ความทรมานไม่ต่างจากครั้งก่อน กำลังจู่โจมเล่นงานเธออย่างหนัก ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ อีกไม่นานเธอก็คงจะกลายเป็นผีเฝ้าสระ
สำนึกสุดท้ายก่อนที่หญิงสาวจะลาโลกนี้ไป ไร้ห่วง ไร้กังวล มันคงถึงเวลาของเธอแล้วจริงๆ ดีเหมือนกันจะได้ไปอยู่กับครอบครัว คนที่เธอรัก
...พ่อ แม่ ป้าภารอพลอยด้วยนะ พลอยกำลังจะไปหา
ขณะกำลังปล่อยตัวเองให้จมลงไปช้าๆ จู่ๆ ก็มีมือใหญ่เรี่ยวแรงมหาศาลดึงกระชากตัวเธอเต็มแรง จนร่างปลิวขึ้นเหนือน้ำ ใบหน้าเล็กแหงนเงยขึ้นสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดเฮือกใหญ่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
แค่ก แค่ก
…เธอยังไม่ตาย...
ดุจพลอยสำลักน้ำอยู่หลายครั้ง แสบคอแสบจมูก แขนขาอ่อนแรง ได้แต่นอนนิ่งหมดสภาพอยู่แบบนั้น แต่หูยังแว่วได้ยินเสียงเรียกเธอดังมาไม่หยุด
หนังตาหนังอึ้งค่อยๆ ขยับ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองภาพทุกอย่างตรงหน้า เบลอเหมือนสมองเธอที่ช็อคไปชั่วขณะ ดุจพลอยกระพริบตาถี่ๆ หลายครั้ง แล้วใบหน้าลางเลือนของผู้ชายคนหนึ่งก็ค่อยปรากฏชัดขึ้น เขาจ้องมองเธอ สีหน้าแววตาวิตกกังวล เป็นห่วง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนช่วยเธอให้รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราช
“คุณพลอย!!...ป้าจอม ป้าจอม คุณพลอยตกน้ำ” เสียงน้อยตะโกนดังโหวกเหวก ก่อนจะวิ่งถลาเข้าไปหาเจ้านายสาวที่นอนเปียกโชกอยู่ริมสระว่ายน้ำ ใบหน้าดุจพลอยซีดเผือด ลมหายใจหอบแรง
จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหลายคนกำลังวิ่งตรงมาที่สระว่ายน้ำ แต่ดุจพลอยอ่อนแรงเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมา หรือพูดจากับใครอีก ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองนอนหลับตานิ่งอยู่แบบนั้น
“เดี๋ยวผมช่วยครับ” เสียงชายหนุ่มคนที่อยู่ใกล้เธอเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นน้อยกับป้าจอม และสาวใช้หลายคนรุมเข้ามา แต่กลับยืนเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก คงเพราะความตื่นตกใจ
“ขอบคุณ ขอบคุณนะคะ” น้ำเสียงสั่นเทาของป้าจอมบอกขอบคุณซ้ำๆ ไปมาด้วยความตระหนกตกใจ คนแก่คงแทบหัวใจวาย เพราะแม้แต่เธอยังคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผีเฝ้าสระไปแล้ว ไม่ใช่ว่ากลัวความตายหรอกนะ แต่ขอเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่จมน้ำได้ไหม เพราะความทรงจำมันแสนทรมานจับใจ
คมกฤชก้มลงช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้ม ร่างเล็กลอยวืดขึ้นสูง ปลุกหญิงสาวให้ลืมตาตื่นด้วยความตระหนกแทบผวา ก่อนจะผ่อนคลายลงเมื่อรู้ว่าเขากำลังช่วยเหลือเธอ จะอ้าปากขอบคุณ แต่ก็ไร้เสียง ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะเอ่ยอะไรออกมาได้
สายตาเหลือบมองไปทางริมสระว่ายน้ำ โดยไม่ตั้งใจ เมื่อจุดโฟกัสคือใบหน้าคมเข้มของคนที่เรียกใช้งานเธอ จนแทบไม่มีเวลาพักหายใจหายคอ ดูเรียบเฉย ไม่ทุกข์ร้อนกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ดวงตาคมกริบจ้องประสานมา แววตาเหี้ยมเกรียม บอกถึงความสะใจ สมใจ รอยยิ้มกดลึกมุมปาก ทำหญิงสาวถึงกับตกตะลึง รูขุมขนบนกายพร้อมใจกันลุกเกรียว
ไม่จริงหรอกน่า มันคืออุบัติเหตุ…ใช่ไหม...?!!
“คุณพลอยเป็นไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่ไหม”
“อือ...” เสียงคนป่วยขานรับในลำคอ รู้สึกตัวแต่หนังตา หนักอึ้งลืมไม่ขึ้น
“ดูสิ ตัวยังร้อนอยู่เลย กินข้าวกินยาหน่อยนะคะ” ป้าจอมยกมือขึ้นอังหน้าผากมน ไอร้อนระอุลอยมากระทบผิว อดวิตกไม่ได้เมื่ออาการคนป่วยยังไม่ดีขึ้น
“ค่ะ” ลำคอแห้งเป็นผุยผง กลืนน้ำลายทีก็บาดคอจนแทบกลืนไม่ลง
อาการซมหนักเพราะพิษไข้ของดุจพลอย หนักสุดในรอบหลายปี ปวดร้าวไปทั้งหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัว จะขยับแต่ละทีก็แสนทรมาน คงเพราะเมื่อวานเธอออกแรงดิ้นหนีตายช่วยเหลือตัวเองตอนอยู่ในน้ำ
ดวงตากลมโตค่อยๆ ลืมขึ้น สายตากวาดมองรอบห้อง ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่กลับเวียนหัว มวนท้อง หวิวๆ เหมือนจะอ้วก จนต้องล้มตัวลงไปใหม่
เมื่อวานหลังจากหาหมอเสร็จ เธอก็กลับมานอนซมบนเตียง นอนหยอดข้าวต้ม กินยา วนเวียนอยู่แบบนั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่ทรมานยิ่งนัก
“มาค่ะ เดี๋ยวป้าช่วย” ป้าจอมยื่นมือเข้ามาช่วยพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่งเพื่อจะได้กินข้าวกินยา
“ขอบคุณค่ะ”
“ดูสิยิ่งตัวเล็กๆ อยู่ ล้มป่วยทีก็ผอมจนแทบจะปลิวลม คุณพลอยต้องกินข้าวกินยานอนพักเยอะๆ จะได้หายไวๆ”
“ขอบคุณนะคะป้าจอม” คำพูดเป็นห่วงเป็นใยของป้าจอมทำเอาคนป่วยน้ำตารื้น คิดถึงป้าผู้ล่วงลับ
หากวันนี้ภาณียังอยู่ เธอก็คงไม่ถูกใครรังแก และคงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายแบบเมื่อวานแน่นอน แต่อย่างว่าตอนนี้เธอเหมือนตัวคนเดียวบนโลก จะร้องไห้คร่ำครวญให้ตายก็ไร้ประโยชน์
มือเล็กยกขึ้นกรีดน้ำตา ไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นคนอ่อนแอ แค่สภาพเธอตอนนี้ก็ราวกับผู้ป่วยหนัก ไม่ไหวจริงๆ
“ทานข้าวต้มก่อนนะคะ แล้วค่อยกินยา”
“...ป้าจอมคะ แล้วคุณลุง” เมื่อนึกขึ้นได้ ดุจพลอยก็รีบถามถึงสมภพทันที กังวลกลัวว่าลุงเขยจะรู้เรื่อง แล้วทำให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ เชื่อว่าคนยุติธรรมแบบสมภพต้องไม่ปล่อยผ่าน และคงจะเอาเรื่องกับธาวิน นั่นยิ่งทำให้สองพ่อลูกขัดแย้งกันมากขึ้น
ถ้าถามเธอว่าเหตุการณ์เมื่อวานมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ตอบไม่ได้จริงๆ ในเมื่อระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่เคยประมาทเมื่ออยู่ใกล้น้ำ แต่...ใครชน...เธอตกลงไปเอง หรือเป็นแผนการของเขา
ไม่น่าใช่ เพราะธาวินเป็นคนชัดเจน เกลียดคือเกลียด ด่าจิกกัดไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหน ร้ายตรงๆ ไม่มีลับหลัง แล้วเหตุการณ์เมื่อคืนคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ธาวินก็แค่สะใจที่เห็นเธอเจ็บตัว
“คุณภพยังไม่กลับค่ะ”
“อ้อ” เธอลืมสนิทว่าสมภพไปออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาว โชคดีไป ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องอีก “ป้าจอม…อย่าบอกเรื่องนี้กับคุณลุงนะคะ”
“ทำไมล่ะ…”
“นะคะ ตอนนี้พลอยก็ปลอดภัย ไม่เป็นไรแล้ว”
“ป้ารู้นะว่าคุณพลอยคิดอะไร ถึงไม่บอกตอนนี้ สักวันคุณภพก็ต้องรู้”
“แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้” สายตาวิงวอนขอร้องของคนป่วย ทำเอาแม่บ้านใหญ่ใจอ่อนยวบ ด้วยความสงสารลูกนกลูกกา
“ก็ได้ค่ะ งั้นคุณพลอยก็กินข้าวกินยา จะได้หายไวๆ ก่อนคุณภพจะกลับ”
“ค่ะ”
“มาเดี๋ยวป้าช่วย” แล้วชามข้าวต้มก็ยื่นส่งมาตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับช้อนข้าวที่ตักขึ้นมาจ่อปาก
“ไม่ต้องหรอกค่ะ พลอยกินเองได้”
“แค่นั่งยังจะล้มเลย ไหวเหรอคะ”
“ไหวค่ะ ป่วยแค่ไข้หวัดเอง”
“ค่ะ งั้นก็ค่อยๆ ทาน เดี๋ยวป้านั่งเป็นเพื่อนตรงนี้แหละ”