bc

ย้อนเวลามาเป็นท่านแม่ของเจ้าลูกหมู

book_age16+
1.4K
FOLLOW
7.0K
READ
HE
second chance
sweet
like
intro-logo
Blurb

หนิงเซียนแค่งีบหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็กลายเป็นท่านแม่ของเจ้าลูกหมูไปแล้ว!

จากสาวโสดสู่ท่านแม่ของเจ้าลูกหมู เด็กอ้วนแก้มซาลาเปาช่างน่ารักยิ่งนัก แต่น่าสงสารที่ท่านแม่คนก่อนไม่ใส่ใจเขา วันๆ เอาแต่ปีนกำแพงหนีหาชายชู้

เอาเถิด! ท่านแม่คนใหม่จะใส่ใจและดูแลเจ้าเอง!

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 เจ้าลูกหมู
“ท่านแม่ ท่านแม่!”  เสียงเล็กๆ ดังที่ข้างหูทำให้หนิงเซียนรู้สึกตัว ความรู้สึกแรกหลังลืมตาคือเจ็บร้าวไปทั้งแผ่นหลัง หญิงสาวถึงกับหน้าเบ้สูดปาก ค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล  “ท่านแม่ฟื้นแล้ว”  หนิงเซียนที่ยังร้องโอดโอยหันมองตามเสียง แล้วพบว่าเป็นเด็กผู้ชายวัยประมาณสี่ขวบสวมชุดสีฟ้านั่งยองๆ อยู่ข้างนาง เด็กน้อยคนนั้นตัวอวบอ้วนผิวขาวจั๊วะ แก้มของเขาคล้ายซาลาเปาเสียจนนางอยากกัดดูสักครั้ง  หนิงเซียงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนถามออกไปว่า “เด็กน้อย หนูเป็นใครมาจากไหน” เด็กน้อยเบิกตามองนางอย่างฉงน ริมฝีปากสีแดงสดเผยอขึ้น ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร เสียงของฝีเท้าหลายคู่ก็ดังขึ้นมา “นายน้อย อยู่นี่เองหรือขอรับ!” พ่อบ้านหลิวหรือหลิวหร่านวิ่งหน้าตื่นเข้ามาก่อนใครเพื่อน เขาทรุดตัวนั่งแปะอยู่กับพื้นอย่างคนหมดแรง ด้านหลังเขาเป็นบ่าวชายอีกสามคนซึ่งมีสภาพไม่ต่างกัน ชายวัยกลางคนถอนหายใจโล่งอก เขาละสายตาเพียงไม่นานนายน้อยก็หายออกไปจากห้องหนังสือ หลิวหร่านกลัวว่าจะเหมือนเหตุการณ์ครั้งนั้น... หลิวหร่านตาโตเมื่อเห็นนายหญิงนั่งแหมะอยู่พื้น มองเลยไปด้านหลังเห็นบันไดลิงพาดอยู่กับกำแพงสูงก็ถอนหายใจอีกเฮือก “ฮูหยิน นี่ก็เริ่มมืดแล้ว บ่าวว่าฮูหยินกลับเรือนเถอะขอรับ” เขาก้มหน้ากล่าวกับนายหญิงอย่างนอบน้อม หนิงเซียนมองคนแปลกหน้าเหล่านั้นอย่างสับสน ยืนขึ้นแล้วหมุนมองรอบตัวอย่างสงสัย บรรยากาศมืดสลัวมีเพียงแสงจากโคมที่พวกเขาถือ นางพบว่าตนเองกำลังยืนอยู่ข้างกำแพงสูง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน กำลังคิดว่าที่นี่คือที่ใดกัน ความทรงจำครั้งล่าสุดคือนางกำลังนอนดูซีรีส์พีเรียดเรื่องหนึ่งแล้วภาพก็ตัดไป  “ท่านแม่...” หญิงสาวก้มมองเด็กน้อยที่เงยหน้ามองนางแล้วเรียกนางว่าท่านแม่ มืออวบน้อย ๆ คู่นั้นจับมือนางไว้แน่น “ท่านแม่ไม่ไปได้หรือไม่” หนิงเซียนมองดวงตาสดใสที่กำลังจ้องมองนางราวจะอ้อนวอนก็ใจอ่อนระทวย นางนั่งลงแล้วบีบแก้มซาลาเปาอย่างมันเขี้ยว แม้ไม่รู้ว่าที่เด็กน้อยพูดหมายความว่าอะไร แต่นางก็ตอบไปว่า “แม่ไม่ไปแล้ว” หญิงสาวคิดว่าตนเองคงกำลังฝัน ฝันว่าได้ย้อนยุคและเป็นฝันดีเสียด้วย พื้นนิสัยนางเป็นคนชอบเด็กอยู่แล้ว คิดอยากมีลูกอยู่เหมือนกัน แต่สาวโสดงานยุ่งเช่นนางจะมีเวลาที่ไหนไปหาพ่อของลูกกัน  เหยียนอันดีใจ เด็กน้อยกระโดดกอดคอมารดา “ท่านแม่ ข้าอยากฟังนิทาน ท่านแม่เล่านิทานให้ข้าฟังได้หรือไม่” พูดจบเด็กน้อยก็หลุบตาลงไม่มั่นใจ กลัวท่านแม่ปฏิเสธไม่เล่านิทานให้ฟัง เขาชอบฟังเสียงของท่านแม่ที่สุด เสียงท่านแม่ไพเราะนุ่มนวล แม้พักหลังท่านแม่จะชอบพูดเสียงดังกับเขาก็ตาม  หนิงเซียนอุ้มเด็กน้อยขึ้น “ได้ แม่จะเล่านิทานสนุกๆ ให้ลูกฟัง” ฝันนี้กำลังเติมเต็มความปรารถนาของนาง นางอยากปลุกลูกให้ตื่นไปโรงเรียน แต่งตัวให้เขา ทำอาหารอร่อยๆ ให้เขากิน กล่อมเขาเข้านอนด้วยนิทานสนุกๆ เฝ้าดูการเติบโตของเขาด้วยความรักที่บริสุทธิ์ หลิวหร่านถอนหายใจรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่ได้นับ เฝ้ามองสองแม่ลูกเดินจากไปจนลับตา หันไปสั่งให้บ่าวรีบนำบันไดลิงไปเก็บ  สถานที่แห่งนี้หนิงเซียนไม่คุ้นเคยเลย นางจึงเดินตามแสงโคมประดับที่ห้อยเรียงรายอยู่ตามทางเดิน จนกระทั่งถึงเรือนหลังหนึ่ง สาวใช้ในเรือนเห็นนายหญิงก็รีบย่อตัวคำนับ หนิงเซียนปรายตามองพวกนางครั้งเดียวก็ไม่สนใจอีก สิ่งเดียวที่นางสนใจคือเจ้าลูกหมูในอ้อมกอด นางเห็นเขาเอาแต่จ้องหน้าตาไม่กะพริบก็ส่งยิ้มหวานให้  นานมากแล้วที่ท่านแม่ไม่อุ้ม ไม่ยิ้มให้เขาเช่นนี้ เหยียนอันน้อยชอบกลิ่นตัวของท่านแม่เป็นที่สุด เขาจึงกอดท่านแม่ไว้แน่นและเอาหน้าซุกซอกคออุ่น “แม่จะเล่าเรื่องพินอคคิโอให้ฟังดีหรือไม่” เหยียนอันไม่รู้ว่าพินอคคิโอคืออะไร เล่าอะไรให้ฟังเขาก็ว่าดีทั้งนั้น ขอเพียงเป็นท่านแม่เล่า เด็กน้อยรีบพยักหน้าโดยไว “ดีขอรับ”  หนิงเซียนมีความสุขมาก นางวางเจ้าลูกหมูไว้บนเตียงแล้วก้มถอดรองเท้าให้เขา  ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม เหยียนอันที่นอนตะแคงหันหน้ามองมารดา ดวงตาเด็กน้อยปรือปรอยเพราะง่วงเต็มที มือน้อยจับจมูกตนเองไว้แล้วถามเสียงเบาว่า “ท่านแม่ หากพูดโกหกจมูกจะยาวจริงหรือ”  หนิงเซียนหัวเราะด้วยความเอ็นดู ตอนนี้เจ้าลูกหมูหลับแล้วทั้งที่มือยังจับจมูกตนเอง หญิงสาวดึงผ้าห่มมาห่มให้ นางเองก็รู้สึกง่วงแล้วเช่นกัน นางคิดว่าหากนางหลับ ตื่นขึ้นมาคงไม่เจอเด็กคนนี้อีกแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม นางถึงรู้สึกผูกพันธ์กับเด็กคนนี้เหลือเกิน   มือที่กำลังตบหลังกล่อมเด็กน้อยเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง สุดท้ายก็หยุดนิ่งไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของสองแม่ลูกบนเตียง  ผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วยาม  ร่างสูงสวมชุดสีงาช้างก้าวพรวดเข้ามาในห้อง กวาดสายตามองหาบุตรชายแต่กลับไม่พบ “เสี่ยวอันไปไหน!” เขาตะคอกถามพี่เลี้ยงที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกล  “นะ นายน้อยอยู่กับฮูหยินที่ห้องเจ้าค่ะ” ลี่จวินตอบตะกุกตะกัก  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที สองมือกำแน่น ก่อนก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป ลี่จวินผ่อนลมหายใจยาว เมื่อครู่นางไปตามนายน้อยแล้ว แต่เห็นว่าหลับอยู่จึงไม่อยากปลุก  เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง เหยียนหยงเล่อก็เห็นภาพของสองแม่ลูกนอนกอดกันแนบแน่นอยู่หลังม่านเตียง เขาแค่นเสียงฮึในลำคอ แล้วนิ่งไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังใช้ความคิด สุดท้ายก็ตัดสินใจอุ้มลูกชายกลับห้อง  เหยียนหยงเล่อนั่งฟังหลิวหร่านรายงานเรื่องซ้ำซากด้วยสีหน้าเรียบเฉย หาใช่ครั้งแรกไม่ที่สตรีผู้นั้นพยายามปีนกำแพงเพื่อออกไปพบชายชู้ สิ่งเดียวที่เหยียนหยงเล่อกลัวคือลูกชายจะแอบตามแม่ของเขาไป เหยียนอันน้อยรักมารดาเสียยิ่งกว่าอะไร เขารู้เพียงว่าท่านแม่ชอบปีนกำแพงหนีเที่ยวยามวิกาล ครั้งนั้นเขาแอบตามท่านแม่ไป แล้วบังเอิญถูกโจรจับตัวไปเรียกค่าไถ่ โชคดีที่เหยียนหยงเล่อช่วยลูกชายไว้ได้ หลังจากนั้นเขาก็เข้มงวดกับบ่าวในเรือนมากขึ้น ให้คอยจับตาดูเหยียนอันให้ดี ส่วนสตรีที่สมควรตายนั่น เด็กคนนี้จะเจ็บป่วยหรือตายนางก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะวัน ๆ สนใจแต่ชายชู้  เหยียนหยงเล่อโบกมือไล่บ่าวให้ออกไป เขาหลับตาลง ปวดหัวยิ่งนัก! หนิงเซียนรู้สึกตัวกลางดึกเพราะรู้สึกหนาวเข้ากระดูก มือควานหาผ้าห่มอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องเด้งตัวขึ้น แสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันบนหัวเตียงพอให้มองเห็นภาพรอบตัวดูแปลกตาไป หญิงสาวขมวดคิ้ว ก้มมองข้างตัว เจ้าลูกหมูไม่อยู่แล้ว นางพึมพำกับตนเองเสียงแผ่วว่า “นี่เรายังฝันอยู่หรือ”   ท่ามกลางความเงียบสงัด จู่ๆ ก็มีเสียงร้องคล้ายเจ็บปวดดังจากที่ไหนสักแห่ง เสียงนั้นดังแผ่วเป็นระยะ ด้วยความอยากรู้ หนิงเซียนจึงคว้าตะเกียงน้ำมัน เดินตามเสียงนั้นจนถึงเรือนน้อยหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ด้านหลังสุดติดกำแพงสูง แสงสว่างจากด้านในทำให้รู้ว่ามีคนอยู่แน่นอน   หนิงเซียนใช้นิ้วเจาะกระดาษตรงประตูห้องหนึ่งให้เป็นรูแล้วแนบใบหน้าลงไป เป็นจังหวะที่เสียงฉึบดังขึ้นพอดี หญิงสาวเบิกตาค้าง ภาพที่เห็นทำให้นางถึงกับเข่าทรุด ตะเกียงน้ำมันหลุดมือกลิ้งไปไกล  ชะ ช่วยด้วย! นางเห็นคนถูกเชือดคอ!  “ใคร!” เสียงตะโกนดังมาจากด้านใน  ภาพที่เห็นเหมือนจริงจนไม่คิดว่าฝัน หนิงเซียนตบหน้าตนเองอยู่หลายครั้ง พยายามปลุกตนเองให้ตื่นจากฝันร้ายนี้เสียที! ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรง ปรากฏร่างชายสวมชุดสีงาช้างถือมีดเล่มสั้นคมกริบ ความเงาสะท้อนในดวงตาแวววาว ปลายมีดยังมีเลือดสีแดงสดหยดติ๋ง ใบหน้าของชายคนนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือดกระเซ็น หนิงเซียนตัวสั่นสะท้านจนได้ยินเสียงฟันกระทบกัน  “ฮูหยิน?” ชายอีกคนที่สวมชุดสีครามโผล่หน้ามองนาง  เหยียนหยงเล่อไม่สนใจหนิงเซียง ปรายตามองนางแวบหนึ่งแล้วก็หมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไป หนิงเซียนยังนั่งอยู่ที่เดิม แข้งขาอ่อนเปลี้ยไม่มีเรี่ยวแรงจะยืน แล้วนางก็เห็นภาพสยองอีกครั้ง เมื่อมีผู้ชายสองคนช่วยกันลากศพชายถูกเชือดคอออกจากห้องและลากผ่านหน้านางไป สุดท้ายสตินางก็ดับวูบไป หนิงเซียนรู้ตัวอีกที ก็ปรากฏว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงเดิม ภาพรอบตัวยังเหมือนเดิม นางเริ่มกลัวแล้ว ทำไมถึงฝันยาวนานเช่นนี้นะ  ขณะที่หญิงสาวนั่งโง่งมอยู่บนเตียง ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมร่างอวบอ้วนวิ่งเข้ามาหานาง เขาเกาะขอบเตียงแล้วเรียก “ท่านแม่”    หัวใจของหนิงเซียนชุ่มฉ่ำ นางมองเด็กน้อยแล้วยิ้มกว้าง ยื่นแขนออกไปข้างหน้า “เจ้าลูกหมู” เจ้าลูกหมูปีนขึ้นเตียงไปหาท่านแม่ของเขา เขาได้ยินบ่าวในเรือนพูดกันว่า เมื่อคืนท่านแม่ไม่สบายเป็นลมอยู่หน้าเรือนว่านโตว ท่านพ่อเป็นคนพามาส่ง เด็กน้อยเป็นห่วงท่านแม่ จึงรีบมาหาท่านแม่แต่เช้า   เสียงฝีเท้าวิ่งตามหลังเหยียนอันมาติดๆ นายน้อยทั้งอ้วนทั้งขาสั้น ไม่รู้เหตุใดถึงวิ่งเร็วนัก  ลี่จวินเห็นฮูหยินนั่งกอดนายน้อยอยู่บนเตียงก็ตะลึง ก่อนรีบคุกเข่าลงแล้วก้มหน้าเอ่ยเสียงสั่น “ฮะ...ฮูหยิน บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ ที่ปล่อยให้นายน้อยมารบกวนฮูหยินแต่เช้า พอดีนายน้อยได้ยินบ่าวในเรือนพูดกันว่าฮูหยินไม่สบาย นายน้อยเป็นห่วงจึงรีบมาดู”  ลี่จวินเข้ามาทำงานที่นี่ยังไม่ถึงปี มีหน้าที่ดูแลนายน้อยเป็นหลัก นางรู้เพียงว่าฮูหยินคนนี้มีชู้เลยไม่สนใจไยดีลูกชาย ส่วนนายน้อยก็เป็นคนรักท่านแม่ของเขามาก ต่อให้ถูกด่าถูกขับไล่หรือทุบตี เด็กน้อยก็ยังร้องแต่จะไปหาท่านแม่ๆ มีหลายครั้งที่นางอดไม่ได้จนร้องไห้ตามนายน้อยเพราะสงสาร   หนิงเซียนจำได้แค่ว่าตนเองหมดสติไป ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร  “ท่านแม่ไม่สบายหรือขอรับ” สองแขนน้อยๆ กอดท่านแม่ไว้แน่น เงยหน้ามองท่านแม่ตาใสแจ๋ว หนิงเซียนใจเหลวเป็นน้ำ เจ้าลูกหมูของนางเหตุใดถึงน่ารักเช่นนี้นะ “แม่สบายดี” ความรู้สึกผูกพันธ์นี้คืออะไร หนิงเซียนเองยังหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้  “ฮะ...ฮูหยิน ทะ...ท่านจะนอนต่อไหมเจ้าคะ หากนอนต่อ บ่าวจะพานายน้อยกลับ จะได้ไม่รบกวนท่าน” ลี่จวินเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ ฮูหยินเป็นคนนอนตื่นสาย นางจะโมโหจนอาละวาดหากใครไปรบกวนเวลานอนของนาง  หนิงเซียนเหลือบมองหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าคุกเข่าตัวสั่นเทิ้ม เมื่อครู่นางเรียกฮูหยินงั้นหรือ  คนนั้นก็เรียกนางว่าฮูหยิน นี่มันเรื่องอะไรกัน “ท่านแม่ ข้าอยากฟังนิทาน” เหยียนอันน้อยออดอ้อนมารดา  “นายน้อย ท่านมีเรียนนะเจ้าคะ ป่านนี้เหลียงซือฝูคงมารอแล้ว” หากนายน้อยเข้าเรียนช้า นายท่านก็จะตำหนินางอีก ลี่จวินอยากร้องไห้เหลือเกิน  “เขามีเรียนหรือ เรียนอะไร” หนิงเซียนเอ่ยถามอย่างสนใจ ลืมเรื่องที่ครุ่นคิดในหัวไปจนหมดสิ้น  ลี่จวินเงยหน้ามองฮูหยินอย่างแปลกใจ “ระ...เรียนคัดอักษรเจ้าค่ะ”  หนิงเซียนพยักหน้า “เช่นนั้นรอสักครู่ ข้าขอแต่งตัวให้เจ้าลูกหมูก่อน” นางพึ่งสังเกตเห็นว่าเจ้าลูกหมูสวมเพียงชุดตัวในสีขาว ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงเหมือนคนพึ่งตื่นนอน “นิทานแม่จะเล่าให้ฟังก็ได้ แต่หลังเจ้าเรียนเสร็จแล้ว ดีหรือไม่”  เหยียนอันเป็นเด็กดีไม่ดื้อดึง “ดีขอรับ” หนิงเซียนยิ้มพอใจและยิ่งชอบเด็กคนนี้มากขึ้น เขาช่างเป็นเด็กดีว่าง่าย “เอาล่ะ เช่นนั้นเราไปแต่งตัวกันดีกว่า”  ลี่จวินมองสองแม่ลูกโอบกอดกันพลางหัวเราะต่อกระซิกแล้วถึงกับต้องตบหน้าตนเอง ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่นางไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้เลย ตอนนี้นางคงไม่ได้ฝันอยู่หรอกนะ!  หนิงเซียนเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ตอนนี้นางได้กลายเป็นท่านแม่ของเจ้าลูกหมูไปแล้ว แม้ไม่เข้าใจว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือนางอาจหลุดเข้ามาในโลกคู่ขนาน หรือหลุดเข้ามาในอีกมิติที่พบเห็นบ่อยๆ จากหนังหรือไม่ก็นิยาย เอาเถิด...ที่นี่ก็ไม่ได้แย่เท่าไร หากไม่นับเรื่องเมื่อคืนน่ะนะ  หนิงเซียนแต่งตัวให้เจ้าลูกหมูเสร็จแล้ว นางเลือกชุดสีชมพูให้ลูกชาย เหยียนอันไม่ชอบสีหวานแหววแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธกลัวท่านแม่จะเสียใจ ระหว่างที่เดินไปยังห้องโถงซือจี๋สีหน้าของเด็กน้อยจึงบิดเบี้ยวตลอดทาง   ระหว่างที่เดินจูงมือส่งลูกชายไปเรียน หนิงเซียนก็บังเอิญเจอกับชายชุดสีงาช้างเมื่อคืนเข้าพอดี สีหน้าเขาเรียบเฉยเหมือนคืนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน ตอนเขาเชือดคอคนก็มีสีหน้าเช่นนี้ คนยุคนี้ชอบฆ่าคนราวผักปลาสินะ  จู่ๆ หนิงเซียนก็ขาสั่นพั่บ มือที่จูงลูกก็สั่นไปด้วย  “ท่านพ่อ” เหยียนอันคำนับบิดา เหยียนหยงเล่อไม่มองหนิงเซียน ไม่พูดและไม่ถาม เขาเดินเข้ามาอุ้มลูกชาย ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ใครเลือกชุดให้เจ้า ไม่เหมาะ” ชุดสีหวานราวกับชุดของสตรี เหยียนอันไม่พูดอะไร ได้แต่เม้มปาก เขาก็แอบคิดเหมือนท่านพ่อว่าไม่เหมาะ ผู้ชายใส่ชุดสีหวานเช่นนี้น่าอายจะตาย 

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook