ณีเวีย | สัมผัสแรก

2733 Words
ฉันได้แต่ยืนนิ่ง เหมือนยืนรอคำตัดสินจากคนตรงหน้า ไม่นานประตู เพนท์เฮ้าส์ห้องนี้ก็ถูกเปิดออก ของของฉันถูกย้ายขึ้นมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว “เอาของฉันขึ้นมาทำไม” ไม่มีใครตอบฉัน ทุกคนพยายามเก็บของ ของตัวเอง และเดินออกไป เหลือแค่ฉันกับนายหน้านิ่งคนนี้ “ต่อไปนี้ เธอต้องอยู่กับฉัน ดูแลปรนนิบัติฉัน เหมือนเมียดูแลผัว” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนถอดสูทตัวนอกออก เมียดูแลผัวงั้นเหรอ? ฉันอายุแค่ยี่สิบสามปี ฉันจะมีสามี หรือ ผัว โดยที่ไม่ได้ตบแต่งเหรอเนี่ย “จะผัวดูแลเมียได้ยังไง เรายังไม่ได้แต่งงาน คุณน่ะเจ้านาย แบบนี้ฉันก็เสียสิ!” ฉันยืนกรานแย้งความคิดเขาแบบสุดโต่ง สำหรับตัวฉันเองก็ไม่ใช่ผู้หญิง ข้างทาง ครอบครัวฉันก็พอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง ถึงฉันจะออกมาจากบ้านแล้วแต่ฉันก็ ไม่คิดจะปล่อยตัวเองให้ใครย่ำยีแบบไม่มีศักดิ์ศรีหรอก “เธอ ไม่มีสิทธิเรียกร้อง จำไว้” ประโยคนี้จากปากเขาทำให้หน้า ฉันชาชั่วขณะ “ฉัน ไม่...” อุ๊บ! ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากปฏิเสธเขาอีกรอบ ปากของฉันก็ถูกปิดโดย ปากเขา สัมผัสนี้มันรุนแรงเหมือนฉันถูกทำโทษ เขาบดขยี้ปากจนแล้วจนเล่า พร้อมสอดแทรกลิ้นนุ่มเขาเข้ามา แก้มของฉันถูกล็อคไว้ด้วยมือของเขาสองข้าง ฉันพยายามทุบตีเขา แต่มันกลับทำให้เขาบดขยี้ปากฉันแรงไปอีก ฉันเจ็บเหมือนกำลังจะหมดแรง และรับรู้ถึงรสชาติของเลือด “ปล่อย! ขอร้อง” เขาอุ้มฉันจนตัวเบาหวิว เข้ามาในห้องนอน และทิ้งฉันลงบนเตียง จนรู้สึกจุกไปหมด คอและจมูกฉันร้อนผ่าว อยากจะรีบเช็ดน้ำตาเข้มแข็งสู้คนตรงหน้าก็ไม่มีแรง เขาทิ้งตัวลงมารวบมือฉันไว้เหนือหัว ก่อนที่จะบดจูบมาอีกครั้ง “อื้ม… หวาน เขาระดมจูบจนฉันอ่อนระทวย มือไม้เริ่มหมดแรงต่อต้าน เขาปล่อยข้อมือที่จับฉันไว้ แล้วล้วงเขามาในสาปเสื้อ มือใหญ่สัมผัสกับหน้าอกแล้วครึงเบา ๆ คละเคล้ากับใช้นิ้วชี้เขี่ยยอดเม็ดทับทิมสีชมพู มันเป็นสัมผัสที่เสียวกับรสจูบที่นุ่มนวลที่สุด จนฉันเผลอจูบตอบกลับไป “ทำตัวให้สบาย” ไม่นานเสื้อผ้าฉันก็ถูกโยนลงบนพื้นจนหมดสิ้น เขาใช้ลิ้นสัมผัสกับยอดทับทิมเดิม “อ๊ะ~” ความเสียวทวีคูณมากขึ้นกว่าเดิม มือขวาเขาก็เดินทางมาถึงเนินน้องสาวฉัน นิ้วซนบี้ แก่นสาว จนฉันเสียวกระสันยกเอวรับ “ฉัน... ฉันกลัว” ยอมรับว่าฉันเองเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา เขาไม่ตอบ แต่ละจากหน้าอกตูม ๆ เลื่อนต่ำจนไปถึงโหนกที่อวบอิ่ม ของฉัน นิ้วของเขาบดขยี้ลงมาอีกพร้อมกับลิ้นอุ่น ๆ ที่ประกบลงมา เมื่อสองอย่างนี้มันทำงานพร้อมกัน “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เขาเร่งลิ้นตวัดดูดกลืนน้ำรักฉันอย่างช่ำชอง เสียงดัง จ๊วบ ๆ เหมือนอยากกินของหวานแสนอร่อยให้หมดไม่อยากเหลือแบ่งใคร ฉันแอ่นกาย รับทุกสัมผัสเขา จนเสียวสะท้านไปหมด ร่างกายฉันผลิตน้ำออกมาจน มือสองข้างเริ่มไม่เป็นสุขเอื้อมไปขยี้ผมนุ่มของเขา ฉันจะขาดใจเสียตรงนี้ “หวาน หวานมาก” เขาดูดน้ำรักฉันชุดใหญ่ ก่อนใช้นิ้วกลางสอดเข้ามาในรูสวาทที่คับแคบของฉัน ไม่ทันไรฉันต้องสะดุ้งและต่อต้านเขา มันเจ็บ “เจ็บค่ะ ไม่ทำต่อได้ไหม” ฉันส่งสายตาเว้าวอนเขา แต่เขากลับยิ้มออกมาที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์เริ่มเผยให้ฉันเห็น “เธอ ยังไม่เคยสินะ อย่าเกร็งเดี๋ยวจะดีเอง” เขาจับขาฉันสองขางดึงเข้าหาตัวเอง ก่อนจะเริ่มดูดน้ำรักฉันอีกรอบ แต่ครั้งนี้เขาเร่งจังหวะถี่ขึ้น เหมือนอยากจะบีบฉันให้ขาดใจ จนฉันทุรนทุรายเสียวส่านไปทั้งตัว “ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เสียงครางฉันดังระงมไปทั่วห้อง เอวเด้งรับสัมผัสเขาจนก้นไม่ติดเตียง น้ำรักของฉันไหลเยิ้มราวกับเขื่อนแตก ร่างฉันกระตุกเบา ๆ วูบวาบไปทั้งตัว ชายตรงหน้าถอดเสื้อผ้าตัวเองออก มือสองข้างจับเขาฉันเป็นรูปตัวเอ็ม ฉันปรือตามองต้องตกใจ มังกรใหญ่ชูชันหัวแดงมันผงกหัวรออยากจะเข้าถ้ำ จนเต็มทีแล้ว “อ๊ะ!” เขาใช้นิ้วใส่เข้ามาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกเจ็บน้อยลง แค่รู้สึกอึดอัดแทน เขาชักนิ้วนั้นเข้าออกช้า ๆ และ เร็วขึ้นตามลำดับ ร่างกายฉันกลับมา วูบวาบอีกครั้ง น้ำรักเอ่อล้นจนเกิดเสียงดัง ‘แจ๊ะ ๆ’ เป็นจังหวะที่นิ้วยาวเขาเข้าออก “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” นิ้วโป้งของเขายังทำหน้าที่ต่อ ใช้มันบดขยี้เพิ่มความเสียวให้ผู้ถูกกระทำขึ้นไปอีก ฉันจะเสร็จอีกแล้ว ฉันต้องการมากกว่านี้ ต้องการมาก “ใส่มาเถอะค่ะ” ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ความเหนียมอายไม่มี อีกแล้ว ต้องการแค่สัมผัสที่หนักหน่วงกว่านี้ เขาจับแก่นกายใหญ่โตนั้น ถูไถร่องสวาทน้ำเยิ้ม ก่อนจะค่อย ๆ กดหัวมันเข้ามาในรูสวาทที่บวมแดง ฉันสะดุ้งเพราะรู้สึกเจ็บเหมือนถูกเข็มแทงหลาย ๆ เข็ม จุกร่องสาวจนหน้าบิดเบี้ยวไปหมด “อย่าเกร็ง ฉันจะค่อย ๆ ทำ” ฉันผ่อนคลายกับคำพูดเขา ไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้ เขาค่อย ๆ ขยับเข้าออกจนมังกรใหญ่ถูกน้องสาวบวมแดงนี้กลืนกิน หมดไปทั้งตัว เขาแช่แก่นกายไว้สักครู่ ก่อนจะก้มลงมาส่งจูบรสหวานให้ ไม่วายมือใหญ่ยังเคล้าคลึกหน้าอึกตึงของฉันอยู่ เอวหนาเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ การเสียดสี ที่เพิ่มขึ้นมันแน่นและจุกไปหมด “อย่าเกร็ง เดี๋ยวก็ดีขึ้น” เอวใหญ่ยังทำหน้าที่ไม่หยุด ฉันได้แต่หลับตาปี๋ อยากให้ความรู้สึกเจ็บเหล่านี้หายไปสักที จนสุดท้ายมันก็จบลง... แรงสัมผัสของชายระหว่างขาทำให้ความเสียวซ่านมาเยือนฉันอีกรอบ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ขวานหาที่ยึดเหนี่ยวและอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เอวหนาทำงานเร็วขึ้น กระแทกเขากับเนื้อสาวที่เปียกแฉะ จนดังแปะ ๆ อุณหภูมิในห้องเหมือนถูกเพิ่มขึ้นโดนปริยาย เหงื่อใสเริ่มผุดขึ้น หยดไหลไปตามแรงสัมผัสที่ถาโถมเข้ามา “แน่นมาก หยุดตอดสักที อ่า... คับมาก” เขาจับเข่าสองข้างฉันแน่นและหลับตาปี๋ เสียงครางเบา ๆ ของเขายังคงดังขึ้นมาประสานเสียงแข่งกับฉันอยู่เป็นระรอก ความเสียวซ่านยังคงทำงานไม่หยุดหย่อน และมันก็เพิ่มทวีคูณพร้อมจังหวะเร่งของเอวหนา เหงื่อของเขาเริ่มท่วม รังสีความเซ็กซี่แผ่กระจายจนฉันอดที่จะชื่นชมไม่ได้ น้ำรักมากมายของฉันไหลผ่านช่องสวาทลงไปที่เตียงจนเปียกชื้น ความเสียวยังคงเชือดเฉือนฉันไม่หยุดหย่อน “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ~” เสียงครางระงมไปทั่วห้อง มือใหญ่เริ่มยกขาฉันไว้บนบ่าก่อนจะโน้มตัวลงมา ส่งแก่นกายให้สัมผัสลึกขึ้น มังกรใหญ่ดันทะลุทะลวงเข้าไปในถ้ำมืดจนเสียวซ่าน นำพาส่งฉันขึ้นสวรรค์ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนร่างฉันกระตุกน้ำรักออกมาแทบหมดตัว “อ๊ะ” ฉันครางเสียงหลงออกมา ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอวที่แอ่นรับแก่นชายหมดแรงสู้ เขายกขาฉันขึ้นไว้ที่บ่าอีกข้าง โน้มตัวเร่งเอวหนาส่งแก่นชายนั้นให้ทำงานอย่างเต็มที่ เสียงดังของเนื้อกระทบกัน ‘ปึก ปึก’ กับเสียงครางประสานเสียงดังแข่งกันไม่มีใครยอมใคร ฉันเสร็จจนรู้สึกเหมือนฉี่จะราดเสียตรงนี้ ร่างใหญ่ไม่ลดละจนส่งแรงกระแทกเฮือกสุดท้าย ให้แก่นชายเขาส่งน้ำรักอุ่น ๆ กระชูดเข้าผนังมดลูกฉันเอ่อล้นออกมาไหลเป็นทาง ลาก่อนเวอร์จิ้นของฉัน กับชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ชายตรงหน้าลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันให้นอนซมอยู่บนเตียง ฉันมองตามหลังเขาแล้วได้แต่ตบกะโหลกตัวเองซ้ำ ๆ ฉันทำเรื่องอะไรลงไป! พรึบ แผงยาแผงหนึ่งถูกโยนลงมาใส่ฉัน ด้วยใบหน้าที่นิ่งราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเหตุการณ์เมื่อกี้ “ยาอะไร ฉันไม่กิน ฉันจะกลับ!” ฉันดันตัวเองลุกคนจนรู้สึกเจ็บแสบตรงน้องสาว มันแดงเถือก และมีเลือดจาง ๆ ติดอยู่ “อยากท้องไม่มีพ่อรึไง” ใช่สิ เขาไม่ป้องกันเลยสักนิด ไม่รู้ว่าผ่านผู้หญิงแบบไหนมาบ้างไหนจะโรค ไหนจะท้องขึ้นมา ฉันแบกหน้าไปเรียนยังไง ฉันฮึดใจลุกขึ้น ใช้ผ้าห่มหนาม้วนตัวเอาไว้ ก่อนจะรีบหยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำ ออกมาเขาก็ไม่อยู่แล้ว ฉันรีบจัดการตัวเอง และยกข้าวของออกมาเตรียมจะออกไปจาก ห้องบ้า ๆ นี้ “คิดจะฟันแล้วทิ้งเหรอ” เสียงคุ้นนั้นดังออกมาจากฝั่งห้องทำงาน เจ้าของเสียงเดินล้วงกระเป๋าสองข้างตรงดิ่งมาหยุดตรงหน้า “ฉันจะกลับ” ดันตัวเขาออกพยายามเปิดประตูบานใหญ่นี้ออกให้ได้ “กลับก็ได้ เดี๋ยวฉันส่งทนายตามไป” คำขู่นั้นทำให้ฉันใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ได้แต่หันหน้าไปมองเขาด้วยความโกรธเคือง ร่างสูงก้มลงมาหาฉัน “ทำไมไม่ยอมเหมือนอยู่บนเตียงบ้าง” ‘ตึก ตึก ตึก’ หัวใจฉันเต้นโครมคราม หน้าร้อนผ่าว รู้สึกอยากแทรกแผ่นดินหนีให้พ้น ๆ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายฉัน ถึงจะหน้านิ่งเย็นชา แต่ก็ไม่ซาดิส เอ่อ พอนึกถึงเรื่องนี้ฉันเนี่ยอยากจะร้องไห้จริง ๆ “คุณชื่ออะไร” ไม่รู้เป็นผู้หญิงใจง่ายแค่ไหน นอนกับชายไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนาม “บ้านไม่มีทีวี?” เขาคงยังไม่ตอบ เอาแต่พูดจาทำหน้านิ่งกวนประสาทฉัน “มี! แต่ไม่ชอบดู ทำไมละคะก็จะ จะอยู่ด้วยกันไม่ใช่ไง จะได้เรียกถูก” เขาเดินหันหลังไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนึงมา ‘เซ็น ดิณภัทร อัครไพศาลสกุล นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง เดินหน้านำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตีตลาดประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ฐานการผลิต ZER’ ชื่อนี้ฉันคุ้นหูมาตลอด เพราะตอนเช้าพ่อเปิดข่าวดูทุกวัน มันก็เข้า ๆ มาในหูฉันบ้างแต่ไม่อยากจะใส่ใจ “นาย เอ้ย คุณก็ดังดีนิ ทำไมไม่มีผู้หญิงมาสนใจ หรือคู่นอน คนแบบคุณจะคั่วใครก็ได้ จะมารับสมัครทำไม” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรินไวน์ หรูใส่แก้ว “ฉันคั่วมาหมดแล้ว ดารา คนในวงการ เบื่อ อยากหยุด” หยุด คือเขาจ้างฉันเพื่อให้มาหยุดความเจ้าชู้ของเขาเหรอเนี่ย ไม่สิ เขาอาจจะอยากมีซัมติงกับใครสักคนแค่คนเดียว ความคาดคะเนมากมายเด้งเข้ามาในหัวฉันเต็มไปหมด อยากรู้แต่ไม่กล้าจะถามต่อ “สงสัยอะไร?” “เอ่อ คือ ต่อไปนี้หมายถึงแบบนี้นะ คุณจะมี... กับฉันแค่คนเดียวเหรอ ไม่คั่วสาวมั่ว ๆ เหมือนคราวก่อนอีกงั้นเหรอ” เขาวางแก้วไวน์และเดินมาหาฉัน สายตาเขาดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด “ไม่รู้ ไปเก็บของสะ เกะกะ” ฉันได้แต่ยืนงงกับคำตอบของเขา อยากได้ความชัดเจน แล้วทำไมตาเขาเศร้า ถ้าเขาไม่มั่วผู้หญิงคนอื่นแล้ว ฉันจะได้สบายใจเรื่องโรคติดต่ออะไรพวกนี้ “งั้นคุณทำไม ไม่ป้องกันบ้าง” ฉันถามคำถามแบบนี้ไปได้ยังไงกัน “ฉันป้องกันทุกคน แต่กับเธอ ขี้เกียจ กินยาซะ” เขาทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน อืม ก็ห้องนั้นล่ะ ห้องที่เมื่อสักครู่ฉันคุ้นเคย “อย่าให้พูดหลายรอบ” ฉันเดินคอตก เข็นกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้องพร้อมจัดแจงเสื้อผ้าเครื่องสำอางวางไว้ให้เรียบร้อย จากสายตาที่สอดส่องก็ไม่พบ ข้าวของผู้หญิงคนอื่นแม้แต่น้อย เจอแต่เสื้อผ้าเขา เดี๋ยวนะ “คุณ ทำไมเสื้อผ้าคุณอยู่ห้องนี้” หน้านิ่งละจากหนังสือพิมพ์ สักครู่ก่อนจะตอบกลับมา “ก็ห้องนอนฉัน” “แล้วห้องฉันหล่ะ พาฉันไปห้องฉันหน่อย” เขาวางหนังสือพิมพ์นั้นลงท่าทางรำคาญฉันมาก “นี่! ฉันสั่งให้นอนที่ไหนก็นอนนั่นล่ะ อย่าขัดนัก” โอ้ยเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ฉันได้แต่ก้มหน้าก้มตาจัดของต่อไป พ่อคิดจะโทรง้อฉันบ้างมั้ย ตอนนี้ทำไมฉันรู้สึกอยากไปอยู่บ้านตัวเอง ถึงต้องสู้รบตบมือกับนางมารที่บ้าน มันก็ดีกว่าอะไรแบบนี้แน่ ๆ พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ฉันก็เปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา รัดติ้ว คู่กับกระโปรงทรงเอสั้นสะใจ เตรียมจะไปล่ารายเซ็นอาจารย์เพื่อลงทะเบียนเรียนเทอมที่จะถึงนี้ การลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าของฉันมักมีปัญหาอยู่ประจำ คนซวยสองพันสิบแปดจริง ๆ ซวยทุกเรื่อง ฉันหยิบกระเป๋าสะพาย Chanel Boy’ Caviar สีดำใบโปรด ที่ยังหลงเหลือติดมือขึ้นมา ทันใดนั้น แผนร้ายก็ดังปิ๊งทันที เ ขาบอกว่าเขาเบื่อผู้หญิงแนว ๆ นี้นี่น่า... ดี หึ ๆ ในเมื่อยกเลิกสัญญาบ้า ๆ ไม่ได้ ฉันก็จะทำให้ตาเซ็นหน้าเมื่อยนี่ เบื่อจนอยากจะไล่ฉันไปไกล ๆ เลยคอยดู “ล้า ลั่น ล้า ลา~” ฉันเปิดประตูฮึมฮัมเพลงชอบใจ ไม่วายเดินโฉบผ่านหน้าเขา เข้าไปในครัวหยิบน้ำมากินยาที่เขาให้ ฉันเหลือบมองเขาอยู่เป็นระยะ ๆ เขาก็ไม่สนใจหันมามองฉันสักนิด เอาแต่นั่งจ้อง แมคบุ๊คไม่ละสายตา “ลั่นล๊า ไปแล้วนะคุณ” ฉันก้มลงใส่ส้นสูง แอ่นก้นงอน ๆ ใส่เขา พอหันไปอีกทีเขายังคงนั่งนิ่งเหมือนเดิม แผนของฉันคงจะสำเร็จง่ายขึ้นไปอีก เขาเบื่อผู้หญิงแต่งตัวโป๊ ๆ แรง ๆ ชัวร์! “ไปไหนครับ” พี่ชายหน้าประตูเขายังยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเหรอเนี่ย! เขาจะได้ยินมันไหม ฉันอยากจะแหวกแผ่นดินหนีไปจากตรงนี้จริง ๆ “ปะ ไปมหาลัยค่ะ ขอตัว ๆ” ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวมาที่ลิฟต์ ขณะเอื้อมมื้อไปกดก็มีมือ มือนึงชิงกดให้ก่อน “พี่หน้าประตู” “ผม นพ ครับ ผมจะไปรับไปส่งคุณเอง” ความอิสระของฉันมันกำลังจะหายไปใช่มั้ยเนี่ย ฉันอยากจะไปไหนแบบอิสระเหมือนแต่ก่อน เมื่อลิฟต์ที่เปิด กำลังจะปิด “ไม่เป็นไรพี่ ทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวไปเอง สบายมาก” ฉันรีบส่งมือบ้ายบาย และก้าวเข้าลิฟต์อย่างเร็ว หวังว่าพี่นพคงตาม มาไม่ทัน เฮ้อ… โล่งใจ ปิ๊ง อืมนั่นไง ยืนหัวโด่รอฉันอยู่ข้างล่างซะแล้ว “ไปเถอะครับ ไม่งั้นผมโดนเละแน่” ฉันเลยต้องจำใจเดินมาขึ้นรถเบนซ์ คันหรูที่จอดหน้าตึก “เอ้อพี่นพ ตามมาทันได้ไงคะเนี่ยเร็วเชียว” เมื่อบรรยากาศในรถเริ่มเงียบฉันเลย ชวนคนขับรถที่เงียบกว่าคุยบ้าง ลักษณะความนิ่งเนี่ย สงสัยติดเชื้อมาจากเจ้านายตัวเองแหง ๆ “ปีกซ้ายของตึกมีลิฟต์ขนของอีกตัวครับ” “อ่อค่ะ” ‘ครืน... ครืน...’ ฉันรีบล้วงมือถืออกมาดู ก็แทบจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD