอง "บ้าชะมัด อื้มมมมม กูก็ไม่ไหวละ ซี๊ดดด" "กูก็ไม่ไหวเหมือนกัน อ่าส์ อื้มมมม" ส่วนจอมทัพกับจอมพลก็อดกลั้นไม่ไหวเช่นกัน ตอนนี้ภายในห้องนอนเก็บเสียงของสามพี่น้องดังระงมไปด้วยเสียงครางซี๊ดซ๊าด บ้างก็ชักไปครางเรียกชื่อข้าวหอมไปตามอารมณ์หื่นกระหายของพวกเขา 'ฝั่งข้าวหอม' "อ้าวทำไมเงียบไปล่ะ"หลังจากที่ส่งรูปไปสักพักข้าวหอมก็ได้แต่นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างงวยงงเพราะไม่มีข้อความตอบกลับมาอีกเลยจนกระทั่ง "ข้าวหอมลูก ลูกอยู่ไหนคะแม่กับพ่อกลับมาแล้วค่ะ"เสียงขวัญฤดีเอ่ยเรียกขึ้นเสียงดังขึ้นจึงทำให้ข้าวหอมที่กำลังนั่งรอข้อความอยู่นั้นดับหน้าจอลงในที่สุดก่อนจะเอ่ยขึ้น.... "ข้าวหอมอยู่ในห้องค่ะแม่ ข้าวหอมจะลงไปเดี๋ยวนี้ค่า"พูดจบข้าวหอมก็หยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ราคาแพงแล้วสาวเท้าเดินออกไปจากห้องนอนสีสวยเพื่อลงไปชั้นล่างทันที เมื่อข้าวหอมลงมาถึงชั้นล่างขวัญฤดีกับคุณเจ้าหยางก็พูดคุยและสอบถามเรื่องไปเรียนวันแรกของลูกสาวทันทีโดยข้าวหอมเองก็เล่าให้พ่อกับแม่ฟังอย่างสดใส ทั้งเรื่องที่มีเพื่อนใหม่อย่างชะเอม ทั้งเรื่องที่รู้จักกับเพื่อนของพี่ชายอย่าง จอมทัพ จอมพล และจอมเดช โดยเธอก็เล่าอย่างไม่คิดอะไรมากแต่ทว่าทันทีที่เจ้าหยางได้ยินชื่อของสามพี่น้องเขาก็เกิดความคิดว่าจะต้องสืบประวัติของทั้ง 3 จอมสักหน่อยแล้ว '1อาทิตย์ต่อมา' '08:15นาที' วันนี้เจ้าขุนขับรถสปอร์ตคันหรูเข้ามาในบ้านแต่เช้า โดยปกติแล้วเขาจะไม่มาพักที่บ้านเพราะเขาแยกตัวออกไปพักที่คอนโดตามประสาหนุ่มหล่อซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่ช่วงนี้ข้าวหอมเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเจ้าหยางจึงออกคำสั่งให้เขาคอยมารับมาส่งข้าวหอมจนกว่าข้าวหอมจะปรับตัวได้ "เป็นอะไรเจ้าขุน ให้มารับน้องแค่นี้ ทำไมต้องทำหน้าบูดหน้าบึ้งขนาดนี้ด้วย"เจ้าหยางเอ่ยถามลูกชายคนโตออกไปอย่างสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าบูดบึ้งของเจ้าขุนแต่เช้า "ไม่มีอะไรครับพ่อ พอดีช่วงนี้มีโปรเจกที่ต้องส่งงานอาจารย์เยอะไปหน่อย ว่าแต่จะไปได้ยังข้าวหอม เช้านี้พี่มีเรียนนะ"เจ้าขุนเอ่ยตอบพ่อด้วยน้ำเสียงปกติก่อนจะหันไปเอ่ยปากชวนน้องสาวไปมหาวิทยาลัยทันที "ค่ะๆ ข้าวหอมไปนะคะ พ่อ แม่ จุ๊บ จุ๊บ"ก่อนจะไปมหาลัยข้าวหอมก็ไม่ลืมที่จะเดินเข้าไปหอมแก้มพ่อกับแม่เหมือนที่เธอเคยทำประจำในทุกๆเช้าก่อนจะเดินตามเจ้าขุนไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัยทันที 'บนรถ' "พี่เจ้าขุนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะ บอกข้าวหอมได้นะคะ" หลังจากที่นั่งรถมาได้สักพักข้าวหอมก็เอ่ยปากถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะในระหว่างที่เจ้าขุนกำลังขับรถอยู่นั้นเหมือนเขาจะพยายามกดโทรหาใครบางคนแต่ทว่าก็ถูกตัดสายทิ้งทุกครั้งจนเจ้าขุนเริ่มแสดงสีหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ออกมาเธอจึงแน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องโปรเจกเหมืนอกับที่เขาบอกกับพ่อแน่นอน "ก็น้ำหวานแฟนพี่น่ะสิ ช่วงนี้ชวนพี่ทะเลาะตลอดเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไปถึงมหาลัยพี่ง้อนิดหน่อยก็หายแล้ว ข้าวหอมไม่ต้องห่วงนะ"ในขณะที่เขากำลังหงุดหงิด เมื่อสายตาคมเหลือบไปเห็นสีหน้ากังวลของน้องสาว เขาก็ปรับเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วพูดออกมาเหมือนไม่มีอะไรทันที "งั้นก็โอเครค่ะ แต่ถ้ามีอะไรจริงๆปรึกษาข้าวหอมได้นะคะ ข้าวหอมเป็นผู้หญิง ย่อมเข้าใจผู้หญิงดีกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ตอนเรียนข้าวหอมก็เป็นศิราณีให้เพื่อนอยู่บ่อยๆคะ"ข้าวหอมยืดอกพูดเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก จนตั้งตัวเป็นศิราณีของเพื่อนๆเลยทีเดียว "จ้า แม่ผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก แม่ศิราณี"เจ้าขุนคลี่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูน้องสาวก่อนจะเอื้อมมือหนาไปลูบหัวของน้องสาวเบาๆอย่างรักใคร่ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ '20นาทีผ่านไป' เมื่อเดินมาถึงมหาลัยเจ้าขุนก็เดินไปส่งข้าวหอมที่คณะเหมือนเคยก่อนที่เขาจะแยกย้ายไปเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือตอนนี้ใบหน้าหล่อของเขานั้นบูดบึ้งและจ้องมองไปยังน้ำหวานที่กำลังนั่งเรียนอยู่ตรงหน้าไม่วางตา ซึ่งทั้งสีหน้าและท่าทางการแสดงออกทั้งหมดของเจ้าขุนนั้นก็ตกอยู่ในสายตาของจอมทัพ "มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้เจ้าขุน"จอมทัพเอ่ยถามเพื่อนรักทันทีเมื่ออาจารย์เดินออกไปจากห้องเรียน "เปล่า ไม่มีอะไร"เจ้าขุนเอ่ยตอบเพื่อนรักออกไปทั้งๆที่สายตาคมยังคงจ้องมองน้ำหวานอยู่อย่างไม่ละสายตา และตอนนี้น้ำหวานก็กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆอย่างสดใส โดยไม่หันหลังกลับมามองเขาเลยไม้แต่น้อย "เปล่าส้นตีนดิ ทำหน้าอย่างกับคนขี้ไม่ออกมาสามวันแบบนี้ยังบอกว่าเปล่า มองมาจากดาวอังคารกูยังรู้เลยว่ามึงมีเรื่องกังวลใจ กูเป็นเพื่อนมึงนะโว้ย มีอะไรก็บอกกันได้"จอมทัพพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองเจ้าขุนอย่างคาดคั้น เขาอาจจะโกหกคนอื่นได้แต่อย่าคิดว่าจะโกหกคนอย่างจอมทัพได้.... "แม่ง!!!ก็น้ำหวานน่ะสิวะชวนทะเลาะตลอดเลยช่วงนี้ หาว่ากูไม่มีเวลาให้ แต่กูก็ยอมรับนะว่ากูไม่มีเวลาให้เธอจริงๆ เพราะช่วงนี้พ่อกูสั่งให้กูไปรับไปส่งข้าวหอมทุกวัน กูพยายามอธิบายแล้วนะเว้ยแต่น้ำหวานแม่งไม่ยอมเข้าใจ นี่ก็จะเลิกกับกูอย่างเดียวเลยถ้ากูยังไม่มีเวลาให้ กูแม่งโคตรลำบากใจเลยวะ"เมื่อมีคนพร้อมรับฟังเจ้าขุนก็ระบายความรู้สึกออกมาทันที เมื่อก่อนเขากับแฟนสาวมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่ตลอดเรียกได้ว่าตัวแทบติดกัน แต่พักหลังๆมานี้เจ้าขุนเริ่มตีตัวออกห่างเพราะเขาก็มีน้องสาวที่จะต้องดูแล "แล้วมึงจะทำไง" "กูก็ไม่รู้เลยวะ!!ไม่งั้นกูจะมานั่งเหมือนคนไม่ได้ขี้มาสามวันเหมือนที่มึงบอกรึไง เรียนก่อนเถอะอาจารย์มาแล้ว"เขายอมรับว่าตอนนี้สมองของเขามืดแปดด้านพูดไปก็มีแต่จะปวดสมองเอาเปล่าๆเขาจึงรีบตัดบทสนทนาทันทีที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามา '15:40นาที' 'ฝั่งข้าวหอม' เมื่ออาจารย์ปล่อยก่อนเวลาข้าวหอมก็เดินมานั่งรอเจ้าขุนที่คณะบริหารธุรกิจเหมือนกับทุกๆวัน เธอนั่งรอพี่ชายที่โต๊ะประจำของเจ้าขุนกับสามพี่อยู่สักพัก เจ้าขุนก็สาวเท้าเดินเข้ามาด้วยสีหน้ากังวลและหนักใจ โดยสายตาคมของเขานั้นเอาแต่จ้องมองตามแผ่นหลังของแฟนสาวที่เดินไปกับเพื่อนๆของเธออย่างไม่สนใจเขาเลย "พี่เจ้าขุนมาแล้ว เรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะ ตอนนี้ข้าวหอมหิ๊วหิว"เมื่อเห็นพี่ชายสาวเท้าเดินเข้ามาข้าวหอมก็รีบหยัดกายลุกขึ้นแล้ววิ่งไปสอดคล้องแขนแกร่งของเจ้าขุนด้วยความเคยชินเพื่อจะเดินลาดจอดรถแต่ทว่า.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD