ในห้องนั่งเล่นที่อบอุ่นของบ้านริสา เสียงแสงแดดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง กลับตัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ริสานั่งอยู่ข้างภูวิน ในขณะที่พ่อของเธอนั่งอยู่ตรงข้าม มองเขาด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ และเต็มไปด้วยความสงสัย
“ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ลูกสาวของผมอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนแบบนี้” พ่อของริสาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มันเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยน้ำหนัก ทำให้ภูวินรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในอากาศ ภูวินพยายามรวบรวมความกล้า เขาต้องการแสดงให้พ่อของริสายอมรับเขา
“ผมเข้าใจความกังวลของคุณครับ ผมแค่ต้องการเวลาเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าผมมีความจริงใจต่อริสา” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้น
“ความจริงใจ? คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเคยได้ยินคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วนจากผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของลูกสาวผม?” พ่อของริสาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“ทำไมคุณถึงเชื่อว่าคุณจะแตกต่าง?” ภูวินรู้สึกหงุดหงิด แต่เขารู้ดีว่าต้องควบคุมอารมณ์ เขานึกถึงคำพูดของริสา ที่เคยบอกเขาว่าให้ยืนหยัดในความรัก และไม่ยอมแพ้
“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะทำให้คุณผิดหวังหรือทำให้ริสาต้องเจ็บปวด” เขาตอบอย่างตั้งใจ
“ผมเพียงแค่ต้องการโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง”
“พิสูจน์ตัวเองอย่างไร? คุณมีอะไรให้ผมเห็นบ้าง?” พ่อของริสาถามอย่างตั้งคำถาม ด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะไม่ยอมอ่อนข้อ
“คุณสามารถมั่นใจได้ว่าลูกสาวผมจะไม่ต้องเจอกับความเจ็บปวดอีกหรือเปล่า?” ภูวินเงียบไปครู่หนึ่ง เขานึกถึงความรู้สึกที่เขามีต่อริสา และความตั้งใจที่จะทำให้เธอมีความสุข
“ผมไม่สามารถสัญญาได้ว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ แต่ผมสัญญาว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอมีความสุขและปลอดภัย” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“แต่คุณคิดว่าคุณสามารถรักษาลูกสาวผมได้จริงหรือ?” พ่อของริสาตอบด้วยเสียงเข้มขึ้น การถามที่ดุดันนั้นทำให้ภูวินรู้สึกถึงการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ แต่เขารู้ดีว่าต้องยืนหยัดในความเชื่อของตัวเอง
“ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่ผมมีความตั้งใจจริงและพร้อมจะเรียนรู้ ผมรักริสาจริง ๆ และไม่ต้องการให้เธอต้องเลือกใครสักคนที่ไม่รักเธอ” พ่อของริสาจ้องมองภูวินอย่างเข้มงวด ก่อนจะยิ้มเยาะอีกครั้ง
“ผมจะจับตามองคุณอยู่ อย่าคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณเข้ามาในชีวิตของริสาได้ง่าย ๆ” ในขณะนั้น ริสารู้สึกถึงบรรยากาศที่หนักหน่วง แต่เธอก็ยังมองดูภูวินด้วยความหวัง
“พ่อคะ...พี่ภูวินคือคนที่ริสาเลือก” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ บรรยากาศในห้องเริ่มเย็นลงเล็กน้อย แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ ภูวินรู้ว่าเขาต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้ และเขาก็มั่นใจในความรักของเขาที่มีต่อริสา แม้จะมีอุปสรรคมากมายที่ต้องเผชิญ แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้ ริสามองพ่อด้วยความลังเล ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบ
“ริสา ไปรอข้างนอกหน่อย พ่อมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับภูวินเขา”
“พ่อ… แต่…” ริสาพูดไม่เต็มเสียง แต่พ่อของเธอกลับยิ้มให้ และส่งมือไปสัญญาณให้เธอออกไป
“ไปเถอะ พ่อแค่ต้องการคุยกับเขาแบบเปิดอก” พ่อของริสาหันไปมองภูวิน พร้อมทั้งพยักหน้าให้ ริสาได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินออกไป ขณะที่ประตูปิดลงเบา ๆ เสียงที่เกิดขึ้นจากภายในห้องจึงเริ่มเป็นส่วนที่พิเศษระหว่างภูวินกับพ่อของริสา
“คุณภูวิน” พ่อของริสาพูดขึ้นเสียงเข้ม
“ผมรู้ว่าคุณรักริสา แต่สิ่งที่ผมกังวลคือเรื่องการเติบโตของเธอในสังคมที่ยากลำบากนี้” ภูวินมองตาพ่อของริสา พร้อมทั้งรู้สึกถึงน้ำหนักในคำพูดนั้น
“ผมเข้าใจครับ ผมรู้ว่าการเป็นลูกของครอบครัวคนจีนที่มีชื่อเสียงมีความท้าทายมากมาย”
“คุณรู้ไหมว่าเราไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา” พ่อของริสาพูดต่อ น้ำเสียงของเขามีความเครียด
“เราคือครอบครัวที่อยู่ในเงามืดของมาเฟีย ที่ทุกการตัดสินใจมีผลต่อชีวิตของทุกคนในครอบครัว”
“ผมไม่เคยคิดว่าการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตริสาจะง่าย” ภูวินตอบกลับ พร้อมทั้งพยายามเข้าใจสถานการณ์ที่พ่อของเธอกำลังเผชิญ
“แต่ผมมั่นใจว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอปลอดภัย” พ่อของริสาหยุดคิดสักพัก เขามองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ราวกับว่าต้องการให้ริสาฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด
“ผมไม่ต้องการให้ลูกสาวของผมต้องเผชิญกับอันตรายที่เราเคยเผชิญมา ผมเห็นเธอเติบโตและเก่งกาจในทุกด้าน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะปลอดภัยเสมอไป”
“การแต่งงานอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” เขาพูดต่อ
“ผมไม่คิดว่ามันหมายถึงการจำกัดอิสรภาพของเธอ แต่เพื่อให้มีใครสักคนคอยดูแลและปกป้องเธอ” ภูวินรู้สึกถึงน้ำหนักในคำพูดของพ่อของริสา มันไม่ใช่แค่ความกังวล แต่เป็นความรักที่ลึกซึ้ง เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผมยินดีที่จะดูแลและรักเธอ ถ้าผมได้รับโอกาส”
“คุณเข้าใจว่าการมีใครสักคนคอยปกป้องริสานั้นสำคัญแค่ไหนไหม?” พ่อของริสาถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“คุณต้องทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด”
“ผมเข้าใจครับ” ภูวินตอบกลับอย่างมั่นใจ
“ผมจะไม่ยอมให้เธอต้องเจอความเจ็บปวดจากใคร”
“ถ้าคุณรักเธอจริง คุณจะต้องทำให้ผมเชื่อในตัวคุณ” พ่อของริสาตอบ “การแต่งงานอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเราทั้งคู่” ภูวินพยักหน้ารับรู้ แม้จะมีความตึงเครียดในอากาศ แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่พ่อของริสากำลังพูดนั้นมีความหมายต่อความรักที่เขามีต่อริสา และเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการมีพ่อของเธออยู่ในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตของความสัมพันธ์นี้
“ผมพร้อมที่จะสู้เพื่อความรักของเราครับ” ภูวินพูดด้วยความมั่นใจ แม้จะยังมีความไม่แน่ใจ แต่เขารู้ดีว่าเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาความรักนี้ไว้ พ่อของริสาหยุดชั่วคราว ก่อนจะยิ้มให้
“ผมหวังว่าคุณจะเป็นคนที่ริสาต้องการ ผมจะให้โอกาสคุณ แต่จำไว้ว่าผมจะจับตามองคุณอยู่”