bc

กรงรักราชาโจร

book_age18+
220
FOLLOW
1K
READ
revenge
dark
sex
drama
tragedy
twisted
bxg
heavy
serious
coming of age
like
intro-logo
Blurb

ภายใต้ชายคาของกรงขัง หัวใจดวงน้อยของจัสซีเนียถูกย่ำยีด้วยแรงราคะของความเคียดแค้น ตัวแทนแรงอาฆาตที่เธอไม่ได้กระทำ แต่ต้องรับผลกรรมแทนผู้เป็นพี่อย่างจำยอม.....ด้วยฝีมือของราชาโจร!

"ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น"

"แต่ฉันก็มีหัวใจนะคะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น"

"เป็นเช่นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,."

"หยาบช้าสิ้นดี!"

"เทียบเท่าไม่ได้กับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ"

"พวกแกมันระยำ!"

"เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นอีก...หรือเธออยากจะลอง"

chap-preview
Free preview
คนระยำ
"ที่ให้ไปสืบได้เรื่องยังไงบ้าง" เสียงเข้มดุดันน่าเกรงขามเอื้อนเอ่ย ในสิ่งที่เคยสั่งการกับคนสนิทในทำตามคำสั่ง "เรียบร้อยขอรับนายท่าน ตามรายงานในแฟ้มนี้ทั้งหมด" แฟ้มสีดำทมิฬถูกยื่นไปตรงหน้าของนายเหนือหัว ที่เนื้อในมีเรื่องราวของตัวการใหญ่ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำที่โสมมและผิดกฎหมาย "ฮึ! มันจะต้องได้รับบทลงโทษจากเรา...กำจัดพวกมัน!" เมื่อได้อ่านเนื้อหาที่สืบมา รอยยิ้มเย้ยหยันก็เผยขึ้นบนใบหน้าเข้มดุทันที "แต่เรื่องนี้ใหญ่นัก กระผมว่านายท่านไม่ควรผลีผลาม เพราะถ้าหากท่านพ่อทรงทราบเข้าต้องโดนลงโทษหรือต่อว่าแน่ ๆ" "บอกว่าอย่าพูดคำที่มันยุ่งยากกับเรา เราไม่ชอบยังไงก็เป็นเพื่อนกัน" "แต่ศักดิ์ท่านสูงกว่ากระผม" "ช่างสิ! ไม่ได้สนใจสักหน่อย...เราขอสั่งห้ามเด็ดขาดนับจากนี้ เราสองคนจะพูดเพียงธรรมดาฉันท์มิตร" "ยกเว้นอยู่ในคฤหาสน์ต่อหน้าท่านพ่อและท่านแม่ของท่านขอรับ" "ตามนั้นก็ย่อมได้" (ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ไอ้พวกโจรใจบาป! ปล่อย!) "เสียงเอะอะโวยวายอะไร!?" "จะออกไปดูให้ครับ" "อืม" เสียงดังที่โวยวายอยู่นอกกระโจม ทำให้คนด้านในที่คุยกันต้องสนใจ เสียงแหลมแผดดังกังวานต่อว่า ที่บ่งบอกถึงการเป็นหญิง สถานที่แห่งนี้ที่อยู่ห่างไกลผู้คนนับหลายร้อยไมล์ ไม่มีผู้ใดได้ย่างกรายเข้ามาเหยียบย่ำได้ พื้นที่อันเป็นที่ขนานนามโด่งดัง กำลังซุ้มโจรที่โหดเหี้ยม หากผู้ใดหลุดเข้ามาทั้งที่มีลมหายใจ แต่การกลับออกไปนั้นไร้วิญญาณ "มาจากที่ใด?" ริฎวานที่เดินออกมาจากกระโจมใหญ่ เปล่งวาจาถามไถ่ถึงบุคคลที่ไม่คุ้นหน้า รูปลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นหญิง กำลังถูกจับกุมด้วยแรงชายสองคน กดไหล่ของเธอดันไว้ คุกเข่าลงกับพื้นทรายที่ตอนนี้ร้อนระอุ "กระผมเห็นนางผู้นี้ด่อม ๆ มอง ๆ ดูมีพิรุธเลยจับตัวมาขอรับท่านริฎวาน" เสียงของลูกน้องบอกเล่า ในขณะที่จับล็อกหล่อนไว้ "ที่นี่ยากจะมีใครได้เข้ามา...เธอเป็นใคร!?" ริฎวานยืนมองหญิงตรงหน้า ด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม ไม่ต่างจากผู้เป็นนายเลยสักนิด "พวกโจรใจบาป! พวกแกมันเลว! ชั่วช้ายิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน" เสียงแข็งกร้าวตะโกนด่าทอ ทั้งที่คนฟังนั้นยังไม่รู้สาเหตุ ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างฉงนใจงุนงง "เธอมาจากไหน แล้วทำไมถึงได้ด่าทออย่างไม่มีสาเหตุเช่นนี้" ริฎวานยังคงไม่เข้าใจ จนได้เอ่ยปากพูดออกไปอีกครั้ง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกัน "ทำไมจะไม่มีเหตุผล พวกแกฆ่าพ่อแม่ฉัน พวกแกมันระยำชาติชั่ว! ฉันจัสซีเนียคนนี้จะไม่ยอมให้พ่อแม่ฉันตายฟรี...พวกแกต้องชดใช้!!" หล่อนแผดเสียงดังอย่างไม่คิดกลัว ดวงตาคมจ้องเขม็งอย่างเคืองโกรธ "จัสซีเนีย?" เสียงที่ก่อความรำคาญให้กับคนด้านในจนต้องเดินออกมาดูให้รู้แจ้งด้วยตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับชื่อที่ได้ยิน จนเขาต้องเอ่ยซ้ำกับชื่อของเธอผู้ถูกจับกุม "นายท่าน" เมื่อเห็นผู้เป็นนายเหล่าบริวารจึงโค้งตัวคำนับอย่างเคารพ "เธอบอกว่าชื่ออะไรนะ?" จาห์มาล์ ผู้ที่ถูกขนานนามว่าราชาโจร เขาเดินไปหยุดตรงหน้าของหล่อน แล้วย้อนถามด้วยสีหน้าเรียบตึง สายตาดุดันจ้องมองเธออย่างรอคำตอบ "จำชื่อของฉันใส่สมองแกไว้ให้ขึ้นใจ จัสซีเนีย คือชื่อของฉัน...สักวันฉันจะฆ่าโจรป่าเถื่อนอย่างพวกแกให้ตายคามือ!" เพี๊ยะ!! หล่อนพูดจบประโยคด้วยน้ำเสียงกร้าว ชื่อที่ดังเข้าหูของจาห์มาล์ ทำให้ฝ่ามือหนาของเขาฟาดลงใบหน้าของหล่อนอย่างแรงจนหน้าหัน และฟุบลงต่ำเกือบราบกับพื้นทราย "เลวระยำจริง ๆ ฮึ!" "ปากดีเสียจริง...เอานางไปขังแล้วล่ามโซ่ไว้ คนอย่างนางเราจะจัดการเอง!" "ขอรับ!" "เอาตัวเข้าไป!" เสียงเข้มออกคำสั่ง ก่อนจะหันหลังแล้วเดินเข้ากระโจมไป "ครับ!" เสียงอันฮึกเหิมตอบรับคำสั่ง "จะพาฉันไปไหน ไอ้พวกบ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปะ..." แขนสองข้างของจัสซีเนียถูกมัดแน่น แววตาที่ฉายแววเคียดแค้นจ้องมองตามหลังของจาห์มาล์อย่างเอาเรื่อง เธอถูกหิ้วปีกให้เดินไป พยายามรั้งการก้าวเดินให้เชื่องช้า พร้อมวาจาที่ขึงขังด่าทออย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพี๊ย! เพี๊ย! ทว่าเสียงอันน่ารำคาญเป็นต้องหยุดชะงัก เมื่อฝ่ามือหนักกระแทกลงใบหน้าจนหันไปตามแรงถึงสองครั้งสองครา ทำเอาน้ำตาของจัสซีเนียถึงกับร่วง เธอเจ็บชาตรงใบหน้า ปากคงจะแตกเป็นแน่ เพราะเธอได้กลิ่นคาวเลือดเตะเข้าจมูก "หุบปากและเสียงอันน่ารำคาญของเธอซะ!" เสียงกร้าวอันน่ากลัว "ไอ้คนระยำ! ไอ้คนชั่วสารเลว!...ถุย!!" เพี๊ย!! เพียงสิ้นคำด่าทอที่มาพร้อมน้ำลาย คนที่ยืนตรงหน้าก็ไม่รีรอแต่อย่างใด ประเคนฝ่ามือใหญ่ฟาดลงแก้มที่มีรอยแดงเป็นทุนเดิม ที่หนักเพิ่มขึ้นมาคือการที่จัสซีเนียไม่สามารถหยัดยืนได้ไหว เข่าของเธออ่อนแรงทันตา ใบหน้าตอนนี้เจ็บชาด้วยแรงตบ การถูกหญิงหยามศักดิ์ศรีด้วยการถ่มน้ำลาย ทำให้จาห์มาล์ไม่อาจทานทนได้ไหว ราชาโจรผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกกล่าวขาน ถูกหญิงที่เสมือนเชลยกระทำ รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น "อ๊ะ! แกมันชั่ว!" ใบหน้าที่เริ่มแดงช้ำ ผมยาวสลวยถูกกำจนตึงจนหน้าของจัสซีเนียเชิดเงย แววตาที่ดูไร้ความเกรงกลัว เพ่งพิศไม่วางตาไปยังจาล์มาล์ที่ตอนนี้ดูน่ากลัวกว่าสัตว์ร้ายเสียอีก "นี่แค่เตือน! แล้วอย่ามากล้าที่นี่!! จำไว้! หญิงร้ายชั่วช้ามันคือเธอ...เอาไปขังในกรงสัตว์!" เขาสบตามองลึกเข้าไปในดวงตาสีนิลนั้นอย่างอาฆาต แววตาคมดุมีความพยาบาทเคียดแค้น โดยที่จัสซีเนียไม่รับรู้ว่าเพราะเหตุใด แต่เขาที่เหมือนถูกทำร้ายจำฝังใจไม่เคยลืม "ครับ!" จากที่ต้องการจับเธอมัดในกระโจมใหญ่ เขาแปรเปลี่ยนใจในทันที สั่งการเหล่าลูกน้องให้เปลี่ยนทิศทาง พาจัสซีเนียไปขังในกรงคับแคบ "แกจะต้องชดใช้! ไอ้คนชั่วช้าสามาน ปล่อยฉันสิวะ!" จัสซีเนียไม่วายหันหน้ามาต่อว่า ทั้งที่ถูกกระชากลากถูอย่างโหดร้าย ความเป็นหญิงไม่ได้มีผลต่อความอ่อนไหวของเหล่าโจร เธอโดนกระทำอย่างกับไม่ใช่อิสสตรีผู้บอบบาง "แค่นี้มันยังน้อยไป นังผู้หญิงแพศยา เธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ โปรดจงจำไว้ว่านี่มันคือการเริ่มต้นเท่านั้น เธอมันโง่ที่เดินเข้ามาในฝูงฮายีน่าของฉันเอง " จาห์มาล์กำมือแน่น ส่งสายตาโกรธแค้นมองตามหลังจัสซีเนียอย่างมาดร้าย เสียงที่ดังโวยวายของจัสซีเนียค่อย ๆ เบาลง เมื่อเธอถูกลากออกไปไกลเรื่อย ๆ ยังกรงขังสัตว์ที่อยู่กลางแดดจ้าบนผืนทะเลทรายที่ร้อนระอุดั่งเตาเผา และนับจากนี้เขาจะมอบความเจ็บปวดให้แก่เธออย่างสาสม! "ริฎวาน เตรียมรถให้ที วันนี้จะกลับคฤหาสน์ใหญ่" "ได้ครับ,..แล้วจะให้จัดการกับนางยังไง" "ขังไว้ก่อน เดี๋ยวเราจะกลับมาจัดการเอง" "ครับ" สิ้นสุดการพูดคุยสนทนา คนสนิทก็เดินจากไป เพื่อจัดการตามคำสั่งที่ผู้เป็นนายต้องการ หญิงที่ถูกกล่าวขาน ทำให้สีหน้าของจาห์มาล์เปลี่ยนไปทันที เจ้าตัวที่ไม่รู้แน่ถึงความโกรธในใจเขา เรื่องราวอะไรที่เป็นต้นตอ แต่สำหรับเขา จาร์มาล์ มันฝังลึกในใจแทบไม่อาจลืมเลือน "ฮึ! น่าสมเพชสิ้นดี...แค่นี้ยังน้อยไปกับที่เธอทำไว้" เสียงเหี้ยมดังขึ้น สบถอย่างดูแคลน เขายืนจ้องมองผู้หญิงในกรงขังสัตว์อย่างพึงพอใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ มันทำให้เขายิ้มเยาะร้ายแสดงออกถึงความสมเพชในตัวของเธอตอนนี้เต็มประดา ใบหน้าที่เขาจดจำไม่เคยลืม คนที่เคยทำเขาแทบระบมปางตาย จนได้ผันกลายมาทำเรื่องเลวระยำ สำหรับผู้อื่นลับหลังของบิดาและมารดา แต่ที่ทำล้วนมีที่มาด้วยกันทั้งนั้น หวังว่าสักวันจะต้องได้พบกับคนที่ปรารถนา และแล้ววันนี้ก็มาถึง ทั้งที่พยายามออกตามล่ามานานนม สุดท้ายคนที่ต้องการก็คลานเข้ามาหาเสียเอง "ปล่อยฉัน! ถ้าฉันหลุดไปได้ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง" สายตากร้าวจ้องมองไปยังจาร์มาล์อย่างเคียดแค้น แขนที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกแน่นหนา แต่ทว่าเธอก็พยายามออกแรงบิดข้อมือหวังให้เชือกหลุด ยิ่งได้มองเห็นใบหน้าของจาร์มาล์ ดวงตาเข้มกลมโตก็เปล่งประกายยิ่งกว่าดวงไฟที่กำลังลุกโชน ความโกรธกำลังครอบงำเธอเพียงแค่เห็นหน้าของคนที่เธอเกลียดชัง "ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาสั่งคนอย่างเรา" จาร์มาล์ส่งสัญญาณให้บริวารปลดกุญแจ จากนั้นจึงนำพาร่างกำยำเข้าไปในกรงขังสัตว์นั้น ใช้มือบีบพวงแก้มของเธอจนยู่ย่น ดวงตาเข้มดำขลับจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอเช่นกันอย่างไม่ยอมปรน "แต่ฉันก็มีหัวใจนะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น แล้วที่ตัวเองทำไว้มันดีแล้วหรือไง!!" จัสซีเนียไร้ซึ่งความกลัว เธอกล่าวเสียงแข็งต่อหน้า แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกบีบแก้มก็ไม่ปริปากออกมาแต่อย่างใด ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็น "เป็นเช่นนั้นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,.เจ็บปวดงั้นรึ เจ็บเป็นคนเดียวหรือไง! แล้วตัวของเธอเองมันก็ไม่ได้มีดี เป็นกาลกิณีต่ำช้า รวมหัวกับพ่อของเธอทำเลวกับเราเหมือนกัน!!" ยิ่งย้อนไปในสิ่งที่ทำให้เจ็บแค้น ก็ยิ่งเหมือนกับเติมน้ำมันเชื้อเพลิงลงกองไฟ มันทำให้จาร์มาล์นั้นแทบสติหลุด ออกแรงบีบปากของจัสซีเนียเต็มแรง จนเธอนั้นน้ำตาไหลพราก แต่ไม่ยอมปริปากร้องขอต่อสิ่งที่เขากระทำ จ้องมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมกัน "อะไร! ฉันไม่เข้าใจ แล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย" เธอพยายามเปล่งเสียงพูดออกมาให้ชัดเจนที่สุด มันงุนงงกับสิ่งที่เขากล่าวหา เธอไม่กระจ่างในวาจาที่เขาเปล่งออกมาแม้แต่น้อย "ตอแหล!!" เพี๊ยะ! เขาสะบัดมือแรงกระทบแก้มเนียน จนใบหน้าของจัสซีเนียกระแทกเข้ากับกรงขัง ความแรงของกำลังชายชาตรี ทำเอาปากของหญิงสาวมีเลือดซึมออกมา เจ็บแสบไปทั้งหน้า แต่ทว่าก็ยังไม่ยอมอ้อนวอนร้องขอชีวิต ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเอาคืนชายผู้นี้ที่ลงมือปลิดชีพพ่อของเธออย่างเหี้ยมโหด "ระยำหยาบช้าสิ้นดี!" เธอรุกสู้ด้วยคำพูดด่าทอ จ้องมองหน้าจาร์มาล์ด้วยพลังแค้นที่มันสุมอก "เทียบเทียมไม่ได้สักนิดกับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ....ใครกันแน่ที่ระยำกว่ากัน!" เขาเหมือนกับสัตว์ดุร้าย ปรี่ประชิดกายของจัสซีเนียเร็วพลัน เมื่อคำหยามหลุดออกมาจากปากของเธอ คำพูดที่เหมือนปลุกพลังความโหดร้ายออกมา ทำให้จัสซีเนียเจ็บกายอีกครา เพราะมือหนาบีบแน่นตรงหัวไหล่ของเธอ "พวกแกมันระยำที่สุด! ถุย!" คำถ่าทอที่เปล่งออกมา พร้อมกับถุยน้ำลายใส่หน้าของคนตัวใหญ่ เธอไม่เกรงกลัวแม้ความตาย หากมันจะทำลายและแก้แค้นให้พ่อของเธอได้ "เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นเสียอีก....หรือเธออยากจะลองเหมือนกับพ่อและพี่ชายของเธอ" "รถพร้อมแล้วครับ" เสียงของริฎวานคนสนิทเอ่ยบอก เขากรอกเสียงมาแต่ยังไม่ทันถึงกรงขัง ลั่นเสียงดังมาหวังว่าให้คนเป็นนายให้ความสนใจ แม้จะอยู่ในคราบของโจรทะเลทราย ลึก ๆ ในใจก็นึกสงสารผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกทำร้าย "อืม..." มันเป็นดั่งใจหวัง จาร์มาล์ผ่อนกำลังและปล่อยมือหลุดจากหญิงสาว สะบัดเธอแรงจนตัวปลิวกระแทกกับเหล็กอย่างไม่คิดโอนอ่อนให้ ร่างกายของเธอคงบอบช้ำเข้าอีกละลอกจากแรงเหวี่ยงของชายชาตรี "ท่านจะไปในสภาพนี้ไม่ได้นะครับ กระผมเตรียมชุดให้เรียบร้อยแล้ว...ไปเปลี่ยนเสียเถิด" คนสนิทย้ำเตือนด้วยความหวังดี ผู้เป็นนายจะมีสภาพในคราบโจรกลับเข้าคฤหาสน์ นั่นคงทำให้ผู้เป็นบิดาและมารดาได้สงสัย การที่ออกมาอยู่เช่นนี้แน่นอนว่าเขาปิดบัง เพราะมันมีเรื่องที่เขาต้องเคลียร์สะสางส่วนตัว "ขอบใจที่เตือน...เฝ้านางแพศยานี่ไว้ให้ดี หากนางหลบหนีไปได้เราจะจัดการกับทุกคนที่อยู่ที่นี่" คำพูดแรกเอ่ยกับริฎวานคนสนิท ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเข้มกำลังบริวารที่คอยเฝ้ากรงขัง (ขอรับ!!) เสียงอันฮึกเหิมตอบรับพร้อมกันอย่างเข้มแข็งแก่ผู้เป็นนาย นั่นถึงทำให้จาร์มาล์ก้าวขาเดินจากไป ด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม แม้ฝ่าเท้าย้ำพื้นทรายยังทรงพลัง ยิ่งร่างกายกำยำสมส่วนวางท่าด้วยอำนาจ ยิ่งทำให้เขาดูน่าหวาดเกรงต่อสายตาของเหล่าบริวาร "การมาอยู่ที่นี่ ท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่ทราบใช่ไหม?" เสียงเรียบนิ่งแต่ทรงพลังเอ่ยถามคนสนิทด้วยความอยากรู้ เมื่อรถจิ๊ฟขับเคลื่อนเดินทาง "ไม่ขอรับ...ทราบเพียงแค่ว่าท่านออกเที่ยวตามประสา" ริฎวานรายงานอย่างนอบน้อม คำพูดที่ผู้เป็นนายสั่งให้เป็นกันเองแบบคนธรรมดา ไม่ต้องมากพิธีรีตอง "ดี! อย่าให้พวกท่านรู้เด็ดขาด จนกว่าเรื่องของเราจะสะสางให้แล้วเสร็จ" "ขอรับ" ---------- "วันนี้คาดว่าคงจะหนาวเหน็บกว่าทุกคืน" ทันทีเมื่อก้าวขาเข้ามาในคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่า เสียงเข้มที่ไม่ต่างจากบุตรชายก็เอ่ยทักท้วง เพียงเห็นร่างกำยำเดินนำหน้าเหล่าบริวารเข้ามา "จาร์มาล์!!" เสียงเรียกชื่อบุตรชายด้วยความดีใจ กับการที่พบเจอกันในรอบหลายวัน ทำเอาผู้เป็นมารดานั้นปลื้มปรีติด้วยความคิดถึง ปรี่เข้าหาบุตรชายแล้วโอบกอดด้วยความห่วงหา "อัสลามุอะลัยกุม.ท่านแม่" คำทักทายที่ฟังแล้วละมุนหู เขาจะมีให้แค่บิดาและมารดาเพียงเท่านั้น เป็นอีกมุมที่น้อยคนนักจะได้เห็น เขาจะไม่แสดงออกในมุมนี้แก่สายตาใคร เพราะมันจะทำให้ความน่าเกรงขามลดหลั่นลง นั่นคงทำให้เหล่าบริวารไร้ความเกรงขาม "วะอะลัยกุมุสลาม.ลูกรัก" "อัสลามุอะลัยกุม.ท่านพ่อ" การนอบน้อมเคารพด้วยการแตะมือลงหลังเท้าของบิดา พร้อมคำทักทายเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดา "วะอะลัยกุมุสลาม." "รอบนี้ลูกเที่ยวหลายวันมากเลยจาร์มาล์ แม่คิดถึงแต่ก็รู้ว่าลูกต้องกลับมา ไม่อยากกวนใจ" มือของผู้เป็นมารดาลูบแก้มของบุตรชายด้วยความรัก พร้อมเอ่ยวาจาออกมาอย่างคนน้อยใจ ทำให้ผู้เป็นสามีที่นั่งมองอยู่อมยิ้ม "ลูกขอโทษที่ทำให้ท่านแม่เป็นห่วง แต่ลูกวางใจได้เพราะยังไงก็มีท่านพ่อที่เอาใจท่านแม่แทนลูกอยู่แล้ว...จริงไหมขอรับท่านพ่อ" จาร์มาล์ลั่นวาจาปลอบใจผู้เป็นมารดา ตามสำทับด้วยการเอ่ยหาความเห็นจากบิดาที่นั่งอยู่ตรงข้าม "นั่นเมียพ่อ ไม่ต้องรอใครมาเอาใจแทนหรอก...แล้วนี่เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยวเตรดเตร่เสียที ภารกิจมีมากมายไม่คิดจะช่วยดูแล" คำพูดเอ่ยแซวบุตรชายที่เรียกรอยยิ้มเขินอายให้แก่ภริยา แต่ว่าประโยคหลังที่ลั่นออกมาทำเอาบุตรชายถึงกับยิ้มไม่ออก "ขอเวลาลูกไม่นาน แล้วจะมาช่วยงานนะขอรับ" การร้องขอต่อกลอนลั่นบอกไป ทำเอาบิดาถึงกับส่ายหัว แม้จะมีภารกิจมากมาย แต่ก็ไม่อยากจะเร้าหรือบังคับบุตรชายให้กระทำ เพราะเชื่อให้คำมั่นที่บุตรชายได้ให้ไว้ เมื่อควรค่าแก่เวลาเขาจะมารับหน้าที่ตามที่เอ่ยปาก "ไม่บังคับ แต่ก็ใช่ว่าต้องรอนาน...งานไม่รออย่างที่ลูกคิดหรอกจาร์มาล์ เออ...แล้วไหนบอกว่ามีคนรัก ไม่เห็นจะพามาแนะนำเลยสักครั้ง" ".........." ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นด้วยคำสอน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสิ่งที่นึกขึ้นได้ คำว่าคนรักที่ทำให้รอยยิ้มอ่อนของจาร์มาล์หายไป ยิ่งคิดย้อนไปยิ่งทำให้เขาเคียดแค้น แต่มันต้องเก็บกลั้นไว้ในใจ แสดงความเกรี้ยวโกรธออกมาก็ไม่ได้ ทำได้เพียงนิ่งเฉยเท่านั้น ทั้งที่ภายในใจนั้นกำลังบีบรัดก้อนเนื้อข้างซ้ายด้วยความเจ็บแค้น "ตอนนี้ลูกยังไม่พร้อม...อย่าสนใจเรื่องของลูกเลยขอรับท่านพ่อ มันไม่ได้มีสาระอะไรเลยสักนิด" การบ่ายเบี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจ แต่หาใครอื่นใดรู้ไม่ว่ามันคือความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับไว้ ไม่สามารถพูดมันออกไปให้ใครฟังได้ "ทำไมลูกพูดแบบนั้นจาร์มาล์" เสียงของผู้เป็นมารดาทักท้วง เมื่อสีหน้าของบุตรชายดูไม่ยิ้มแย้มเหมือนก่อนหน้า เพียงแค่สิ้นคำถามของผู้เป็นบิดา ".........." บุตรชายเลือกที่จะเงียบเมื่อผู้เป็นมารดานั้นต่อว่า คำว่าคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นคนเคยรัก เพราะถูกหักหลังมันทำให้จาร์มาล์นั้นฝังใจเจ็บ "เอาละ...ฟาตินก็อย่าไปตำหนินัก จาร์มาล์ขึ้นไปพักเถอะ" เมื่อเห็นสายตาที่ฟาดฟันระหว่างบุตรชายและภริยา ผู้ที่เป็นประมุขของครอบครัวจึงเอ่ยแทรก ส่งสัญญาณทางสายตาแยกให้ลูกออกห่างจากผู้เป็นมารดา ลูกผู้ชายเหมือนกันย่อมเข้าใจในสิ่งที่สื่อ แต่กับคนเป็นสามีก็ไม่อยากจะริดรอนความรู้สึกของภริยา "ท่านชอบให้ท้ายลูกจนเริ่มเสียนิสัยเหมือนกับท่าน..." น้ำเสียงที่เง้างอนไม่พอใจ สะบัดใส่ผู้เป็นสวามี "ทำไมกลายเป็นแบบนี้ล่ะฟาติน" หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงด่าทออย่างไม่ไว้หน้า แต่ทว่าตอนนี้ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป กาลเวลาและความรักที่มีให้ มันผันกลายอุปนิสัยร้ายไปแทบหมดสิ้น ไม่เคืองโกรธผู้เป็นภริยาเลยสักนิดในการต่อว่า มันกลับเรียกรอยยิ้มของคนยิ้มยากเสียมากกว่า รวมทั้งบุตรชายที่นั่งมองไม่กะพริบตาเช่นกัน "ลูกขอตัว...ยังไงก็รักท่านแม่นะขอรับ" จากที่บึ้งตึงแปรเปลี่ยนเป็นอมยิ้มทันทีทันใด เมื่อได้เห็นอาการของผู้เป็นมารดาตอนนี้ แม้จะเป็นการตำหนิ แต่เมื่อผู้เป็นบิดาช่วยเหลือไม่ให้โดนไปมากกว่านี้ ย่อมเป็นการดีแล้ว สองเท้าเหยียบย้ำไปตามพื้นกระเบื้องหรูหรา ราวบันไดที่เป็นทองแท้ทั้งสองฝั่ง แวววับสัมผัสรับกับแสงไฟที่สาดส่อง จาร์มาล์เดินขึ้นมายังคฤหาสน์ฟากฝั่งที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว โดยมีริฏวานคนสนิทคอยติดตามรับใช้ "ไปพักเถอะ...เราจะพักผ่อนเช่นกัน" เสียงเข้มสั่งการโดยไม่หันมามอง จากนั้นก็เดินทอดน่องเข้าสู่ห้องน้ำหรูหรา ที่ถูกตระเตรียมเพื่อการใช้งานในทันที "สิ่งที่ทำกับเรา...แพศยาอย่างเธอต้องชดใช้อย่างทรมาน" การนอนแช่น้ำหวังผ่อนคลาย แต่ไฉนเลยในหัวถึงได้มีภาพของเธอที่เกลียดชังฉายวับเข้ามา แก้วไวน์แดงรสเลิศกรอกเข้าปากอย่างต่อเนื่อง แววตาคมเข้มที่ทอดมองออกไปตามทัศนียภาพที่กว้างไกล ฉายแววอาฆาตเคียดแค้นเพียงแค่ใบหน้ามนนั้นวนเวียนให้นึกถึง กริ่ง กริ่ง เสียงของเครื่องมือสื่อสารดังเข้ามา หันเหสายตาให้ความสนใจต่อการโทรเข้าหา ทำให้ความคิดนั้นหยุดชะงักลงทันที "มีอะไร!?" ตอบรับปลายสายด้วยน้ำเสียงที่น่ายำเกรง (นักโทษที่อยู่ในกรงขัง นางป่วยตัวสั่น พวกเราล้วนเป็นชาย ไม่รู้ต้องจัดการอย่างไรครับ ได้แต่เฝ้านางนอนตัวสั่นเท่านั้น และเหมือนอาการจะไม่ค่อยสู้ดี หากปล่อยไว้แบบนี้นางคงแย่) เสียงของบริวารที่ได้รับมอบหมายกล่าวรายงานอย่างละเอียดยิบ "ไม่น่าตาย ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ" ความใจแข็งไม่คิดโอนอ่อน แม้จะได้รับรายงานถึงอาการของจัสซีเนีย (ขอรับนายท่าน) แม้บริวารที่เห็นอาการจะนึกสงสาร แต่ในเมื่อไม่มีคำสั่งการจากปากของผู้เป็นนาย ก็ไม่อาจจะล่วงล้ำกระทำเองได้ จึงตอบรับด้วยความจำยอมและวางสายไป "หึ!! คนแบบนางไม่ตายง่าย ๆ หรอก" รอยยิ้มมุมปากที่ร้ายกาจ มือหนึ่งควงแก้วไวน์รสชาติดี ก่อนจะยกจิบอย่างสบายใจ แต่อีกฟากฝั่งนั้นช่างต่างกันลิบลับ เขาดูมีความสุข แต่เธอกลับทุกข์ตรมและข่มขื่นเจียนตาย ร่างกายที่อ่อนแออ่อนแรงเหนื่อยล้า การถูกทำร้ายร่างกายทำให้เธอนั้นจับไข้ แต่เขาไม่คิดจะสนใจ เพราะมีความแค้นครอบงำ ------------------------------------- สามารถติดตามเรื่องราวของอานัสและฟาติน (กรงรักในมือซาตาน) ได้ในรูปแบบ E-book - https://w***************m/ebook-106642-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99 หรือ สั่งซื้อหนังสือได้ที่เฟซบุ๊ก // พลอยแก้ว นามปากกา ได้ในราคาเล่มละ 359 บาท(ส่งฟรี)

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.0K
bc

กระชากกาวน์

read
7.9K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.0K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.0K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.1K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook