เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องฉันจึงเลือกที่จะไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากเรียน แต่เข้าใจไหมว่ามันทำยากมาก เพราะผู้ชายที่ฉันชอบนั่งอยู่ข้างหน้าขนาดนี้ ถึงจะพยายามบอกตัวเองไม่ให้สนใจ แต่ความรู้สึกภายในใจและสายตามันกับไม่ยอมฟัง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็อยู่ในสายตาของฉันไปหมด
ฉันรู้จักเจย์มานานแล้วก็จริง แต่ก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน อย่างมากก็แค่เดินสวนทางให้ใจเต้นแรงเท่านั้น
จากที่จะตั้งใจเรียน ตอนนี้ฉันก็เอาแต่นั่งเท้าคางจ้องมองแผ่นหลังของเจย์ตาไม่กะพริบ
อื้อหือ! ไหล่กว้างจัง ถ้าได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดคงจะอบอุ่นน่าดู>#เวลาต่อมา
เมื่อกินข้าวอิ่มแล้วฉันก็เดินมาเข้าห้องน้ำข้างโรงอาหาร ก่อนจะไปขึ้นเรียนตามปกติ
ที่ฉันเลือกมาเข้าที่นี่เพราะมันไม่ค่อยมีนักศึกษามาเข้าเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะไปเข้าที่ตึกด้านในมากกว่า และมันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับคนธาตุเบาอย่างฉัน ที่จะได้ปลดปล่อยทุกข์อย่างสบายใจ ฉันเดินขาขวิดเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ
มือเล็กหยิบโทรศัพท์เส็งเคร็งขึ้นมากดเล่นไปพลางๆ เพื่อค่าเวลา แต่ในขณะที่กำลังฟินกับการปลดปล่อยอยู่นั้น
“แนนไม่เลิก ยังไงก็ไม่เลิก” เสียงของใครบางคนดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องน้ำ ซึ่งเสียงมันเหมือนจะอยู่ไม่ไกลจากฉันเท่าไหร่ด้วย จากที่กำลังฟิน ก็ต้องอดกลั้นเกร็งทุกอย่างเอาไว้ เพราะกลัวว่าเสียงที่ไม่น่าฟังจะดังเล็ดลอดออกไปให้คนข้างนอกได้ยิน
จะมาคุยอะไรตรงนี้เนี่ย.....ฉันได้แต่คิดในใจ ด้วยท่าทีหงุดหงิด
“แต่พี่ไม่ได้รักแนนแล้วอะ”
“ตอนยังไม่เอาปากก็บอกว่ารักมาก แต่พอเยXกันแล้ว ก็เปลี่ยนคำพูดง่ายจังเลยนะ” ฉันยกมือขึ้นปาดเหงื่อตัวเองออกจากใบหน้า ตอนนี้มันรู้สึกทรมานสุดๆ ท้องเริ่มบิดเกร็งเมื่อต้องอดกลั้นบางอย่างเอาไว้ พยายามหายใจเข้าลึกๆ และนั่งอยู่ในห้องน้ำเงียบๆ
“จะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่พี่ฝืนคบกับแนนต่อไม่ได้แล้วจริงๆ”
“ฮือๆ ทำไมอะพี่เกมส์ ทำไมต้องเลิกกันด้วย แนนทำอะไรผิดงั้นเหรอ” เสียงผู้หญิงเริ่มร้องไห้โวยวายขึ้น ทำให้ฉันไม่อาจทนฟังต่อได้จริงๆ จึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมาทันที
ฉันเดินออกจากห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเพราะต้องเปลี่ยนไปเข้าห้องน้ำในตึกแทน แต่เมื่อเดินออกมาสายตามันดันไปสะดุดกับเจ้าของเสียงรบกวนนั้น
แต่เมื่อได้เห็นหน้าเขาฉันก็ชะงักนิ่ง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเจย์กับเกมส์ยืนอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งใบหน้าของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เห็นแล้วสงสารชะมัด
เจย์ยืนมองฉันเงียบๆ ทั้งที่เรียวปากยังพ่นควันบุหรี่ออกมาไม่หยุด สายตาคมกริบที่มองมาเหมือนจะฆ่ากันให้ตาย
หล่อเป็นบ้าเป็นบอเลย....
แต่เมื่อตั้งสติได้ฉันก็รีบเดินออกมาทันที มันไม่มีเวลาให้คิดเรื่องเขาเท่าไหร่ นอกจากรีบเดินไปเข้าห้องน้ำในตึกให้เร็วที่สุด
#ช่วงเย็นของวัน
เมื่อเลิกเรียนฉันก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยเพื่อโหนรถเมล์กลับบ้านเหมือนอย่างทุกวัน ชีวิตของฉันไม่มีอะไรหรอก ออกจะไปทางน่าเบื่อเอามากๆ นอกจากเรียนแล้วก็กลับบ้าน แต่ถ้าวันไหนรู้สึกเบื่อๆ ก็จะไปนั่งเล่นที่สวนใต้สะพานแถวบ้าน และชอบซื้อเบียร์ไปนั่งจิบเบาๆ มองเรือแล่นผ่านไปผ่านมา แค่นี้ก็ฟินแล้ว
“กลับมาแล้วเหรอขุน”
“ครับ แต่ไม่ได้มาคนเดียวนะ” ขุนเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับแฟนของมัน เมื่อเห็นแบบนั้น คนไม่มีแฟนแต่ชอบอิจฉาชาวบ้านไปทั่วอย่างฉัน ก็เบะปากขึ้นด้วยท่าทีมันไส้
“สวัสดีค่ะแม่” ลิลลี่เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีเป็นกันเอง เพราะเธอมาบ้านฉันบ่อยครั้งแล้ว ลิลลี่ทิ้งตัวนั่งลงโซฟาด้านข้างฉัน ส่วนไอ้น้องชายตัวดีมันเดินหายเข้าไปในห้องของมันแล้ว
“เจ๊ขิงวันนี้ไปเที่ยวผับกันไหม”
“ไม่อะ เจ๊ขี้เกียจ ลี่ไปเลย” ฉันตอบพร้อมกับหยิบส้มยัดใส่ปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
“อีกแล้วอะ” ลิลลี่ทำหน้าบูดบึ้งเพราะโดนฉันปฏิเสธอยู่ตลอด ทำไงได้ก็ฉันไม่ชอบเที่ยวสถานที่แบบนั้นอะ
“ลี่ไม่ต้องชวนคนแก่หรอก”
“ปากนี่ น่าจะกินตีนมากกว่ากินข้าวนะ” ฉันยกเท้าขึ้นเพื่อจะเตะไอ้ขุนแต่มันดันหลบได้ก่อน
ขุนเขา เป็นน้องชายคนเดียวของฉันเราห่างกันแค่ปีเดียว ฉันอยู่ปี 4 ส่วนขุนอยู่ปี 3 เราอยู่คนละคณะ แต่มหาลัยเดียวกัน
“สรุปไม่ไปใช่ไหม?” ขุนเขาหันมาถามฉันอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังกว่าเดิม เอาจริงน้องชายของฉันมันหล่อมากนะ แล้วมันก็เจ้าชู้มากเลยด้วย
“ไม่” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“งั้นก็แล้วแต่ แม่ขุนไปเที่ยวผับนะ”
“ดูแลตัวเองด้วยละ” แม่ยืนทำกับข้าวอยู่หันมาเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเป็นห่วงแต่ก็ตามใจลูกอยู่ดี
“ครับผม”
เมื่อไอ้ขุนกับแฟนมันไปแล้วฉันก็เข้ามาในห้อง ตอนนี้ในหัวฉันมันคิดถึงแต่ใบหน้าเจย์ไม่หยุด จากที่แอบปลื้ม ตอนนี้มันกลับไม่ใช่ ทำไงดีฉันอยากจะบ้าตาย ทำไมเขาถึงเข้ามากวนใจฉันชะมัดเลย และตอนนี้ฉันเองก็หยุดคิดเรื่องเขาไม่ได้สักที....