ตอนที่3 ลองของ

859 Words
ตอนที่3 ลองของ “เขียนวันเดือนปีเกิดลงไปแค่นั้นใช่ไหมคะ” “ใช่ เร็วเข้าสิฉันจะได้เอาขึ้นไปให้พ่อหมอ” “ค่ะ” น้ำหวานเขียนวันเดือนปีเกิดลงไปในกระดาษแผ่นนั้นแล้วยื่นคืนไปให้เดือนแรม จากนั้นหญิงสาวในชุดขาวก็เดินหายขึ้นไปบนเรือน “คุณน้ำหวานครับผมว่าที่นี่มันดูแปลกๆ นะครับ” สีหน้าของลุงสันต์ยามที่เอ่ยขึ้นบ่งบอกว่าไม่ค่อยแน่ใจว่าสำนักแห่งนี้จะเป็นของจริง หลายต่อหลายที่แล้วที่เขาพาเจ้านายสาวไปพบเพื่อหวังจะช่วยแก้ปัญหาชีวิต แต่กลายเป็นว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเสียเงินเสียงทองโดยเปล่าประโยชน์ “ฉันรู้ รับรองว่าฉันจะไม่เป็นไก่อ่อนให้พวกสิบแปดมงกฏหลอกเอาเงินเหมือนที่ผ่านมาได้อีก ถ้าที่นี่ไม่ใช่ของจริงเราจะรีบกลับกันในทันที” ด้วยประสบการณ์ที่เคยผ่านการเข้าไปในสำนักทรงเจ้าเข้าผีมาหลายที่ทำให้น้ำหวานมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น “ครับ” เสียงเดินบนลงบันไดไม้ด้วยส้นเท้าหนักๆ ดังมาก่อนร่างของเดือนแรมจะปรากฏตัว ใบหน้าของหล่อนบูดบึ้งเหมือนเด็กถูกพ่อแม่ขัดใจ “พ่อหมอบอกให้เธอขึ้นไปพบได้” “ไปกันเถอะครับคุณน้ำหวาน” “เดี๋ยวก่อน! พ่อหมอให้แค่ผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปได้เพียงคนเดียวส่วนลุงรออยู่ข้างล่างกับฉัน” สองเจ้านายกับลูกน้องต่างวัยหันมองหน้ากัน “ว่าไงจะขึ้นไปไหมถ้าไม่ขึ้นก็รีบๆ กลับไปเหอะฉันจะได้ปิดบ้านนอนเสียที” เดือนแรมเท้าเอวมองแขกทั้งสองคน “ขึ้นค่ะขึ้น ลุงสันต์รออยู่นี่แหละฉันขึ้นไปคนเดียวได้” “ครับ” “เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายตรงมุมห้องนั้นแล้วขึ้นบันไดไปพ่อหมอนั่งรออยู่ในห้องทำพิธี” เจ้าถิ่นบอกทางก่อนจะทิ้งก้นลงนั่งกอดอก “ขอบคุณค่ะ” น้ำหวานเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนก็พบกับห้องโถงโล่งๆ ด้านบนแบ่งซอยเป็นอีกสองสามห้องขนาดใหญ่ ห้องหนึ่งเปิดประตูเอาแง้มเอาไว้ บรรยากาศด้านบนเงียบวังเวง รอบตัวเสมือนมีสายตาที่มองไม่เห็นหลายคู่จับจ้องเธออยู่ตลอดเวลา เพียงก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมาเธอก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวไล่มาตั้งแต่ปลายเท้าจรดหัว ยืนนิ่งมองสำรวจไปรอบๆ ความกล้าที่เคยมีหดหายไปจนหมดสิ้น กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น “เข้ามาสิ” เสียงนั้นเหมือนมีมนต์ดลใจให้เท้าของเธอเดินก้าวเข้าไปในห้องนั้น ทั้งที่หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอก ในห้องพิธีมีโต๊ะหมู่บูชา ทว่าไร้ซึ่งเทวรูป หรือเศียร์เคารพใดๆ มีเพียงศิวลึงค์ขนาดใหญ่ประมาณเสาเรือน ยากจะมองด้วยตาเปล่าออกว่าแกะสลักหรือทำขึ้นมาจากวัสดุชนิดใด ปิดทองคำเปลวเหลืองอร่ามตั่งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางเครื่องสักการะบูชา ด้านล่างสุดมีกระถางธูปตั้งอยู่ควันลอยกรุ่น “สวัสดีค่ะพ่อหมอ” น้ำหวานนั่งพับเพียบยกมือขึ้นไหว้ทักทายผู้ชายตรงหน้า เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดงสดทั้งชุด แตกต่างจากพ่อหมอหรือร่างทรงที่เคยผ่านตามาก่อน ใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์ แววตาสดใสดูมีอำนาจแฝงเร้นอยู่จนหญิงสาวไม่กล้ามองสบตากับเขาตรงๆ “คุณมาที่นี่ต้องการอะไร” ใบหน้านั้นสงบนิ่งราวกับรูปสลัก “ฉัน… เอ่อ… คือว่าฉันอยากให้พ่อหมอช่วยค่ะ” “ต้องการให้ช่วยหรือแค่อยากจะมาลองของ” ชายในชุดแดงโยนกระดาษที่น้ำหวานเพิ่งเขียนวันเดือนปีเกิดลงไปมาตรงหน้าของหญิงสาว “เอ๊ะ” หญิงสาวมองกระดาษแผ่นนั้นจู่ๆ เธอก็ขนหัวลุกซู่ “วันเดือนปีเกิดในกระดาษแผ่นนี้เป็นของผู้ชายไม่ใช่ของคุณ เดาว่าคงเป็นสามีของคุณสินะ ผู้ชายคนนี้เกิดในตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวย เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ชีวิตสุขสบายตั้งแต่เด็ก เคยประสบอุบัติเหตุจนเกือบตายมาสองครั้งแต่รอดมาได้เพราะดวงยังไม่ถึงฆาต นิสัยใจคอเป็นคนมุทะลุ ใจร้อน เจ้าชู้ มักมาก ชะตาชีวิตจะตกต่ำจนถึงชะตาขาดเพราะผู้หญิง” สิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าบอกเล่ามาทำให้น้ำหวานขนลุกซู่เพราะมันตรงกับความเป็นจริงทุกอย่าง เธออยากจะลองดูว่าพ่อหมอที่มาหาจะเก่งขนาดไหนเลยแกล้งเขียนวันเดือนปีเกิดของสามีเธอลงไป แทนที่จะเขียนวันเดือนปีเกิดของตัวเธอเอง “คราวนี้ก็กลับไปได้แล้ว” “พ่อหมอคะ ฉันขอโทษฉันไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่พ่อหมอเลยนะคะ เพียงแต่ที่ผ่านมาฉันเจอแต่พวกหลอกลวงต้มตุ๋นมาตลอด พ่อหมอยกโทษให้ฉันด้วยนะคะฉันมันโง่เอง” น้ำหวานยกมือไหว้หวังได้รับการให้อภัยจากพ่อหมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD