ความรู้สึกที่ถูกปิดกั้น (20)

1224 Words
ในระหว่างทางกลับคอนโด ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัว ความรู้สึกหึงหวงที่ครอบงำอยู่ในใจไม่สามารถปล่อยวางได้เลย ริสาเงียบและไม่พูดอะไรระหว่างทาง บรรยากาศที่ตึงเครียดทำให้รู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังบีบอัดอยู่ในใจ ฉันตั้งใจจะถามภูวินว่าทำไมถึงสนิทสนมกับวิลเลี่ยม แต่เมื่อมองดูเขาแล้ว กลับรู้สึกว่าคำถามนั้นอาจทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลง “พี่ภูวิน เป็นอะไร?” ฉันถามเสียงเบา เมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่พูดอะไร ฉันรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้ ปกติแล้วภูวินไม่ใช่คนที่เงียบขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขากลับดูห่างเหิน ราวกับว่าเขาอยู่ในโลกของตัวเอง “ไม่มีอะไร แค่เหนื่อย” เขาตอบอย่างห้วน ๆ มองไปข้างหน้า ไม่คิดจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้ฉันฟัง ฉันรู้สึกผิดหวังและไม่เข้าใจในท่าทีของภูวิน เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของฉันเสมอ แต่ตอนนี้กลับเหมือนเขาต้องการห่างเหิน เมื่อมาถึงคอนโด ภูวินจอดรถและเดินเข้าไปภายในอย่างเงียบ ๆ ฉันเดินตามไป แต่เขากลับบอกว่า “นอนก่อนเลยนะ ขอต้องทำงานก่อน” เสียงของเขาฟังดูอ่อนแรง ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเขาไม่ต้องการให้ฉันอยู่ใกล้ ๆ ในค่ำคืนนี้ “พี่ภูวิน… ทำไมไม่พักบ้าง?” ฉันถามอย่างกังวล แต่เขาเพียงแค่ส่ายหัวและเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้ฉันยืนอยู่กลางทางรู้สึกอึดอัดและไม่เข้าใจ ในคืนที่เงียบสงัด ฉันนอนคนเดียว ในขณะที่ภูวินยังคงทำงานอยู่ในห้อง รู้สึกถึงความเหงาที่ค่อย ๆ ย่ำเยียบเข้ามาในใจของฉัน ฉันรู้สึกผิดปกติ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภูวิน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร พอตอนเช้า พี่ภูวินทำตัวเหมือนปกติ โดยพาไปส่งที่ทำงาน แต่บรรยากาศระหว่างเรายังคงตึงเครียด ฉันรู้สึกเครียดและกังวลมากขึ้น เพราะภูวินยังไม่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจเหมือนเดิม “พี่ภูวิน…” ฉันเริ่มพูด แต่เขาก็แค่หันไปมองแล้วไม่พูดอะไร ฉันรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในความไม่แน่นอน “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” วิลเลี่ยมสังเกตเห็นว่าฉันดูเงียบ ๆ และไม่ค่อยมีสมาธิ เขาจึงเข้ามาถาม “ก็มีเรื่องนิดหน่อย...” ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเริ่มโอบล้อมตัวฉันอีกครั้ง ในขณะนั้น ภูวินหันไปเห็นกระเป๋าตังก็เลย รู้สึกว่า ริสาอาจจะลืมกระเป๋าตังไว้ เขาจึงตัดสินใจวนรถกลับมาเพื่อเอากระเป๋าตังมาให้ริสาด้วยความเป็นห่วงและอยากให้ริสามีทุกอย่างพร้อมในวันทำงาน แต่เมื่อเขาเห็นริสากำลังพูดคุยกับวิลเลี่ยม ความรู้สึกไม่สบายใจที่สะสมอยู่ในใจทำให้เขาวางกระเป๋าตังลงบนโต๊ะอย่างแรง “เอามาให้ เห็นว่าลืม” เสียงของเขาแหบพร่า ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่อยู่ในอากาศ เขาพูดจบแล้วก็เดินออกไปทันที โดยไม่รอฟังคำตอบหรือคำพูดใด ๆ ของฉัน ฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังปิดกั้นตัวเองจากฉันอย่างสิ้นเชิง “พี่ภูวิน!” ฉันตะโกนตามไป แต่เขาก็ไม่หันกลับมาและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกแย่ ๆ ยิ่งทวีคูณขึ้นในใจของฉัน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงมา ท่ามกลางความสงบเงียบ ฉันรู้สึกเคว้งคว้างและไม่เข้าใจว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ภูวินเป็นแบบนี้ ฉันอยากให้เขาเปิดใจพูดคุยกับฉัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยากให้ฉันรู้ความจริงอะไรเลย “ทำไมพี่ภูวินถึงไม่ยอมพูดอะไรกับฉัน…” ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ขณะนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงาน ความรู้สึกผิดหวังและไม่มั่นใจเริ่มกัดกินจิตใจของฉัน แต่ในใจยังมีความหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นคนเดิมที่ฉันรู้จัก . ในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัว และหัวใจของผมก็สั่นคลอนเมื่อคิดถึงริสา เธออยู่ข้างๆ โดยมีวิลเลี่ยมอยู่ตรงนั้นด้วย มันทำให้ความรู้สึกหึงหวงและไม่สบายใจที่อยู่ในใจพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เลย มันร้อนแรงดั่งไฟที่กำลังลุกไหม้ ผมมองไปที่ริสา และคิดว่าเธอคงจะรู้สึกถึงความไม่สบายใจของผม แต่กลับไม่อยากให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกนี้ เพราะกลัวว่าอารมณ์ร้อนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจนี้มันจะพาลไปถึงเธอ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงพยายามออกห่างจากเธอให้มากที่สุด ไม่พูด ไม่สื่อสาร และไม่แสดงความรู้สึกออกมา การเผชิญหน้ากับเธอในสภาพจิตใจแบบนี้มันยากเกินไป ผมไม่อยากให้ความเครียดและอารมณ์ที่มีอยู่ กลายเป็นการทำร้ายเธอ ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะเงียบเพื่อปกป้องทั้งเธอและตัวเอง แต่ในใจกลับรู้สึกว่าการห่างเหินนี้มันยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ในห้องทำงานที่เงียบสงัด ผมนั่งอยู่กับความไม่สบายใจที่ถาโถมเข้ามา ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะไม่เป็นใจ ลูกน้องทำอะไรก็ไม่ถูกใจ เสียงที่ดังขึ้นจากการสนทนากันในสำนักงานทำให้ผมรู้สึกอึดอัด ความคิดของผมก็วนเวียนอยู่แต่เรื่องริสาและวิลเลี่ยม ไอ้เดล ลูกน้องคนสนิทเห็นท่าทีที่ไม่ดีจึงไม่รอช้า เขาเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง “นาย เป็นอะไรครับ ทำไมดูเครียดจัง” “ไม่มีอะไร” แต่คำตอบนั้นก็ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่รบกวนผมได้ จนในที่สุด ผมก็ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เดลฟัง ตั้งแต่เรื่องที่ริสานั่งอยู่กับวิลเลี่ยมและความรู้สึกหึงหวงที่กัดกินผมอยู่ “กูไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองตอนนี้เลย” ผมพูดออกไปอย่างระบายความอัดอั้น “มันคืออาการคนหึงน่ะครับ” เดลยิ้มขำ “ไม่น่าใช่” ผมเถียง แต่เดลกลับยิ้มและพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะเดียวกันผมกลับรู้สึกขัดแย้ง “ลองคิดดูสิ ถ้าเห็นเขาอยู่กับคนอื่นแล้วไม่พอใจ อยากให้รอยยิ้มนั้นเป็นของเราเพียงคนเดียว มันคือเพราะเรารักเขาและไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเขา” เดลบอกด้วยน้ำเสียงชัดเจน แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง “แค่รู้สึกอยากปกป้องเขาเท่านั้น” ผมตอบเสียงต่ำ แต่ภายในใจกลับก่อเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อน ในใจของผมเผชิญกับคำถามว่า 'ทำไมจึงกลัวว่าเธอจะไปกับคนอื่น?' ผมนั่งอยู่ในความคิดนั้นยาวนาน และสุดท้ายก็รู้สึกถึงความจริงที่แผ่ซ่านอยู่ในใจ ผมไม่สามารถทนอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ได้อีกต่อไป และสุดท้ายการเผชิญหน้ากับริสาก็เป็นสิ่งที่ผมต้องทำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD