ตอนที่ 10

1129 Words
บทที่ 10             ชาลิสาไม่อิดออดที่จะอาบน้ำแต่งตัวถึงแม้อเล็กซานเดอร์จะไม่ยอมขยับตัวออกไปจากห้องนั้น หญิงสาวสวมชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายเสื้อคอวีแขนเว้าสีครีมซึ่งดูเหมือนจะเป็นชุดเดียวที่เธอเห็นมันแขวนอยู่ในห้องนั้น             กลิ่นอายน้ำเค็มลอยมาแตะจมูก แต่เธอก็เก็บความใคร่รู้ไว้ในใจ ไม่ยอมถามเขาว่ามหาสมุทรแปซิฟิกใต้ที่เขาพาเธอมาไกลถึงนี่เป็นอย่างไร สภาพขข้างนอกจะเลวร้ายเหมือนสิ่งที่เขาทำกับเธอหรือไม่             อเล็กซานเดอร์อยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ หลายครั้งเธอก็อดที่จะเหลือบมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายซึ่งทอดร่างอยู่บนเตียงไม่ได้ เขาดูเหมือนนายแบบน้ำหอมดังระดับโลกอย่างไรอย่างนั้น “เสร็จแล้วค่ะ...จะออกไปข้างนอกได้หรือยัง?” ชาลิสาถามขึ้นและเสียงนั้นปลุกภวังค์ของร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงไม้รองฟูกหนาให้ลืมตาขึ้น อเล็กซานเดอร์ตกตะลึงไปในชั่ววินาทีแรกที่เห็นร่างบอบบางในชุดชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายเสื้อคอวีแขนเว้าสีครีมที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เธอดูราวกับเทพธิดาเลยทีเดียว อเล็กซานเดอร์แทบจะลืมไปว่าชาลิสาเป็นแดรเซอร์ของน้องสาว ยามนี้เธอเปล่งประกายงดงาม ผิวพรรณเปล่งปลั่งนั้นสะท้อนความพิสุทธิ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเธอ ร่างสูงขยับลุกขึ้นนั่ง เขาพยายามสลัดความคิดบางอย่างออกจากหัว ความคิดที่ว่าเขาชอบมองชาลิสาไม่ว่าเธอจะอยู่ในอิริยาบถใด อยากดึงเธอมากอดและจูบซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเขาแต่แรกเลยแม้แต่น้อย “โอเค...ผมจะพาคุณไปกินอะไรกันข้างนอก” คำพูดของเขาจุดความยินดีแก่หญิงสาว เธอรอคออยที่จะได้ออกไปจากห้องนี้เพื่อสูดกลิ่นอายแห่งอิสรภาพ ตอนนี้เธอเหมือนนักโทษของอเล็กซานเดอร์ไม่มีผิด เธอไม่ได้ต้องการจะหนีไปไหนแต่อยากเห็นโลกภายนอกที่เป็นไปมากกว่าจะถูกกักตัวไว้ในห้องแคบ ๆ “ที่นี่คือเกาะเลอ ทาฮา (Le Taha’a) เป็นหนึ่งในหลายเกาะของหมู่เกาะเฟรนซ์ โพลินีเชียน” อเล็กซานเดอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เขาเดินเอามือทั้งสองข้างล้วงระเป๋าขณะที่ชาลิสาเดินตามออกมาจากห้องที่เขาปิดหน้าต่างเอาไว้สนิท หญิงสาวเห็นว่าบ้านที่มีลักษณะเหมือนกระท่อมไม้ทรงกลมวางตัวอยู่ในทะเลและมีทางเดินทอดยาวเข้าสู่ฝั่งซึ่งเป็นชายหาดสีขาวเต็มไปด้วยต้นมะพร้าวเรียงรายนั้นภายนอกเป็นห้องรับแขกที่เปิดโล่ง มองออกไปเบื้องนอกไกลจากบ้านหลังที่เธออยู่เป็นรีสอร์ทกลางน้ำที่วางตัวอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว ชาลิสาถึงกับตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น มันงดงามราวกับสวรรค์ที่พระเจ้าเท่านั้นจะสรรค์สร้างขึ้นมาได้ รอบตัวเธอคือท้องทะเลสีฟ้าคราม น้ำไสจนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่เบื้องล่างชัดเจน ลมทะเลพัดเอากลิ่นน้ำเค็มผสานกับกลิ่นดอกไม้ซึ่งเธอจำได้ว่ามันเป็นกลิ่นเดียวกับที่อบอวลอยู่ในห้องลอยมาแตะจมูก นี่มันสวรรค์บนดินชัด ๆ ชาลิสาคิดและบรรยากาศรอบ ๆ ก็ทำให้เธอลืมความหดหู่ไปชั่วขณะ ลืมว่าเธอถูกอเล็กซานเดอร์พามากักตัวไว้ในดินแดนงดงามเกินกว่าคำใดจะบรรยายได้หมด “ที่นี่เงียบมาก...ลองฟังเสียงคลื่นดูซี” อเล็กซานเดอร์หยุดเดินและหันกลับมายังหญิงสาว ชาลิสาก็พลอยหยุดตามเขาและนิ่งฟังเสียงที่เขาบอก เสียงคลื่นซัดสาดท่ามกลางความเงียบสงบซึ่งแตกต่างจากนิวยอร์คที่แสนวุ่นวาย ดวงตาคู่งามของหญิงสาวเปล่งประกายราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน ผมยาวดำขลับของเธอปลิวไปตามสายลมพัด อเล็กซานเดอร์นึกอยากเกลี่ยปอยผมที่เคลียบนไหล่ของเธอแต่เขาก็สะกดใจไว้ได้ทัน “มันเงียบสงบ...คุณจะได้ยินเสียงคลื่น หรือแม้แต่เสียงดอกไม้บาน” ชาลิสาหันมาเลิกคิ้วและดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะเข้าใจในความหมายนั้น “เสียงดอกติอาเร่บาน” เขาว่าแล้วยื่นดอกไม้เล็ก ๆ สีขาวรูปเหมือนดาวมีกลีบห้าแฉกให้เธอ “ดอกติอาเร่อย่างนั้นหรือคะ?” ชาลิสารับมันมาไว้ในมือ กลิ่นละมุนของมันแตะจมูกและเธอก็จดจำกลิ่นนี้ได้ว่ามันอวลไออยู่ในกระท่อมหลังนั้น           “มันเป็นดอกไม้ประจำชาติของเฟรนซ์ โพลินิเชีย...ผมชอบกลิ่นของมันมากเลยให้คนที่ดูแลที่นี่เอามันมาประดับไว้ในห้องเป็นประจำ”             “เวลาที่คุณพาใครมาที่นี่อย่างนั้นหรือคะ”             เขาเลิกคิ้วบ้าง “คุณหมายถึงใคร”             ชาลิสาแสร้งเบือนหน้าไปทางอื่น “ก็...ผู้หญิง...คนไหนก็ได้ที่คุณเคยพามา”             เขาถอนใจเล็ก ๆ แสงแดดจ้าสะท้อนผิวสีแทนบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของเขาให้เปล่งประกาย นัยน์นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นราวกับมีบางอย่างวาบขึ้นมาชั่วขณะ “ผมซื้อบ้านไว้ที่นี่นานแล้ว เวลาว่างจากงานก็จะมาพักผ่อน ไม่ได้มีไว้รับรองใครอย่างที่คุณคิด” เสียงห้าวนั้นกร้าวในตอนท้ายก่อนที่ชายหนุ่มจะหันหลังให้และเดินมุ่งตรงไปยังหาดทรายเบื้องหน้า ชาลิสาเป็นฝ่ายถอนใจบ้าง ดูภายนอกอเล็กซานเดอร์เป็นคนสุขุมและเยือกเย็น แต่แท้จริงแล้วเขาเลือดร้อนไม่ใช่เล่นเลยจริง ๆ สถานที่ทานอาหารมื้อเช้าควบกับมื้อเที่ยงเป็นโต๊ะไม้บนหาดทรายขาวนวลห่างจากทางเดินซึ่งทอดจากตัวบ้านออกมาไม่ไกล มีแม่บ้านสองสามคนนำอาหารมาวางบนโต๊ะที่ชาลิสานั่งตรงข้ามกับอเล็กซานเดอร์ หน้าตาเขายังเข้มเหมือนเก่าขณะกำลังมองดูพวกแม่บ้านนำสำรับมาวางบนโต๊ะและจัดเตรียมเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้ที่ดูน่ากินและทำให้ชาลิสารู้สึกหิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อาหารที่อยู่ตรงหน้าเป็นอาหารพื้นเมืองแบบแปลก ๆ แต่จานที่หญิงสาวชอบมากที่สุดคือกุ้งตัวโตราดน้ำกะทิส่งกลิ่นวานิลลายวนใจ “อาหารแบบโพลินิเชีย...ผมคิดว่าคุณกินได้และควรจะกินให้มากเพราะดูคุณซูบไปเยอะเลย”  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD