ADORE YOU 3

1251 Words
​ #วันถัดมา @ด้านเจย์ “คนอื่นยังไม่มา?” ผมหันไปถามไอ้คิวที่ยืนสูบบุหรี่พิงรถของมันอยู่ “เออดิ มีเรียนเช้าขนาดนี้ไม่มีใครแหกขี้ตาตื่นมาเช้าหรอก” มันตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมา “ก็มึงกับกูไง” ก่อนจะจุดบุหรี่ยืนสูบข้างมัน “สูบหมดตัวนี้ ขึ้นห้องเรียนก่อนพวกมันนะ กูขี้เกียจยืนรอตรงนี้” “อืม” ผมพยักหน้าตอบ ก่อนจะอัดสารนิโคตินเข้าปอดหนักๆ จากนั้นเราสองคนก็เดินไปที่ตึกเรียน ดูเหมือนจะตั้งใจเรียนนะแต่เปล่าเลย ตั้งใจจะมานอนและเล่นเกมมากกว่า เพราะเมื่อคืนดื่มกับพวกมันหนักไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่เช้านี้แบกสังขารมาเรียนได้ วันนี้มีเรียนรวมคลาสกับนักศึกษาคนอื่นๆ เหมือนเดิม ผมเดินเข้ามาในห้องตามด้วยไอ้คิว ดวงตากวาดมองไปรอบๆ ห้องเรียน เมื่อเห็นโต๊ะที่นั่งเมื่อวานยังว่างก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปนั่งลง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมเหมือนอย่างเคย แต่ในขณะที่กำลังจดจ่ออยู่กับเกมในโทรศัพท์อยู่นั้น... “น้ำขิง!” เสียงเรียกใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ดวงตาคมช้อนขึ้นมองเจ้าของชื่อนั้นทันที ตาคมมองร่างเล็กเจ้าของใบหน้าสวย กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนเจย์จะก้มหน้าลงสนใจเกมในโทรศัพท์อีกครั้ง ชื่อน้ำขิงสินะ…ผมไม่ได้สนใจเธอหรอก แต่แค่รู้สึกประหลาดใจกับตัวเอง ทำไมต้องหยุดมองเธอทุกครั้งที่เห็นหน้า ทั้งที่เธอก็ไม่ได้สวยโดดเด่นไปจากคนอื่นเลย @ด้านน้ำขิง ฉันเดินเข้ามาในห้อง ดวงตาเหลือบมองเจย์ที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ เมื่อนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อย ก็เอาแต่จ้องมองแผ่นหลังของเขาเหมือนเดิม ท่าทีที่ดูนิ่งเงียบ ไม่อาจรู้ได้เลย ว่าเขารู้สึกหรือนึกคิดอะไรอยู่ “ขิงวันนี้มีเรียนช่วงบ่ายไหม” “ไม่มี ทำไมเหรอ?” ฉันตอบมีนาพร้อมกับหยิบอุปกรณ์การเรียนออกมาจากกระเป๋า “ตารางเรียนไม่ตรงกันอีกแล้ว ฉันอดไปเที่ยวกับแกอีกแล้วอะ แล้วนี่เลิกเรียนไปไหนต่อ” “ก็คงกลับบ้านเลยอะ” “อ่อ” จากนั้นเราก็นั่งเรียนกันตามปกติ วันนี้ฉันพอมีสมาธิมากกว่าเมื่อวาน ถึงจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ตาม เพราะมัวแต่จ้องมองไหล่กว้างของเจย์และคิดถึงแต่ใบหน้าหล่อๆ ของเขา เพียงแค่เขาขยับเหมือนจะหันหน้ามามองกัน แค่นั้นมันก็ทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว #เวลาต่อมา “วันนี้อาจารย์จะสั่งงานให้ทำเป็นคู่นะ” เมื่อสอนเสร็จอาจารย์ก็สั่งงานทันที ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะถ้าให้ฉันจับคู่ก็คงไม่พ้นมีนาแน่นอน ทว่า..... “แต่อาจารย์จะเป็นคนจับคู่ให้เอง” เสียงนักศึกษาเริ่มพูดซุบซิบกันเสียงดังขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าแย้งอะไรออกไป “นักศึกษาทุกคนแอดไลน์กลุ่มไว้ แล้วเดี๋ยวอาจารย์จะส่งรายชื่อเข้าไปในไลน์ ถ้าใครแอดแล้วรบกวนแจ้งชื่อจริงชื่อเล่นด้วย” “ค่ะ/ครับ” พูดจบอาจารย์ก็เดินออกไปจากห้องทันที “งี้กูก็ไม่ได้คู่กับมึงดิ” เสียงแหลมปี๊ดดังมาจากข้างหน้า ฉันจึงเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมอง เดียร์กำลังนั่งกอดอก ใบหน้าหงิกงอมองโซนแฟนของเธอ “คู่กันในชีวิตจริงยังไม่พออีกเหรอวะ” เกมส์บ่นขึ้นในขณะที่นิ้วมือกำลังเลื่อนส่องดูโปร์ไฟล์ของผู้หญิงในคลาสด้วยความตื่นเต้น “ถ้าไม่เคยมีเมีย มึงก็อย่าพูดค่ะ” เดียร์เถียงกลับทันที “เดียร์มึงไม่ควรพูดคำนี้กับไอ้เกมส์นะ เพราะเมียชั่วคราวมันเยอะ นับไม่ถ้วนหรอก” คิวพูดขึ้นแต่สายตายังจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ไม่วางตาเหมือนกัน ส่วนฉันได้ยินแต่เลือกที่จะไม่สนใจรีบสแกนคิวอาร์โค้ดที่แสดงอยู่บนโปรเจคเตอร์หน้าห้อง จากนั้นก็พิมพ์ชื่อของตัวเองส่งเข้าไปในไลน์ เมื่อเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าเรียบร้อยก็หันไปเอ่ยบอกมีนาที่นั่งอยู่ด้านข้าง “มีนาฉันกลับก่อนนะ” “โอเค ไว้เจอกัน” ฉันลุกขึ้นหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมจะเดินออกมา แต่เป็นจังหวะที่เจย์ลุกขึ้นเดินออกมาจากเก้าอี้พอดี ทำให้ใบหน้าฉันเกือบชนเข้ากับแผ่นหลังของเขา แต่ดีที่หยุดชะงักเอาไว้ได้ก่อน ความใกล้ทำให้เหลือพื้นที่ในการหายใจเพียงนิดเดียวเท่านั้น ฉันยืนจ้องมองแผ่นหลังเจย์ในระยะประชิดสักพัก กลิ่นกายที่หอมฟุ้งจากตัวเขาก็กระทบที่ปลายจมูก มันทำให้รู้สึกปั่นป่วน และมวลท้องขึ้นมา หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ในสิ่งที่ใจคิดดีไม่ได้ ความรู้สึกในตอนนี้มันอยากเข้าไปใกล้ๆแล้วแนบชิดจมูกเข้ากับแผ่นหลังของเขาแล้วสูดดมกลิ่นกายเข้ามาในปอดหนักๆ ถึงจะดูออกไปทางโรคจิตหน่อย แต่ฉันคิดแบบนี้จริงๆ ..... ฉันเหลือบมองรอบๆเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ ฉันจึงขยับใบหน้าเข้าไปใกล้แผ่นหลังเจย์มากขึ้นจนจมูกแทบจะชิดกับแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็.... สู้ด~ สูดดมความหอมจากตัวเขาเข้าเต็มปอด มันรู้สึกดีมากทำให้เผลอพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ “อ่า....หอมจัง” “หือ?” ฉันมัวหลับตาฟินกับความหอมจากตัวเขา ไม่ทันได้สังเกต เมื่อได้สติ ก็ลืมตาขึ้น สบกับเจย์เป็นที่เรียบร้อย ใบหน้าหล่อตอนนี้เหมือนจะตกใจไม่น้อย ฉิบหายแล้วทำยังไงดี...ฉันในตอนนี้ดูเลิ่กลั่กสุดๆ คิดไม่ตก เพราะมั่นใจว่าเขาต้องได้ยินเสียงเมื่อสักครู่แน่ๆ ฉันหลบสายตาของคนตรงหน้ามองไปทางอื่น เพราะอายกับการกระทำของตัวเองมาก กระทั่ง... “โรคจิต!” “ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย” ฉันรีบเถียงออกไปทันควัน รู้ว่าเป็นการแก้ตัวแบบหน้าด้านๆ แต่จะให้ยอมรับความจริงก็ยังไงอยู่ “ฉันไม่ได้พูด!” ดวงตาคมกริบหันไปมองด้านข้าง ซึ่งพอฉันมองตามสายตาของเขากลับพบว่า.... “มึงสิโรคจิตไอ้เหี้ยคิว” “โรคจิตพอกันทั้งคู่แหละพวกมึงสองตัว” เสียงทั้งหมดที่ได้ยินคือเสียงของเพื่อนเขางั้นเหรอ? ฉิบหายไปกันใหญ่แล้วอีขิง....แล้วตอนนี้ฉันต้องทำยังไงดี ต้องแก้ตัวต่อไหม หรือยังไง ฮือ....เมื่อทำอะไรไม่ถูกก็เม้มเรียวปากเอาไว้แน่นๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาทันที..... ขอหลบหน้าไปตั้งหลักก่อนแล้วกัน... @ด้านเจย์ แล้วผมต้องรู้สึกยังไง ต้องดีใจไหม? กับการกระทำและคำพูดของเธอ...เอาจริงไม่เคยโดนใครจู่โจมหนักขนาดนี้มาก่อนเลย ยอมรับว่าครั้งแรกที่ได้ยินเสียงนั้น มันตกใจไม่น้อย แต่จะให้ด่าว่าเธอก็ยังไงอยู่ เพราะเธออาจจะไม่ได้ตั้งใจเหมือนที่เธอบอกก็ได้ แต่ดมแรงขนาดนั้น อุทานเสียงดังขนาดนั้น ก็ต้องตั้งใจแล้วไหมวะ? ​ ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD