คืนบาปของทาส 1

1073 Words
หลังเสพเซ็กซ์จากร่างกายของเธอจนอิ่มหนำฉ่ำปอด จอห์นก็สลัดแข้งขาทิ้งให้นาริณนอนจมอยู่กับความทุกข์ในใจเพียงคนเดียวเช่นทุกครั้ง แม้เขาจะอุตส่าห์สละเวลาเช็ดล้างคราบน้ำกามบนเนื้อหนังให้ตอนที่เผลอไผลหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะสำคัญต่อเขามากเกินกว่าการเป็นทาสบำเรอความใคร่วิปริตผิดมนุษย์ของ ‘จอห์น คอนราร์ด’ นาริณพลาดตั้งแต่แรกที่ยินยอมให้ผู้ชายสารเลวคนนี้เอาเปรียบมาตลอดเพียงเพราะความรักที่เธอจะไม่มีวันได้สมหวัง และไม่มีวันที่เขาจะยอมปล่อยวางของเล่นชิ้นโปรดในมือ หนทางเดียวที่นาริณจะมีอิสระภาพได้คือการมีอำนาจอยู่เหนือ ‘จอห์น คอนราร์ด’ ชายหนุ่มวัย 32ปี ผู้ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจประเทศมหาอำนาจของยุโรป  คืนที่พายุฝนกระหน่ำลงมาไม่ลืมหูลืมตา ในบ้านเช่าห่างจากตัวเมืองซึ่งเป็นที่พักของนักเรียนทุนในหมู่บ้านช็องเบอร์รี่ นาริณกำลังอาบน้ำอุ่นอย่างสบายอารมณ์ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำในแท้งค์เก็บน้ำอุ่นจะไม่เพียงพอสำหรับเพื่อนนักศึกษาคนอื่นซึ่งเดินทางกลับบ้านเกิดทันทีหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ห้องพักของเธอซึ่งอยู่บนชั้นสองถูกผู้บุกรุกไขกุญแจเข้ามาอย่างใจเย็น เขาถอดเสื้อผ้าวางไว้บนเก้าอี้เข้ามุมติดหน้าต่างที่นาริณมักจะนั่งทำรายงานตรงนั้นเสมอ แอบซ่อนร่างกายใหญ่โตใต้ม่านหนาหนักยาวจรดพื้นชั้นบนที่รูดไว้ด้านข้างเหลือเพียงม่านผ้าแก้วอีกชั้นซึ่งบดบังกระจกใสเลือนลาง เฝ้ามองเรือนร่างไร้อาภรณ์ซึ่งเดินออกมาจากห้องอาบน้ำในสภาพเกือบเปลือยทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงกางเกงชั้นในสีขาวบดบังความนูนเด่นแสนเร้าใจ เธอหมุนตัวไปมาหน้ากระจก สำรวจรูปร่างและสัดส่วนที่โตเต็มวัยสาว ลูบไล้ความโค้งเว้าแล้วกอบกุมก้อนเนื้อขาวขนาดล้นหลามฝ่ามือ พลางส่งยิ้มหวานให้ตัวเองอย่างภูมิใจในความงามซ่อนรูป ผู้บุกรุกยามวิกาลรู้ดีถึงสาเหตุที่นาริณขัดสีฉวีวรรณร่างกายอยู่นานเกือบชั่วโมงว่าเพราะอะไร นั่นคืออีกสาเหตุที่เขาร้อนจนนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้และตัดสินใจทำสิ่งที่ปรารถนามานานร่วมสี่ปีในคืนนี้ สายฟ้าของเทพเจ้าจูปิเตอร์ฟาดลงหม้อแปลงไฟฟ้าของหมู่บ้าน ทุกพื้นที่ตกอยู่ภายใต้ความมืด และเขาก็ตัดสินใจพาร่างกายสูงใหญ่เกินกว่าเมตรเก้าสิบเดินเปลือยเปล่าออกมาจากหลังม่านหน้าต่าง(เทพจูปิเตอร์/Jupiter เทพแห่งสายฟ้า) ติดตามกลิ่นหอมที่โชยมาจากผิวกายบอบบางของนาริณ กลิ่นเดียวกับกุหลาบสายพันธุ์วิคตอเรีย กลิ่นผลิตภัณฑ์น้ำหอมรุ่นทดลองที่เขาส่งมาเป็นของใช้แก่นักเรียนทุนในโครงการ “โชคดีที่อาบน้ำเสร็จก่อน” เสียงเจ้าของห้องบ่นพึมพำ เลือกที่จะเข้านอนโดยไม่สวมอะไรอีก มันไม่ใช่เรื่องเข้าท่านักหากต้องค้นหาเสื้อผ้าความมืด “ ฮ๊ะ! ” ร่างบางหมุนตัวกลับมายังเตียงนอนเพื่อจะเผชิญหน้ากับความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีด เธอปะทะเข้ากับร่างกายสูงใหญ่ซึ่งเปล่าเปลือยเช่นเดียวกัน และใบหน้าเล็กๆ ของเธออยู่แค่ระดับอกกว้างแสนอุ่นอ้าวของผู้ชาย อ้อมแขนแข็งแรงราวเป็นวัตถุที่หล่อจากเหล็กกล้ารวบแขนเรียวสองข้างแนบร่างบางกดเข้าหาตัว และกอดรัดเธอเอาไว้แน่นด้วยแขนเพียงข้างเดียว ขณะฝ่ามือหยาบหนาอีกข้างทำหน้าที่ลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเปลือยอย่างย่ามใจ “ปล่อยฉัน! ปล่อยเถอะนะ ได้โปรด! ” เธอรวบรวมสติกล่าวอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ฟังแล้วน่าสงสารมากที่สุด แต่ลมหายใจผ่าวร้อนที่เป่ารดบนกระหม่อมมันรุนแรงแสดงออกว่าอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอารมณ์หื่นกระหายเหมือนสัตว์ร้ายหิวโซ มือใหญ่ที่เลื่อนลงไปบีบขยำบั้นท้ายของเธอดันหน้าท้องแบนราบขึ้นสัมผัสกับอวัยวะบ่งชี้ความเป็นบุรุษเพศอันแข็งชูชันอย่างน่าสะพรึง สัญชาตญาณบอกให้นาริณรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ใดเลยสักนิดที่จะทำตัวอ่อนแอ “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!...” ร่างเล็กบิดหมุนเหวี่ยงตัวและกระทืบเท้าลงบนเท้าที่เปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเธอสุดแรง ทั้งเตะหน้าแข้งของตัวเองใส่เขาอย่างบ้าคลั่งจนเจ็บไปหมด แต่กลับไม่สะกิดให้อีกฝ่ายรู้สึกสะดุ้งสะเทือนได้เลย เสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือของนาริณ ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงห่าฝนและเสียงลมพายุที่พัดแรงอยู่ด้านนอกยิ่งเธอกรีดร้องโหยหวนหรือส่งเสียงคร่ำครวญสะอื้นไห้ดังมากสักเท่าไร ก็เหมือนยิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของคนโฉดให้ลุกโลดตื่นตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ขาเรียวเล็กของเธอถูกมือทรงพลังยกขึ้นเกี่ยวสะโพกสอบแล้วล้มทับร่างน้อยลงบนที่นอน ใช้หน้าท้องแกร่งกดทับกลางตัวเธอเอาไว้ขณะผูกเชือกรัดผ้าม่านซึ่งหยิบติดมือมาด้วยมัดรวบข้อมือเล็กๆ สองข้างกับเสามุขหัวเตียงอย่างใจเย็น อาการดีดดิ้นกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเหยื่อไม่ได้ทำให้เขาเกิดความหวาดระแวงว่าจะมีใครมารับรู้ถึงความอัปยศที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ ร่างสูงใหญ่หยัดหลังนั่งตรงใช้เข่าสองข้างกดต้นขาของเหยื่อกางออก แค่นั้นก็หยุดการเคลื่อนไหวต่อสู้ได้หมดทุกทาง ปล่อยให้เธอแผดเสียงที่ร้องกรี๊ดแข่งพายุฝนด้านนอกอย่างไม่ยอมสิ้นหวัง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าระยะทางของบ้านแต่ละหลังนั้นห่างไกลเกินกว่าเสียงแสบแก้วหูของเธอที่จะส่งถึงใคร เลือดในร่างกายเยียบเย็นและนาริณก็หวาดกลัวจนลืมกรีดร้อง เมื่อฝ่ามือผ่าวร้อนขนาดใหญ่ลูบไล้ผิวเนื้อหน้าอกแผ่วเบา แล้วคีบขยี้ยอดกลมเล็กที่หดเกร็งต่อสัมผัสแปลกใหม่ ก่อนจะก้มลงมาแลบลิ้นเลียอย่างยั่วยุอารมณ์ “หึๆ...” เสียงห้าวหัวเราะในลำคอดังทุ้มน่าฟังและไม่ได้หยาบโลนหูเหมือนที่นาริณนึกเอาไว้ “อย่า...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD