ตอนที่ 1
ขอโทษ
ความรู้สึกกดดันที่ถูกส่งต่อจากชายสูงวัยที่มีศักดิ์เป็นพ่อผ่านสายตาที่แม้จะฝ้าฟางตามอายุไปบ้าง แต่ก็เหลือประกายความดุดันเอาไว้ ทำเอาเด็กสาวเจ้าของใบหน้าเรียวค่อนไปเกือบรูปไข่ใต้รูปร่างที่เริ่มจะอวบอิ่ม ยิ่งเกิดอาการกดดันมากขึ้นไปอีก ครั้นจะหลบสายตาหันไปหาคนเป็นแม่หวังจะได้ที่พึ่ง ฝ่ายนั้นก็เอาแต่ถอนหายใจออกมาทั้งยังเอามือกอดอก ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอยู่แบบนั้นไม่รู้กี่ครั้งเข้าไปแล้ว
สายตาผิดหวังที่มองมายังทำให้ก้อนคำพูดที่ตั้งใจจะเอ่ยออกไปถูกกลืนลงท้องไปด้วยความกลัว อุ้งมือคู่น้อยบีบผสานเข้าหากันอยู่แบบนั้นแน่น ดวงตากลมสีอ่อนเอาแต่จ้องมองลงมายังพรมหรูด้วยว่าไม่กล้าสบตาผู้ให้กำเนิดทั้งสองสักนิด
"นิม วานิม" ราวกับเสียงสวรรค์ หญิงสาวเจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกด้วยความโล่งใจ ร่างเริ่มอวบอิ่มถลาเข้าหาคนเป็นพี่สาวที่เดินตรงเข้ามาหา พร้อมสัมภาระมากมายด้วยความรู้สึกหลากหลายที่มันถาโถม
"เกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ"
เสียงอ่อนโยนของคนมาใหม่เอ่ยถามขึ้น พร้อมกับจับจูงน้องคนเดียวของตนไปนั่งที่เก่า โดยไม่ลืมยกมือขึ้นไหว้ผู้ให้กำเนิดทั้งสองไปด้วย
"จะมีอะไรได้อีกละ นอกจากทำเรื่องงามหน้าอีกแล้ว"
คนพ่อกระแทกเสียงใส่ จนวานิมยิ่งหน้าซีดมากกว่าเก่า ในขณะที่วาโยหญิงสาวดีกรีนักเรียนนนอกที่ก้นยังแตะโซฟาไม่ถึงนาทีได้แต่ถอนหายใจออกมา
แต่ก็ยังพยายามใจเย็นเอ่ยซักถามน้องรักของตนออกไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับลูบแผ่วไปยังเรือนผมอ่อนโยนและแสนรัก
"นิมท้อง" เสียงสั่นเครือที่บอกคำตอบออกมาเล่นเอาคนพี่ ถึงกับชะงักอึ้งไปเหมือนกัน กับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว
"ขายขี้หน้าที่สุด คราวก่อนก็ท้องไม่มีพ่อจนต้องดรอปเรียนไปทีหนึ่งแล้ว นี่อะไร แทนที่จะเข็ดหลาบ กลับออกไปร่านจนท้องกลับมาอีก มันน่านัก!"
"แม่คะ พอก่อน" วาโยเอ่ยปรามคนแม่ด้วยว่านึกถึงความรู้สึกของน้องสาว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเป็นผลนัก เพราะครั้งนี้มันคงสุดจะทนเกินกว่าท่านทั้งสองจะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว
"ก็เพราะแกตามใจมันแบบนี้ไงมันถึงได้เสียคน มั่วผู้ชายจนท้องไม่มีพ่อซ้ำซาก ไม่คิดรึไงว่าพ่อกับแม่จะอายคนอื่นเป็น หรือคนแบบแกมันคิดแต่จะรักสนุกอย่างเดียว เรียนก็ขาดๆ เกินๆ แล้วนี่อีกแค่สามเดือนก็จะจบอยู่แล้วแท้ๆ ดันหาเรื่องงามหน้ามาอีก นี่แม่จะทำยังไงกับแก่ดีนะยัยนิม!"
เจ้าของชื่อไม่ยอมตอบอะไรออกมาทั้งนั้น หรือจะเรียกว่าพูดไม่ออกคงไม่ผิด ไม่ต่างอะไรจากคนเป็นพี่อย่างวาโยเลยสักนิด
"แล้วพ่อเด็กล่ะนิม ตามเขามารับผิดชอบได้ไหม" และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่วาโยหนักใจและไปไม่เป็นขึ้นมา กับคำตอบที่ได้รับจากน้องสาวของตน
"นิมไม่รู้...พี่โย เอ่อ คือวันนั้นนิมเมามาก เลยจำไม่ได้ว่านอนกับใคร"
วาโยเหลือบตามองผู้ให้กำเนิดทั้งสองทันที แลเห็นฝ่ายนั้นทำท่าจะเป็นลมขึ้นมาเสียให้ได้ แววตาแห่งความผิดหวังเหมือนจะมากกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว ก่อนน้ำเสียงดูแคลนแกมแดกดันของคนพ่อจะดังลอดขึ้นมาอีกระลอก
"นอกจากเมาแล้วก็คงจะมั่วจนไม่รู้ว่าไปแรดกับใครด้วยสินะ ได้ข่าวว่าควงผู้ชายไม่ซ้ำวันเลยนี่ เหอะ! แกนี่มันไม่น่าเกิดเป็นลูกฉันเลยจริงๆ" เสียงกระแทกที่ดังแสกกลางหน้าของพ่อผู้ให้กำเนิด เรียกเสียงสะอื้นให้ดังขึ้นมามากกว่าเก่า ร้อนถึงคนพี่อีกครั้ง
"พ่อคะ อย่าซ้ำเติมน้องสิ เราควรจะช่วยหาทางแก้ไขสิคะ"
ชายสูงวัยไม่มีท่าทีโอนอ่อนตามคำพูดประนีประนอมนั่นเลยสักนิด
เขาทิ้งลมหนักๆ ใส่ลูกเจ้าคนปัญหาแล้วเดินลงน้ำหนักเท้าหนีไปทันทีอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งให้หญิงผู้เป็นภรรยาและลูกสาวคนโตรับความหนักอกครั้งนี้ไป
"เฮ้อ แกก็พูดง่ายนะยัยโย จะให้เราแก้อะไรได้อีก แกก็รู้ว่าเราแก้กันมากี่ครั้งแล้ว และน้องแกมันก็ไม่สำนึกเอาแต่ก่อเรื่องไม่เว้นวัน แล้วไหนจะเรื่องเรียนอีก ฉันไม่ยอมหรอกนะที่จะให้มันหอบท้องไปนั่งเรียนกับชาวบ้านเขาน่ะ"
"แต่ก็แค่สามเดือนเองนะคะแม่ คนคงยังไม่ทันสังเกตได้หรอก"
"ไม่ได้! ยังไงก็ให้น้องแกไปนั่งสลอนแบบนั้นไม่ได้ และฉันก็จะไม่ให้มันหยุดเรียนอีก แค่สองปีก่อนนั่นฉันก็อายแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมอายอีกแน่"
"แม่ ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ"
วาโยพูดเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยหวานอดแสดงความหนักใจไม่ได้ กับเรื่องชวนปวดหัวตรงหน้า แต่กระนั้นอ้อมแขนก็ยังไม่ได้คลายตัวจากการโอบกอดน้องผู้เป็นที่รักแต่อย่างใด
"ไม่รู้แหละ! แก้ปัญหาเอาเองละกัน เพราะทุกอย่างมันเริ่มขึ้นจากแกทั้งนั้น"
"แม่คะ แต่โย..."
"ถ้าแกไม่ตามใจมัน ให้ท้ายมันตลอด มันจะนิสัยเสียแบบนี้ไหม ไม่รู้ด้วยแล้ว แกต้องจัดการเรื่องนี้เอง อย่าให้กระทบมาถึงฉันกับพ่อแกอีกเด็ดขาด อยู่จัดการเรื่องนี้ให้จบนะ ไม่งั้นแม่ไม่ยอมแน่"
"ไม่ได้หรอกแม่ โยกำลังเตรียมตัวเรียนเอกอยู่ แม่ก็รู้"
"นั่นมันก็แล้วแต่แก รักกันนักนี่ ดูแลกันไปเถอะ"
หญิงวัยกลางคนกระแทกเสียงใส่ แล้วสะบัดกายตามผู้เป็นพ่อไปทันที ทิ้งวาโยให้นั่งปวดหัวกับปัญหาแทน โดยมีคนน้องที่ร้องไห้ออกมาไม่หยุดได้แต่มองอย่างรู้สึกผิด และนึกเจ็บใจตัวเองที่เอาแต่สร้างปัญหาแต่ไม่กล้ารับมือกับพ่อและแม่ได้เลยสักครั้ง
"พี่โย นิมขอโทษ"
เสียงลมหายใจของสาวนักเรียนนอกดังลอดออกมาอีกครั้ง ก่อนที่วงแขนกว้างจะยิ่งโอบรัดคนน้องมากกว่าเดิม พร้อมกับปลอบโยนอีกฝ่ายไปด้วย แม้ว่าในตอนนี้ภายในใจของวาโยจะหนักอึ้งราวถูกหินผาทับเอาไว้ก็ตาม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ วาโย สาววัยยี่สิบหกปี ดีกรีนักเรียนนอกปริญญาโท สาขาวรรณคดีอังกฤษ จะรู้สึกชวนปวดหัวกับเรื่องแบบนี้
ด้วยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ วานิม น้องสาวคนเดียวของเธอผู้ห่างกันแค่สองปี ได้สร้างปัญหาเหล่านี้ขึ้นมา
แม้ว่าตัววาโยและวานิม จะเกิดในตระกูลที่ดี มีทุกอย่างพร้อมสรรพทั้งความอบอุ่น ความรักในครอบครัว หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินเงินทอง แต่นั่นก็เหมือนจะไม่พอสำหรับคนน้องเท่าไหร่นัก เมื่อเจ้าตัวเริ่มขึ้นปีหนึ่งได้ไม่นาน วานิมเริ่มเที่ยวกับเพื่อนชายมากหน้าหลายตา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ครอบครัวของเธอทุกข์ใจได้เท่ากับเรื่องเหนือความคาดหมายที่ว่า น้องสาวกำลังตั้งท้องทั้งที่ยังเรียนไม่จบ
เธอท้องโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ นั่นยิ่งทำให้ความผิดมันทบทวีมากขึ้นไปอีก พ่อกับแม่ให้เจ้าตัวหยุดเรียนไปก่อนสองปีเพื่อกลบเรื่องน่าอายในครั้งนั้น จนกระทั่งเด็กหญิงทารกน่ารักคลอดออกมาอย่างปลอดภัย
บทเรียนครั้งใหญ่ทำให้คนในครอบครัวคิดว่าวานิมสำนึกได้แล้ว คนพี่จึงสบายใจขึ้นและไปเรียนต่อโทยังแดนไกลได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร
แต่ในตอนนี้พี่สาวผู้ทะนุถนอมน้องรักเหมือนไข่ในหิน กลับแทบล้มทั้งยืนเมื่อรู้ว่าวานิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงนิสัยไปจากเดิมเลย ยังคงเที่ยวเตร่ และพลาดจนบทเรียนครั้งใหญ่วนกลับมาอีกครั้ง
"พี่โย นิมขอโทษ นิมมันแย่ทำแต่เรื่องให้ทุกคนเดือดร้อน"
"โทษตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เรื่องมันเกิดไปแล้วนี่ เราต้องหาทางแก้ไขต่างหาก"
วาโยพยายามปั้นยิ้มส่งไปให้หญิงสาวหน้าหวานตรงหน้า แม้จะปวดหัวไม่น้อยกับปัญหาที่เกิด แต่สาวเจ้าก็ไม่อาจนิ่งดูดายให้น้องเผชิญชะตากรรมคนเดียวได้จริงๆ
และนี่ก็คงเป็นความผิดส่วนหนึ่งของวาโยแบบที่ผู้เป็นแม่บอกเหมือนกัน ว่าเขาตามใจและให้ท้ายน้องเกินไปจนเสียคน
"เราจะทำยังไงดีพี่โย นิมกลัว ถึงจะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กแต่นิมก็ไม่อยากเอาออก ฮือ ฮึก ฮึก"คนถูกถามถอนหายใจออกมาก่อนเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยออกไปตรงๆ หวังว่าน้องจะเข้าใจ
"หยุดร้องก่อนเราต้องแก้ปัญหานี้กัน เวลามีไม่มาก พี่ยังอยากต่อดอกเตอร์ให้มันจบ จะได้เป็นอาจารย์เหมือนกับฝันไว้"
"..."
"เอาเถอะ เราก็อย่าเพิ่งคิดมากไป มันจะกระทบกับเด็กในท้อง เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรื่องนี้รอพ่อกับแม่ใจเย็นลงอีกสักหน่อยคงพอคุยกันได้ พ่ออาจจะยอมให้นิมแบกท้องไปเรียน"
"ไม่มีทางหรอก รอบนี้พ่อไม่ยอมแน่ๆ ฮึก พี่โย ฮือ"
"ไม่เป็นไรๆ บอกว่าอย่าร้อง เดี๋ยวพี่ช่วยคุยให้อีกแรง"
คนน้องไม่ได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากส่งยิ้มบางๆ ไปให้คนพี่อย่างว่าง่าย แล้วเดินผละจากไป ทิ้งสาวนักเรียนนอกให้นั่งกุมขมับกับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่ออยู่ตรงนั้น โดยวาโยคงไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของคนที่เธอคิดว่าน่าจะขึ้นห้องไปแล้ว กำลังมองกลับมาด้วยความรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด
"นิมขอโทษนะพี่โย ขอโทษจริงๆ" สาวหน้าสวยไม่ต่างจากคนพี่รำพึงออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ สาวเท้าเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดของบ้านไป
ค่ำคืนนั้นภายในห้องที่มืดสลัวมีเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงร่ำไรเท่านั้น
ในความมืดแสงนวลอ่อนยังฉายให้เห็นใบหน้าหวานจากเจ้าของห้องที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมปนเปกับความเลื่อนลอยอย่างเห็นได้ชัด
สาวเจ้านั่งนิ่งสะอื้นไห้กับตัวเองอยู่อีกหลายนาที ก่อนที่ไม่นานร่างค่อนไปทางอวบอิ่มจะลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าตรงไปยังมุมหนึ่ง ดวงตาแห้งผากแดงก่ำจากการร่ำไห้ จ้องไปยังสิ่งตรงหน้าด้วยความเด็ดเดี่ยวมือต้นหาทางออกจากปัญหาที่ตัวเองก่อได้แล้ว
สองขาก้าวขึ้นเก้าอี้ตัวเล็กอย่างช้าๆ จนสามารถขึ้นไปยืนบนนั้นได้ ก่อนสองมือจะจับแน่นไปยังบ่วงเชือกถักเป็นเกลียวที่ผูกขึงรอไว้ เตรียมก้าวสู่หนทางแห่งการดับปัญหา ที่วานิมตัดสินใจจะรับผิดชอบมัน...ด้วยชีวิตของเธอเอง
***