ตอนที่10 เจอของใหญ่ใจต้องนิ่ง
“สวัสดีจ้ะพ่อหมอ”
“เอ่อไหว้พระเถอะ วันนี้จะมาทำอะไรล่ะ”
“คือว่าวันนี้แนทจะมาขอลงของทางเสน่ห์เมตตาเพิ่มจ้ะพ่อหมอ คราวก่อนลงไปก็ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้วแนทอยากให้ของมันขลังๆ จ้ะ”
สาวแนทบอกจุดประสงค์ของหล่อน
“ครั้งก่อนที่มาทำมันไม่ขลังเหรอไง”
“ขลังสิจ้ะ พอลงเสน่ห์กับพ่อหมอเสร็จแล้วใช่ไหมแนทก็ไปทำงาน ปรากฏว่าคืนแรกแขกให้ทริปตั้งหลายพันมาคราวนี้แนทก็เลยมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ มาฝากพ่อหมอด้วยเพื่อเป็นการขอบคุณ แล้วก็ถือโอกาสมาลงขอเพิ่มด้วยเลย นี่จ้ะพ่อหมอของฝาก”
หญิงสาววางของฝากซึ่งเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพลงด้านหน้าของพ่อหมอหนุ่ม สาวแนทมีอาชีพเป็นสาวกลางคืน หล่อนทำงานอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งในตัวเมือง ก่อนหน้านี้รายได้ไม่คงที่นักบางคืนก็ได้เงินดีบางคืนก็เงียบกริบ แต่พอมาลงเสน่ห์เมตตากับพ่อหมอพรหมเมศเท่านั้น กลับไปทำงานเพียงแค่คืนเดียวก็เหมือนชะตาชีวิตพลิกผันสุดขั้ว แขกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่มาเที่ยวต่างให้ทริปหล่อนคราวละหลายร้อยบาท รวมๆ แล้วคืนหนึ่งได้เงินกว่าครึ่งหมื่นก็มี
“ได้ดิบได้ดีแล้วนึกถึงครูบาอาจารย์ขอให้เจริญๆ นะ”
“จ้ะพ่อหมอ”
“เอ้าๆ ถ้าอยากจะลงของเพิ่มผมก็จะทำให้ เอาค่าครูใส่พานนี้นะ จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้เนื้อตัวสะอาดบริสุทธ์ แล้วค่อยออกมา ผมจะทำพิธีรอ”
“จ้าพ่อหมอ”
สาวแนทจัดแจงนำเงินค่าครูใส่พานทองเหลืองพร้อมดอกไม้เครื่องบูชาที่หล่อนเตรียมมา นำมายื่นให้พ่อหมอ พ่อหมอหนุ่มรับพานครูแล้วนำไปวางเบื้องหน้าโต๊ะหมู่บูชาศิวลึงค์ จุดธูปเทียนกล่าวบทอัญเชิญบูชาครูใหญ่ ในระหว่างที่สาวแนทถอยฉากออกมาคว้าผ้าขนหนูมาเปลี่ยนแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำ หล่อนอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเสร็จสรรพก็เดินออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวห่อหุ้มเรือนกายไว้แค่นั้น หยาดน้ำยังเกาะพราวบนผิวเนื้อแห่งวัยสาว
“นอนลงสิ หันหัวไปทางทิศตะวันออกนะ”
“จ้ะพ่อหมอ”
ลูกศิษย์สาวทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย นอนหงายลงบนผ้าขาวที่พ่อหมอปูเตรียมเอาไว้เหยียดปลายเท้าไปทางทิศตะวันตก
“คราวนี้ก็แก้ผ้าออกให้หมด”
สิ้นคำสั่งหญิงสาวก็ปลดปมผ้าขนหนูออกช้าๆ เรือนกายเปลือยเปล่าของหล่อนนอนหงายขาวโพลนอยู่ชนิดที่เย้ยฟ้าท้าดิน และท้าทายสายตาคมกล้าของพ่อหมอหนุ่มที่เพ่งมองเรือนร่างของลูกศิษย์สาวไล่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
เริ่มจากหน้าอกอวบใหญ่ทั้งสองเต้าที่เริ่มจะหย่อนคล้อยเนื่องจากต้องมือชายมาแล้วหลายคน ทรวงถันของหญิงสาวยามนี้กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่ถี่กระชั้นขึ้น จากการถูกสายตาของพ่อหมอหนุ่มจ้องมอง สายตาคมมองต่ำลงมายังหน้าท้องที่ไม่ได้แบนราบเนื่องจากสาวแนทมีรูปร่างค่อนไปทางอวบ สุดท้ายสายตาของพ่อหมอก็ไปหยุดที่เนินสวาทอวบอูมมีไหมพรมสีดำขึ้นปกคลุมหนาแน่น
พ่อหมอหนุ่มหยิบผ้าผืนเล็กขึ้นมาค่อยๆ บรรจงซับหยาดน้ำที่เกาะอยู่ตามเนื้อตามตัวของหญิงสาวออก ทุกสัมผัสที่แตะแต้มลงไปโดนผิวกายทำให้สาวแนทเสียววาบ หายใจหายคอติดๆ ขัดๆ กลีบเนื้อกลางกายสาวบีบรัดตัวอย่างอัตโนมัติ เมื่อผ้าในมือของพ่อหมอแนบลงไปซับน้ำบริเวณเนินสวาทของหล่อน
“อ่ะ… อือ”
“ไม่ต้องเกร็งนะทำตัวตามสบาย”
หลังจากใช้ผ้าซับน้ำออกจากร่างกายของลูกศิษย์สาวจนเหือดแห้งสนิทดีแล้วพ่อหมอก็ลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อออก ตามด้วยกางเกงตัวนอกและกางเกงชั้นในจนท้ายที่สุดเขาก็เหลือเพียงตัวเปล่าล่อนจ้อน แกนกายอันใหญ่โตโชว์หราแก่สายตาของลูกศิษย์สาวที่จ้องมองแกนกายของเขาไม่กระพิบตา ขนาดว่ามันยังไม่แข็งตัวยังมีขนาดเกือบเท่าข้อมือของหล่อนด้วยซ้ำไป แถมบริเวณท่อนลำยังมีปุ่มปูดโปนออกมาหลายปุ่มมองดูน่าเกรงขาม อันเกิดจากการที่พ่อหมอหนุ่มไปฝังมุกเสริมออฟชั่นให้กับตอปิโดของเขา
จนสาวแนทไม่กล้าคิดต่อถึงตอนที่เจ้าตอปิโดอันใหญ่ซึ่งอยู่กลางลำตัวของพ่อหมอเวลามันทะยานพุ่งแข็งตัวเต็มที่แล้ว จะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารบานตะไทขนาดไหนกัน แล้วถ้ามันได้เข้าไปมุดเข้ามุดออกในเนินสาวร่องเสียวของหล่อน ความสุขสันต์หรรษาจะบังเกิดขนาดไหนกัน
“อื้อหือ พะ… พ่อหมอ… แค่เห็นแนทก็คอแห้งผากแล้วจ้ะ งื้อ”
สาวแนทพึมพำออกมาเบาๆ พลางกลืนน้ำลายลงคอไปด้วย พ่อหมอพรหมเมศเคยบอกหล่อนว่าการจะลงวิชาเสน่ห์ด้วยน้ำมันศิวลึงค์มหาเสน่ห์ในสายนี้ ผู้ทำพิธีและผู้มาลงน้ำมันจะต้องเปลือยกายออกทั้งคู่เป็นเคล็ดวิชามาแต่โบราณ เพื่อเพิ่มความศักสิทธิ์ให้เข้มขลังยิ่งขึ้น
“หลับตาลงซะแล้วทำใจให้สบาย นึกถึงภาพศิวลึงค์เอาไว้แล้วขอพรจากท่านให้ช่วยอวยพรให้สมความปรารถนาตามที่นึกคิด”
“จ้ะๆ”
สาวแนทค่อยๆ หลับตาลง แต่แทนที่จะนึกภาพศิวลึงค์อย่างที่พ่อหมอแนะนำ หล่อนดันนึกถึงแต่ภาพตอปิโดของพ่อหมอลอยอยู่ในหัวจนยากจะสลัดออก
“มีสมาธิหน่อยสิ พิธีกำลังจะเริ่มแล้วนะ”
“แนทจะพยายามจ้ะพ่อหมอ”
“ตั้งใจให้ดี”
จากนั้นพ่อหมอก็หยิบขวดโหลบรรจุน้ำมันศิวลึงค์มหาเสน่ห์ออกมา ขวดน้ำมันมหาเสน่ห์ของเขาเป็นขวดโหลแก้วขนาดใหญ่ รอบขวดโหลเขียนกำกับด้วยอักขระเลขยันต์ดูเข้มขลัง ด้านในขวดเต็มไปด้วยของอาถรรพ์ทางด้านเสน่ห์เมตตามากมาย ทั้งว่านยา และชิ้นอาถรรพ์ต่างๆ ตำราการหุงน้ำมันศิวลึงค์มหาเสน่ห์นี้สืบทอดกันมายาวนานจากอาจารย์คนแรกที่เป็นต้นกำเนิด ตกทอดมาสู่ตัวเขาซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน
“ต่อไปผมจะใช้น้ำมันมหาเสน่ห์ทาไปให้ทั่วทุกส่วนในร่างกาย”
หมอพรหมเมศใช้นิ้วมือจุ่มลงไปในขวดโหล ปากก็ท่องบ่นมนต์คาถาปลุกเสกไปด้วย เขาเริ่มจากเอาน้ำมันมาทาใส่ฝ่ามือแล้วบีบคลึงลงไปยังเนินอกของลูกศิษย์สาวทั้งสองเต้าสลับกันไปมา
“อ่าห์… พ่อหมอ… นะ… หนูเสียว”
สาวแนทกัดปากตัวเองขนลุกขนชันไปทั้งร่าง เมื่อฝ่ามือใหญ่ของพ่อหมอหนุ่มบีบคลึงเค้นเต้าทรวงของหล่อนไปมาละเลงน้ำมันมหาเสน่ห์ลงไปจนฉ่ำชุ่ม ท่อนขาทั้งสองข้างบีบเข้าหากันท้องน้อยบีบรัด อารมณ์กำหนัดเริ่มก่อตัวขึ้น
“อูยย์ พ่อหมอคะ”
พ่อหมอหนุ่มบรรจงลูบไล้น้ำมันมหาเสน่ห์ลงไปยังอวัยวะน้อยใหญ่ของลูกศิษย์สาวไม่หยุดมือ กระทั่งมาถึงเนินสวาทของหล่อน
“ตั้งใจให้ดีนะตรงนี้สำคัญ”
“โอ้ววว์… เสียว… พ่อหมอ แนทเสียว”
ปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันมหาเสน่ห์แทรกกลีบเนื้อสาวเข้าไปด้านใน หลังจากลูบไล้เนินสาวจนฉ่ำชุ่มเป็นที่เรียบร้อย จากเดิมที่มีความกำหนัดอยู่แล้วเมื่อถูกปลายนิ้วรุกล้ำเข้าไปเสียดสีตุ่มกระสันอาการของลูกศิษย์สาวก็ยิ่งแสดงออกมาเด่นชัดขึ้น
“ซี้ดดด”
หล่อนร้องครางกระเส่ายกสะโพกขึ้นส่ายร่อน มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขคว้าเอาตอปิโดของพ่อหมอที่อยู่ใกล้มือมารูดสาวไปด้วย จนท่อนเนื้อที่อ่อนนุ่มค่อยๆ เติบกล้าจนโตเต็มวัย
“อื้อ… อดทนหน่อยใกล้จะเสร็จแล้ว… อ่าห์”
พ่อหมอหนุ่มดึงปลายนิ้วออกจากร่องเสียว เปลี่ยนไปคว้าศิวลึงค์ซึ่งเอาไว้สำหรับทำพิธีในขั้นตอนสุดท้ายมาถือไว้ในมือ ขนาดของศิวลึงค์ดังกล่าวใหญ่พอๆ กับข้อมือของลูกศิษย์สาว เขาเอาส่วนปลายศิวลึงค์จุ่มลงไปในน้ำมันมหาเสน่ห์แล้วจดส่วนหัวของมันไปยังเนินสวาทของลูกศิษย์สาว
“ถ่างขาออก”
ไม่ต้องรอให้เขาพูดซ้ำ สาวแนทถ่างขาของหล่อนออกกว้าง จากนั้นศิวลึงค์ในมือพ่อหมอก็มุดช่องทางรักของหล่อนเข้ามา
“อ่าห์… อูยยย์… พ่อหมอขา… แนทไม่ไหวแล้ว… ซี้ดดด… เสียว”
สาวแนทร้องครางกระเส่าดังลั่นจนเสียงเล็ดลอดลงไปชั้นล่าง เดือนแรมที่นั่งหน้าตูมอยู่ถึงกับออกอาการร้อนรนทนไม่ไหว รีบลุกขึ้นยืนกำมือแน่นแหงนหน้าขึ้นไปมองชั้นสองของบ้าน หญิงสาวสบถด่าหยาบคายแล้วเดินปรี่ออกไปรอด้านนอกทันที เนื่องจากทนฟังเสียงครางกระเส่าของคู่แค้นไม่ได้
หลังจากนั้นผ่านไปเกือบสิบห้านาทีสาวแนทก็เดินขาถ่างลงไปจากเรือน
“ถึงกับเดินเสียทรงเลยนะมึงอีแนท” เดือนแรมพูดแขวะขึ้นเมื่อเห็นอาการของแนทระหว่างที่กำลังเดินไปยังรถของหล่อนที่จอดอยู่
“อ้าว นึกว่ากลับไปแล้วมาอยู่ตรงนี้เองเหรออีเดือนดับ”
“กูทนฟังเสียงกระหรี่มันร้องแหกปากไม่ได้ก็เลยมารออยู่ตรงนี้ เป็นไงสมใจอยากเหรอยัง”
สาวแนทยิ้มอ่อน
“ก็ดีนะใหญ่ๆ กูชอบ น่าเสียดายที่คนแถวนี้ไม่มีโอกาสเหมือนกู คริ คริ”
“อีแนท อี…”
“ทำไม กูพูดผิดตรงไหนเหรออีเดือน อีมดแดงได้แต่แฝงพวกมะม่วง”
สาวแนทเดินหัวเราะร่าจากไปอย่างผู้มีชัยเหลือเพียงเดือนแรมที่ยืนแค้นแน่นอกจนน้ำตาตกใน