bc

Deep Down Inside: จงอ้อนวอน (นิยายวาย)

book_age16+
21
FOLLOW
1K
READ
family
HE
drama
mystery
like
intro-logo
Blurb

ผมไม่มีทางปล่อยพี่ไปเพราะพี่เป็นของผมคนเดียว

ลงทุกวันศุกร์ เวลา 09.00 น.

คำนำ

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพราะนึกอยากจะลองเขียนเรื่องดราม่าเป็นหลักแล้วมีเรื่องเหนือธรรมชาตินิดหน่อยเป็นปมหนึ่งของเรื่อง

พระเอกออกแนวมีความผิดปกติทางจิตใจแบบกลาง ๆ เย็นชา ไร้ความรู้สึก โลกทั้งใบเป็นสีเทา ไม่เคยสนใจสิ่งใดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เหมือนกับอยู่ไปแบบไร้จุดหมาย

แต่พอได้รู้จักกับนายเอกที่บังเอิญเจอกันอยู่บ่อย ๆ โลกของเขาจึงเริ่มมีสีสัน กาลเวลาผ่านไป ความรู้สึกฝังลึก การกระทำของพระเอกเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของและหึงหวงนายเอกจนเกินกว่าที่จะเป็นเพียงรุ่นพี่และรุ่นน้องในโรงเรียนเพราะเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายก็รู้สึกแบบเดียวกัน

ครั้นพอถูกปฏิเสธ พระเอกจึงเปลี่ยนวิธีการ ทำทุกอย่างเพื่อให้นายเอกกลายเป็นของตัวเองและยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง แม้ว่าจะต้องบังคับหรือขังนายเอกเอาไว้ก็ตาม

ความคิดจะวนเวียนแต่เพียงว่า “พี่เป็นของผมคนเดียว” หรือประมาณว่า “ต่อให้พี่เกลียดผม ผมก็ไม่มีวันปล่อยพี่ไปเพราะพี่เป็นของผม”

คำเตือน

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า จึงอยากเตือนนักอ่านว่าเนื้อหาจะขม ๆ หน่อยนะคะ

แต่ความหวานก็มีไม่น้อยเพราะพระเอกเป็นคนที่คลั่งรักคนหนึ่งเลยทีเดียว

ดังนั้นโทนเรื่องแต่ละช่วงเวลาจึงมีอารมณ์ความรู้สึก ขม ๆ หวาน ๆ สลับกันไปค่ะ

และเนื้อหาบางส่วนจะมีการเตือนตามด้านล่างนี้ ไม่ได้หนักหน่วงเท่าไหร่แต่มีอย่างละเล็กอย่างละน้อยค่ะ เพราะทุกอย่างคือปมของเรื่อง

การใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียน การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้ายจิตใจ การกักขังหน่วงเหนี่ยว การบังคับให้อีกฝ่ายยอมทำตามโดยที่ไม่อยากทำ การมีอคติกับคนที่ชอบเพศเดียวกัน อาการซึมเศร้า การฆ่าตัวตาย

เรื่องย่อ

หลังจากที่หมอกสูญเสียแม่ไป เขาก็ออกตามหาพ่อที่ไม่เคยรู้ว่ามีเขาเป็นลูกเพราะมีคำสั่งเสียสุดท้ายที่แม่ฝากฝังเอาไว้ แต่ครอบครัวของพ่อกลับไม่มีใครยอมรับจึงถูกแม่เลี้ยงและแฝดพี่น้องคอยรังแกอยู่เสมอ รวมถึงปู่ที่ไม่ยอมรับว่าเป็นหลาน มักจะคอยสอดส่องดูพฤติกรรมของเขาอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกลัวทำให้ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง

นิสัยที่เย็นชาและปิดกั้นผู้อื่นทำให้เขาถูกคนข้างนอกมองว่าเป็นคนแปลก ๆ ยามโดนกลั่นแกล้ง หมอกไม่เคยคิดจะตอบโต้เพราะรู้สึกว่าคนรอบตัวเป็นเพียงยุงรำคาญใจของเขาเท่านั้น

จนกระทั่งได้เจอกับเขมที่มาช่วยเขาโดยบังเอิญทุกครั้งราวกับโชคชะตาของทั้งคู่ถูกจัดวางเอาไว้

แรก ๆ หมอกเอาแต่หนีห่างเพราะคิดว่าเขมเป็นแค่อันธพาลต่างโรงเรียนที่จะมาไถเงินแต่ภายหลังกลับรู้สึกว่าขาดเขาไปไม่ได้เสียอย่างนั้น ไม่ยอมให้ใครมาใกล้ชิดกับเขมยกเว้นตัวเอง

แนะนำตัวละคร

พระเอก นายการันต์ พชรกุล ชื่อเล่น หมอก

เกิดปี พ.ศ. 2546 อายุ 21 ปี ส่วนสูง 187 น้ำหนัก 73

ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ผมสีน้ำตาลอ่อน

ข้อสังเกต เวลามีความสุข ใบหน้าจะมีรอยยิ้มหนวดแมวเหมือนแม่

นิสัยเหมือนพ่อและปู่ เย็นชา ไร้ความรู้สึก มักจะอยู่คนเดียว ไม่ยุ่งกับใครเพราะเจอแต่คนใจร้ายชอบรังแกและหาผลประโยชน์ แต่ถ้ามีคนพิเศษเข้ามาในชีวิตโลกทั้งใบจะเปลี่ยนจากสีเทาเป็นหลากสีสัน

นายเอก นายเขมกร พฤกษ์ขจร ชื่อเล่น เขม

เกิดปี พ.ศ. 2545 อายุ 22 ปี ส่วนสูง 180 น้ำหนัก 64

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ผมสีส้มแดง

ข้อสังเกต มีรอยบากที่หางคิ้วด้านซ้ายเพราะตกต้นมะม่วงตอนเด็ก

อาศัยอยู่กับยายเพียงแค่สองคน ขยัน อัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือคนที่อ่อนแอ แต่คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนมักจะคิดว่าเป็นอันธพาลเพราะรอยบากที่หางคิ้ว และผมที่เหมือนย้อมสีมา เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่ง อย่างเช่น พระเอก

ภาพปก : Jinori-NJ

จัดอาร์ตชื่อเรื่อง : Alin Design

สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามมิให้คัดลอกเนื้อหา ดัดแปลง แก้ไข ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ด้วยรูปแบบและวิธีการอื่นใดก่อนได้รับอนุญาต

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 มิถุนายน 2567: จนกว่าจะยอมรับ
มิถุนายน พ.ศ. 2567 เช้าวันหนึ่ง ณ ร้านสะดวกซื้อ Ringing เขมกร หรือ เขม ชายหนุ่มผมสีส้มแดงกำลังจัดเรียงสินค้าอยู่ภายในร้านเพียงลำพัง พลางหยิบลูกอมรสมะนาวเข้าปากเพื่อแก้อาการง่วงเหงาหาวนอนยามเช้าตรู่ สายตาไล่เรียงดูชั้นวางของกินเล่นทีละชั้นก่อนจะเลือกหยิบแซนด์วิชแฮมชีสออกมาหนึ่งชิ้นแล้วนำไปเข้าเตาไมโครเวฟ ขณะยืนรออยู่ข้าง ๆ หางตาก็เหลือบเห็นเงาของใครบางคนที่หลบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ด้านนอกร้าน เขมกรส่ายหน้าแล้วถอนหายใจทำเป็นมองไม่เห็นคน ๆ นั้น “วันนี้ก็กินเหมือนเดิมเหรอ” เสียงของธาม ชายวัยสามสิบสองผู้เป็นเจ้าของร้านเอ่ยทักทายอย่างเคย “ครับ” เขมกรตอบเขาด้วยน้ำเสียงสดใส “กินแต่ของในร้านไม่เบื่อหรือไง” เขาพูดจบแล้วยื่นถุงที่ใส่กับข้าวให้เขมกร ทำหน้าตาบ่งบอกว่า รับไปสิ “แต่ว่า...” คิ้วได้รูปที่มีรอยบากตรงหางคิ้วด้านซ้ายเลิกขึ้น “รับไปเถอะน่า ถึงจะบอกว่าของในร้านกินฟรี แต่นายก็กินน้อยจนร่างกายผอมหมดแล้ว ถ้าไม่สบายเข้าโรงพยาบาลไป ใครจะช่วยฉันดูร้านล่ะ ยิ่งมีคนช่วยงานน้อย ๆ อยู่” ธามถอนหายใจมองคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าลูกน้องคนนี้จะอดมื้อกินมื้อเก็บเงินมากมายไปเพื่ออะไร ในเวลานี้เขมกรอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน แต่ก็เลือกที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำราวกับติดหนี้หลายล้านจนแทบไม่ได้นอน แรกเริ่มเขาก็รับมาทำงานที่ร้านด้วยความสงสาร เห็นร่างกายผอมบางเสียจนอดเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะให้กินของทุกอย่างในร้านได้ฟรี เขมกรก็ยิ่งเกรงใจเข้าไปใหญ่ เลือกหยิบแต่อันที่ใกล้จะหมดอายุมาก็เท่านั้น “ขอบคุณครับ” เขายิ้มให้เจ้านายผู้ใจดีด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ ทว่า การที่เขายิ้มให้คนอื่นอย่างง่ายดายนั้นทำให้ใครบางคนที่หลบอยู่ด้านนอกร้านไม่พอใจอย่างยิ่งยวด แต่เขมกรไม่ได้ใส่ใจกับสายตาที่กำลังจ้องมองเขาเหมือนวิญญาณตามติด ครั้นถึงช่วงเที่ยงวัน คนส่งอาหารเดินเข้ามาในร้านเพื่อส่งข้าวปลาให้เขมกรโดยเฉพาะ เขามองคนตรงหน้าแล้วปฏิเสธว่าไม่ได้สั่ง เพราะข้างถุงเขียนชื่อร้านดังราคาแพงเอาไว้ ซึ่งเขาไม่มีทางสั่งของพวกนี้มากินเด็ดขาด “ไม่น่าใช่นะครับ ส่งผิดหรือเปล่า” เขมกรเอ่ยปาก “คุณเขมกร พฤกษ์ขจรใช่ไหมครับ” เขาอ่านชื่อและนามสกุลได้ถูกต้องจนไม่อาจปฏิเสธได้ “ครับ” สุดท้ายแล้วก็ได้แต่รับมาเพราะจำใจ ในเมื่อเขาไม่ต้องการสิ่งใดจากคนผู้นั้น เขมกรจึงถือชุดอาหารที่เพิ่งได้มาเดินออกไปนอกร้านราว ๆ หนึ่งร้อยเมตรแล้วยื่นให้คุณยายที่กำลังนั่งขายของทำมืออยู่ในร้านเล็ก ๆ “ทานให้อร่อยนะครับ” เขมกรยื่นชุดอาหารให้แล้วเดินออกจากร้านราวกับว่าได้ผลักไสสิ่งที่ทำให้ใจของเขาว้าวุ่นออกไปได้ เพียงแค่ก้าวออกมาไม่เท่าไหร่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจึงได้สบเข้ากับเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่รออยู่นอกร้าน “แม้แต่ข้าวที่ผมซื้อให้ พี่ก็ไม่อยากกินเหรอ” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนเอียงคอมองหน้าเขารอคำตอบ “ไม่” เขมกรตอบเพียงสั้น ๆ ไม่อยากสนทนากับเขาให้มากความ “ถ้างั้นพี่ชอบอะไร ผมจะซื้อมาให้” ร่างสูงยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะเอาใจ “ไม่มี” แม้คำพูดจะดูไร้เยื่อใย ทว่า น้ำเสียงของเขายังคงรักษาน้ำใจคนถามเอาไว้อยู่บ้าง “ไม่เป็นไร ผมจะซื้อทุกอย่างมาให้พี่เอง สักวันต้องมีอะไรที่พี่ชอบบ้าง” ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหนวดแมวมองเขมกรอย่างมีความหวัง “หมอก วันนี้นายไม่มีเรียนหรือไง” เขมกรถามเขาแม้จะไม่ได้หันมามอง “สนใจเรื่องของผมบ้างแล้วเหรอ” หมอกยิ้มแป้นจนตาหยี รอยยิ้มหนวดแมวปรากฏขึ้นอีกครั้ง คิดไปว่าพี่คนนี้ถามเพราะความเป็นห่วงเหมือนอย่างเคย “เปล่า แค่ไม่อยากเห็นหน้านาย ฉันบอกนายไปหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้ทำแบบนี้ ต่อให้นายทำมากกว่านี้ฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ” ไม่ว่าสีหน้าของคนพูดจะจริงจังมากแค่ไหน คนฟังก็ไม่แยแสตามประกบเขาทุกฝีก้าว “ยิ่งไม่อยากเจอ ก็ยิ่งต้องเจอ” หมอกพูดจบแล้วคว้าเอวของเขมกรเข้ามาใกล้ “เจอกันตอนค่ำ ผมจะรอที่เดิม” เขาพูดจบแล้วก็หันมายิ้มให้อีกครั้งหนึ่งก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเอง เขมกรส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น มองตามแผ่นหลังของหมอกด้วยความเหนื่อยใจ คิดจะสลัดคนที่ตามติดเป็นตังเมแบบนี้ไม่ง่ายเลย เวลา 20:00 น. ร้านเหล้า Luminous เขมกรเปลี่ยนชุดทำงานเรียบร้อยแล้วออกมาข้างนอกห้องสตาฟเพื่อรับออเดอร์จากลูกค้าตามหน้าที่ “เขม เอาของไปเสิร์ฟลูกค้าวีไอพีห้องสามที” เสียงของผู้จัดการร้านตะโกนบอกเขา “ให้มิ้นท์ไปแทนไม่ได้เหรอ” เขาเอ่ยปากเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกค้าคนนั้น “เรื่องอะไรจะไป พี่เขมก็รู้ว่าเขาเจาะจงเลือกพี่ ขืนให้คนอื่นเข้าไปก็โดนไล่ตะเพิดออกจากห้องอยู่ดี” มิ้นท์เบ้ปากเพราะเคยหลงเข้าไปตามคำขอของเขมกรครั้งหนึ่งด้วยความไม่รู้ “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างเห็นใจ ไม่รู้ว่าเขากับลูกค้าวีไอพีคนนั้นมีเรื่องอะไรกันมาแต่ชาติปางก่อน ครั้นเข้ามาในห้องวีไอพีหมายเลขสามแล้ว เขมกรก็ยกเครื่องดื่ม แก้วกับน้ำแข็งไปวางไว้ที่โต๊ะ เตรียมหันหลังจะเดินหนีออกจากห้อง “ปฏิเสธลูกค้า ไม่ยอมบริการแบบนี้ ไม่กลัวโดนไล่ออกเหรอ” เสียงของคนคุ้นเคยดังขึ้น เขมกรหันกลับมา ตักน้ำแข็งใส่แก้วแล้วเทเหล้ากับโซดาวางไว้ที่โต๊ะแล้วถอยหลังไปอยู่ที่มุมห้อง อีกฝ่ายยิ้มมุมปากหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่แล้วเดินตรงเข้ามาหาเขมกรที่พยายามมองเฉไฉไปทางอื่น “จะหลบหน้าผมไปถึงไหน พี่เขม” หมอกกระซิบถามคนตรงหน้า ลมหายใจอุ่นปะทะเข้ากับต้นคอเรียวของเขมกร “ใกล้เกินไปแล้ว ฉันไม่ชอบ” เขาเตือนรุ่นน้องพลางหลบออกมาอีกทาง “แล้วยังไง” หมอกทำหน้าใสซื่อไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายบอก ทำหูทวนลมทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดพวกนั้น อย่าเข้ามาใกล้ ฉันไม่ชอบ เลิกยุ่งวุ่นวายได้ไหม “นายฉลาดขนาดนั้น แต่ไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันพูดบ้างเลยเหรอ ทำตัวเป็นเด็กไปได้” เขมกรคิ้วขมวด ไม่ว่าจะไล่อย่างไร หมอกก็ไม่ยอมเลิกรา “ผมรู้ว่าพี่ก็รู้สึกเหมือนผม พี่นั่นแหละที่ต้องเลิกผลักไสผมสักที” เขาโพล่งออกมา “พี่กลัวอะไรนักหนา พี่เขม” “ฉันไม่ได้กลัว ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้ชอบนาย ฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย” เขมกรยังคงยืนยันคำเดิมอย่างที่เคยพูดมาเป็นร้อยครั้งตั้งแต่ได้เจอหมอกอีกครั้งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน “ผมไม่เชื่อ” คำพูดสั้น ๆ ของหมอกทำให้เขาต้องถอนหายใจอีกครั้ง “แล้วฉันต้องทำยังไง นายถึงจะเชื่อ” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องกลับรอคำตอบ อยากรู้วิธีที่จะหลุดพ้นคนก่อกวน “อย่าพยายามให้เหนื่อยเลย ไม่ว่ายังไงพี่ก็ต้องอยู่กับผม ถึงพี่จะเกลียดผมมากแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางปล่อยพี่ไปอีกแล้ว” สีหน้าของหมอกจริงจัง แววตาเศร้าสร้อย แต่กระนั้นเขาก็ยิ้มออกมาในภายหลัง “เลิกทำแบบนี้สักที ทำไมต้องทำให้ฉันลำบากใจอยู่เรื่อย” เขมกรส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ฉันจะไปนัดบอร์ด นายจะได้เลิกยุ่งกับฉัน” “กล้าทำแบบนั้นก็ลองดูสิ ต่อให้ผมต้องขังพี่ไว้ ผมก็จะทำ” เขาพูดแล้วก็กระดกเหล้าอึกใหญ่ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มส่อแววจริงจังยามที่มองอีกฝ่าย “นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ” เขาตวาดเสียงดังทันทีที่ได้ยินรุ่นน้องคนนี้พูดข่มขู่ “อื้ม พี่รู้ไหมว่าผมบ้าได้มากกว่านี้อีก” หมอกจับคางของเขาหันมาทางตนเอง “จนกว่าพี่จะยอมรับ” สายตาของเขามองริมฝีปากของอีกฝ่าย ใบหน้าแดงเพราะฤทธิ์เหล้ากำลังทำให้สติของหมอกค่อย ๆ เลือนหาย ทว่า เขาก็ยังอดทนห้ามใจของตนเองเอาไว้ไม่ให้ทำเกินเลยเพราะกลัวว่าเขมกรจะไม่พอใจที่เขาฉวยโอกาส ทั้ง ๆ ที่อยากสัมผัสร่างกายทุกส่วนของคนตรงหน้ามากถึงเพียงนั้น คิดในใจว่าสักวัน เขมกรจะยอมรับความจริงเสียทีว่ามีความรู้สึกดี ๆ ให้เขาเหมือนกัน

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook