บทที่ 10
ชาลิสาไม่อิดออดที่จะอาบน้ำแต่งตัวถึงแม้อเล็กซานเดอร์จะไม่ยอมขยับตัวออกไปจากห้องนั้น หญิงสาวสวมชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายเสื้อคอวีแขนเว้าสีครีมซึ่งดูเหมือนจะเป็นชุดเดียวที่เธอเห็นมันแขวนอยู่ในห้องนั้น
กลิ่นอายน้ำเค็มลอยมาแตะจมูก แต่เธอก็เก็บความใคร่รู้ไว้ในใจ ไม่ยอมถามเขาว่ามหาสมุทรแปซิฟิกใต้ที่เขาพาเธอมาไกลถึงนี่เป็นอย่างไร สภาพขข้างนอกจะเลวร้ายเหมือนสิ่งที่เขาทำกับเธอหรือไม่
อเล็กซานเดอร์อยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ หลายครั้งเธอก็อดที่จะเหลือบมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายซึ่งทอดร่างอยู่บนเตียงไม่ได้ เขาดูเหมือนนายแบบน้ำหอมดังระดับโลกอย่างไรอย่างนั้น
“เสร็จแล้วค่ะ...จะออกไปข้างนอกได้หรือยัง?”
ชาลิสาถามขึ้นและเสียงนั้นปลุกภวังค์ของร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงไม้รองฟูกหนาให้ลืมตาขึ้น อเล็กซานเดอร์ตกตะลึงไปในชั่ววินาทีแรกที่เห็นร่างบอบบางในชุดชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายเสื้อคอวีแขนเว้าสีครีมที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
เธอดูราวกับเทพธิดาเลยทีเดียว อเล็กซานเดอร์แทบจะลืมไปว่าชาลิสาเป็นแดรเซอร์ของน้องสาว ยามนี้เธอเปล่งประกายงดงาม ผิวพรรณเปล่งปลั่งนั้นสะท้อนความพิสุทธิ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเธอ
ร่างสูงขยับลุกขึ้นนั่ง เขาพยายามสลัดความคิดบางอย่างออกจากหัว ความคิดที่ว่าเขาชอบมองชาลิสาไม่ว่าเธอจะอยู่ในอิริยาบถใด อยากดึงเธอมากอดและจูบซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเขาแต่แรกเลยแม้แต่น้อย
“โอเค...ผมจะพาคุณไปกินอะไรกันข้างนอก”
คำพูดของเขาจุดความยินดีแก่หญิงสาว เธอรอคออยที่จะได้ออกไปจากห้องนี้เพื่อสูดกลิ่นอายแห่งอิสรภาพ ตอนนี้เธอเหมือนนักโทษของอเล็กซานเดอร์ไม่มีผิด เธอไม่ได้ต้องการจะหนีไปไหนแต่อยากเห็นโลกภายนอกที่เป็นไปมากกว่าจะถูกกักตัวไว้ในห้องแคบ ๆ
“ที่นี่คือเกาะเลอ ทาฮา (Le Taha’a) เป็นหนึ่งในหลายเกาะของหมู่เกาะเฟรนซ์ โพลินีเชียน”
อเล็กซานเดอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เขาเดินเอามือทั้งสองข้างล้วงระเป๋าขณะที่ชาลิสาเดินตามออกมาจากห้องที่เขาปิดหน้าต่างเอาไว้สนิท หญิงสาวเห็นว่าบ้านที่มีลักษณะเหมือนกระท่อมไม้ทรงกลมวางตัวอยู่ในทะเลและมีทางเดินทอดยาวเข้าสู่ฝั่งซึ่งเป็นชายหาดสีขาวเต็มไปด้วยต้นมะพร้าวเรียงรายนั้นภายนอกเป็นห้องรับแขกที่เปิดโล่ง มองออกไปเบื้องนอกไกลจากบ้านหลังที่เธออยู่เป็นรีสอร์ทกลางน้ำที่วางตัวอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว
ชาลิสาถึงกับตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น มันงดงามราวกับสวรรค์ที่พระเจ้าเท่านั้นจะสรรค์สร้างขึ้นมาได้ รอบตัวเธอคือท้องทะเลสีฟ้าคราม น้ำไสจนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่เบื้องล่างชัดเจน ลมทะเลพัดเอากลิ่นน้ำเค็มผสานกับกลิ่นดอกไม้ซึ่งเธอจำได้ว่ามันเป็นกลิ่นเดียวกับที่อบอวลอยู่ในห้องลอยมาแตะจมูก
นี่มันสวรรค์บนดินชัด ๆ ชาลิสาคิดและบรรยากาศรอบ ๆ ก็ทำให้เธอลืมความหดหู่ไปชั่วขณะ ลืมว่าเธอถูกอเล็กซานเดอร์พามากักตัวไว้ในดินแดนงดงามเกินกว่าคำใดจะบรรยายได้หมด
“ที่นี่เงียบมาก...ลองฟังเสียงคลื่นดูซี”
อเล็กซานเดอร์หยุดเดินและหันกลับมายังหญิงสาว ชาลิสาก็พลอยหยุดตามเขาและนิ่งฟังเสียงที่เขาบอก เสียงคลื่นซัดสาดท่ามกลางความเงียบสงบซึ่งแตกต่างจากนิวยอร์คที่แสนวุ่นวาย
ดวงตาคู่งามของหญิงสาวเปล่งประกายราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน ผมยาวดำขลับของเธอปลิวไปตามสายลมพัด อเล็กซานเดอร์นึกอยากเกลี่ยปอยผมที่เคลียบนไหล่ของเธอแต่เขาก็สะกดใจไว้ได้ทัน
“มันเงียบสงบ...คุณจะได้ยินเสียงคลื่น หรือแม้แต่เสียงดอกไม้บาน”
ชาลิสาหันมาเลิกคิ้วและดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะเข้าใจในความหมายนั้น
“เสียงดอกติอาเร่บาน” เขาว่าแล้วยื่นดอกไม้เล็ก ๆ สีขาวรูปเหมือนดาวมีกลีบห้าแฉกให้เธอ
“ดอกติอาเร่อย่างนั้นหรือคะ?”
ชาลิสารับมันมาไว้ในมือ กลิ่นละมุนของมันแตะจมูกและเธอก็จดจำกลิ่นนี้ได้ว่ามันอวลไออยู่ในกระท่อมหลังนั้น
“มันเป็นดอกไม้ประจำชาติของเฟรนซ์ โพลินิเชีย...ผมชอบกลิ่นของมันมากเลยให้คนที่ดูแลที่นี่เอามันมาประดับไว้ในห้องเป็นประจำ”
“เวลาที่คุณพาใครมาที่นี่อย่างนั้นหรือคะ”
เขาเลิกคิ้วบ้าง “คุณหมายถึงใคร”
ชาลิสาแสร้งเบือนหน้าไปทางอื่น “ก็...ผู้หญิง...คนไหนก็ได้ที่คุณเคยพามา”
เขาถอนใจเล็ก ๆ แสงแดดจ้าสะท้อนผิวสีแทนบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของเขาให้เปล่งประกาย นัยน์นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นราวกับมีบางอย่างวาบขึ้นมาชั่วขณะ
“ผมซื้อบ้านไว้ที่นี่นานแล้ว เวลาว่างจากงานก็จะมาพักผ่อน ไม่ได้มีไว้รับรองใครอย่างที่คุณคิด”
เสียงห้าวนั้นกร้าวในตอนท้ายก่อนที่ชายหนุ่มจะหันหลังให้และเดินมุ่งตรงไปยังหาดทรายเบื้องหน้า ชาลิสาเป็นฝ่ายถอนใจบ้าง ดูภายนอกอเล็กซานเดอร์เป็นคนสุขุมและเยือกเย็น แต่แท้จริงแล้วเขาเลือดร้อนไม่ใช่เล่นเลยจริง ๆ
สถานที่ทานอาหารมื้อเช้าควบกับมื้อเที่ยงเป็นโต๊ะไม้บนหาดทรายขาวนวลห่างจากทางเดินซึ่งทอดจากตัวบ้านออกมาไม่ไกล มีแม่บ้านสองสามคนนำอาหารมาวางบนโต๊ะที่ชาลิสานั่งตรงข้ามกับอเล็กซานเดอร์
หน้าตาเขายังเข้มเหมือนเก่าขณะกำลังมองดูพวกแม่บ้านนำสำรับมาวางบนโต๊ะและจัดเตรียมเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้ที่ดูน่ากินและทำให้ชาลิสารู้สึกหิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
อาหารที่อยู่ตรงหน้าเป็นอาหารพื้นเมืองแบบแปลก ๆ แต่จานที่หญิงสาวชอบมากที่สุดคือกุ้งตัวโตราดน้ำกะทิส่งกลิ่นวานิลลายวนใจ
“อาหารแบบโพลินิเชีย...ผมคิดว่าคุณกินได้และควรจะกินให้มากเพราะดูคุณซูบไปเยอะเลย”