2

593 Words
เมื่อรถจอดลงแล้ว ศศิร์ธามองตรงไปยังเบื้องหน้าที่เป็นผืนดินแปลงที่เขาต้องการนำมาขยายอาณาเขตที่กำลังมีโครงการก่อสร้าง เขาต้องการมันพร้อมกับที่แปลงข้าง ๆ ที่กว้านซื้อไว้แล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน นี่สินะ คู่ค้าที่เขาต้องลงมาเจรจาด้วยตัวเอง ศศิร์ธาเห็นบ้านไม้กึ่งปูน หลังไม่ได้ใหญ่โตนัก ปลูกสร้างบนพื้นที่รวมแล้วไม่เกินยี่สิบไร่ ภายในนั้นมีสวนผลไม้หลากหลายชนิดแบบที่เก็บกินได้ทั้งปี ตามฤดูกาล ลักษณะคล้ายปลูกกินเองในครัวเรือนมากกว่าจะเป็นในเชิงพาณิชย์ ศศิร์ธาเก็บรวบรวมข้อมูลตามที่ตาเห็น เพื่อใช้ต่อรองกับเจ้าของที่ดิน เขาแตะที่เปิดประตูผลักออก แล้วยกขาแข็งแรงทั้งสองข้างย้ายลงไปวางบนพื้นดิน พร้อมกับยืดตัวตรงเต็มความสูงเมตรแปดสิบเซนต์ ชายหนุ่มมองสำรวจรอบบริเวณอีกทอดแล้วเดินเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน ไม่มีใครสักคน เขาเดินลึกเข้าไปอีกตรงหลังบ้าน แว่วเสียงคุยกันที่ตรงด้านหลังของบ้านนั่นเอง สายตาคมเข้มกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วค่อยเดินตรงไปตามเสียงที่ได้ยิน “เขามาหลายรอบแล้วจ้ะ ครั้งล่าสุดที่มา ภาให้แมนเอาไม้ฟาดเข้าให้ แล้วก็จับอีตาแว่นได้พอดี ขู่ว่าจะเอาขี้หมายัดปาก เลยหน้าซีดวิ่งหนีขึ้นรถแทบไม่ทัน” ศศิร์ธาฟังนิ่ง ๆ นี่เองที่ทำให้คมเดชหน้าซีดหน้าเซียว ทำท่าจะอาเจียน ตอนรายงานความคืบหน้าให้เขาฟัง เมื่อตอนอยู่บนรถ คนพวกนี้ไร้อารยะถึงกับจะเอาอุจจาระสุนัข ยัดปากทนายความของเขาเลยหรือ ศศิร์ธาส่ายหน้าด้วยอาการไม่พอใจปนเอือมระอา “นี่ถ้ามันมาอีก บอกตาเลยดีไหม ถ้าตารู้นะ จะต้องเข้าไปเอาปืนมายิงหัวพวกนั้นแน่นอนเลย” เสียงที่ฟังดูมีอายุบอกสำทับอย่างกระแทกกระทั้นใส่อารมณ์ คงนึกโกรธตามคนในกลุ่มนั่นเอง “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง” “แล้วพวกนั้นบอกไหมว่าจะซื้อไปทำอะไร” “ไม่ได้บอกหรอกแม่” เสียงหวานใสเรียบเอื่อยเสียงนั้นทำให้ศศิร์ธาต้องหยุดฟัง หัวใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงหลังสุดนั่น ศศิร์ธาขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด พยายามมองเข้าไปตรงสวน แต่ไม่เห็นเจ้าของเสียงพูดประโยคเมื่อครู่นี้ที่กระตุกหัวใจของเขา “บอกแต่ว่าเป็นตัวแทนจากเจ้าของที่ข้าง ๆ เรานี่แหละ นี่เขาได้ที่ไปตั้งเยอะแล้วนะ ซื้อที่ยายหนั่นไปนั่นก็ตั้งเป็นหลายร้อยไร่ ไม่รู้ว่าจะอยากซื้อที่ของเราไปทำอะไรอีก” “คงเอาไปทำเมืองของพวกธุรกิจสีเทา ๆ ดำ ๆ อะไรนั่นหรือเปล่า ที่ออกข่าวเมื่อคืนนี้ไง จำได้ไหมนวล” “น่าจะใช่มั้งแม่” เสียงเรียบเอื่อยเอ่ยตอบอีกครั้ง เสียงที่มีอายุที่สุดพูดต่อว่าอย่างเผ็ดร้อน “หน้าด้าน! ที่ของตัวเองกว้างออกขนาดนั้น ยังจะอยากได้ที่ของคนอื่นอีก” “นั่นสิ แล้วแบบนี้ถ้าเจ้าของตัวจริงเขามาคุยเอง พวกเราจะเอายังไงกันดี” “ก็ไม่เอาไงหรอกแม่ เราบอกเหมือนเดิมนั่นแหละว่าไม่ขาย” เสียงเรียบเอื่อยเสียงนั้นบอกแบบนุ่มนวลก็จริงอยู่ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจและเด็ดเดี่ยวไม่น้อยเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD