ลังเล (11)

1179 Words
"แหมมมม กว่าจะเสด็จมาได้ ก็คือนานมากกก ประกอบรถอยู่หรอวะ" พอผมมาก็เกิดอาการอีลูกช่างแซวกันอีกละ และผมเชื่อว่า อีกไม่นานมันก็จะแซวหนักกว่าเดิมด้วย "คือถ้ามึงไม่เสือกสักเรื่อง กูว่าไม่ตายนะ ทำไมไม่ลองใช้ชีวิตแบบนั้นดูอ่ะ" "ไม่เอาอ่า แบบนั้นมันไม่สนุก คิดว่าจะใช้ชีวิตแบบแซวมึงไปตลอดน่าจะดีกว่า" ผมเลิกสนใจไอ้นิวก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อทักหาเจ้าร่างบางที่ไม่ยอมเดินขึ้นมาสักที แล้วก็ไม่ยอมให้เดินไปรับด้วย ยัยนี้ดื้อชะมัดเลย "แล้วมึงเป็นไรวะไอ้ภูวิน เห็นมองประตูไม่พักเลย จะเรียกเรนนี่มามั้ยล่ะ" ผมส่ายหัวรัวๆ ก่อนที่จะพูดดักพวกมันออกไป วันนี้ห้ามพูดถึงเรนนี่และผู้หญิงคนอื่นๆ เด็ดขาด "ทำไมวะ มีแขกสำคัญหรอ" ไอ้โซจูพูดถามขึ้นอย่างสงสัย มีหวังพูดก็ตายห่ากันพอดี ผมก็ยังคงส่ายหน้าเป็นคำตอบอีกเหมือนเดิม จนพวกมันทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก แกร๊ก! "พี่ภูวิน...." ริสาเบิกตากว้างเมื่อเห็นเพื่อนทุกคนกำลังจ้องมองไปที่เธอ นี้แหละคือสาเหตุที่ผมบอกว่า อย่าพูดถึงผู้หญิงคนอื่น ก็เพราะเธองอแงจะมาผับกับผมด้วยนี้แหละ "เอ่อออ....." "มานั่งนี้สิ ทุกคนอันนี้ริสา ริสาอันนี้เพื่อนพี่ นี้ไอ้นิว ส่วนไอ้นั้นโซจู ส่วนไอ้หน้านิ่งนั้นธันวา ตื่นเต้นหรอ55555" ผมพูดแนะนำตัวเองทีละคน ก่อนที่จะริสาจะโค้งตัวทักทาย ไอ้พวกนั้นก็ตกใจก็พอๆ กัน แต่ก็ต้องรีบโค้งตัวรับเหมือนกัน ที่นี่พวกมันก็คงเลิกสงสัยแล้ว่า ทำไมผมถึงพูดดักพวกมันแบบนั้น "อ้อ แบบนี้เองหรอ ที่พูดเมื่อกี้อ่ะ" ไอ้นิวพูดทักขึ้นมาก่อน ไอ้เหี้ยเขาก็กวนตีนไม่เลิก จนริสาทำหน้างง แล้วก็หันมามองหน้าผมแบบสงสัยว่า มีเรื่องอะไรกันหรอ ยัยนี้ยิ่งขี้สงสัยอยู่ "อืม" "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณริสา" พรึ่บ! "โอ๊ยไอ้ภู! ไรวะ" "ไม่ให้จับกูหวงของกู" จังหวะที่ผมพูดแบบนั้นทุกคนที่อยู่ในห้องก็ต่างยิ้มมุมปากกันหมด แม้แต่ไอ้ธันวาก็ยัง.... จนผมทำหน้าเลิ่กลั่ก แล้วรีบพูดแก้อีกครั้ง แต่มันก็ยิ่งดูมีพิรุธไปใหญ่เลย "ของมึง? น้องเขาไปเป็นของมึงตอนนั้นวะ ทำไมพวกกูไม่เห็นรู้อะไรเลย" ไอ้โซูจูพูดทักขึ้น "เสือกน่า" "แล้วอันนี้น้องเขาเป็นอะไรกับมึงวะ ถึงพามาที่นี่ จริงจังมากหรอ" อันนี้เหมือนไม่ได้มานั่งกินเหล้าล่ะ เหมือนมานั่งให้พวกมันสอบสวนมากกว่า ไอ้พวกเหี้ย "ริสาไปนั่งรอในห้องนั้นก่อนมั้ย ห้องพี่เอง ไปพักในห้องนั้นก่อนสิ" ริสาพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นอินโทรเวิร์ดล่ะมั้ง ก็เลยไม่ชอบความวุ่นวายเท่าไร คงเป็นทางออกที่ดีถ้าเธอจะไปอยู่ในห้องนั้นมากกว่านั่งให้พวกนี้สอบสวน "ไอ้พวกเหี้ย จะไปถามจี้น้องเขาทำไมวะ" "ถามน้องเขาอะไร กูถามแต่มึงนะ อุ้ย! อย่าจับ กูหวงของกู!" ผมล่ะเกลียดพวกมันจริงๆ "แล้วยังไงต่อวะ ไม่ทำตามแผนแล้ว?" "มันก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่มันก็รอเวลาก่อนป่าววะ อีกอย่างล่าสุดน้องเขาพึ่งฝันไม่ดีเกี่ยวกับกูด้วย เดี๋ยวจะดูมีพิรุธเกินไป" ผมพูดพร้อมกับหันไปมองประตูที่ริสาพึ่งเดินเข้าไปเมื่อกี้ สารภาพตามตรงว่า ตอนแรกที่คิดจะทำแผนนี้ ผมไม่ได้คิดว่า จะต้องมีความรู้สึกเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวเลย ไอ้ความรู้สึกห่วงๆ หน่วงๆ ในใจเรื่องของเธอนี้มันคืออะไรกันนะ "ฝันว่าไรวะ มึงตาย?" "ปากหมาไอ้สัส เขาฝันว่า กูทิ้งเขาไป แล้วเขาก็ร้องไห้หนักมาก หนักจนน้ำตาท่วมหน้าไปหมดเลยตอนตื่น กูก็เลยตกใจอ่ะ" "แล้วตกลงไอ้ที่มึงหลอกเขามันยังไงวะ?" ไอ้นิวแซวขึ้นมาอีก เมื่อเห็นริสาไม่อยู่แล้ว "หลอกอะไร กูไม่ได้หลอก" ผมตอบกลับไป น้ำเสียงฟังดูแน่วแน่ แต่ก็รู้สึกขัดแย้งในใจตัวเองเหมือนกัน "เอาจริงดิ? แบบว่า ตกลงตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วใช่ปะ ตอนแรกคิดจะยึดตระกูลเขา ตอนนี้ดันไปหลงรักน้องเขาซะเอง" "มึงพูดอะไรของมึงวะ ไม่มีหรอก กูแค่ทำตามแผน" "เออ แล้วทำไมมึงดูห่วงเขาขนาดนั้นล่ะ จะบอกว่าไม่ได้รักน้องเขาจริง ๆ?" ไอ้โซจูพูดแหย่ ยิ่งทำให้ผมไม่สบอารมณ์ "ก็... อย่างที่บอก กูทำตามแผนแค่นั้นแหละ" ผมรีบปฏิเสธ ทั้งที่ในใจมันรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทุกครั้งที่เห็นริสาอยู่ใกล้ผม ทำให้ผมคิดว่า...หรือบางทีการยึดครองตระกูลนั้นอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดแล้ว ความรู้สึกของผมที่เปลี่ยนไปนี้มันยากที่จะอธิบาย แต่ยิ่งผมอยู่ใกล้เธอ ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มและความน่ารักของเธอ ผมก็ยิ่งรู้สึกอยากปกป้อง ไม่อยากให้เธอเสียใจแม้แต่นิดเดียว "เอาเหอะ กูว่าไม่เนียนหรอกไอ้ภู ดูสายตามึงเวลามองน้องเขาแล้วมันฟ้องไปหมด" ไอ้ธันวาที่ยืนเงียบมาตลอดพูดขึ้นมา สร้างความเงียบชั่วครู่ในห้อง ก่อนที่เสียงหัวเราะของพวกมันจะดังขึ้นมาอีกครั้ง "พูดอะไรของมึงวะธัน ก็แค่แผนงาน กูต้องทำเพื่อตระกูลของกู" ผมตอบกลับพยายามไม่ให้เสียงสั่น แต่ใจกลับคิดไม่เหมือนเดิม พวกมันพยักหน้าพร้อมทำหน้ากวนๆ เหมือนเดิม พวกมันรู้ดีว่าผมกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่าง ผมหันไปมองประตูอีกครั้ง มองเข้าไปในห้องที่ริสานั่งอยู่... แล้วคิดในใจว่า หรือบางที...บางทีแผนนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของการยึดครองตระกูลเท่านั้น แต่คงกลับเป็นเรื่องของหัวใจที่ผมไม่อาจควบคุมได้หรือป่าวนะ "มึงอย่าให้มันเกินเลยไปกว่านี้ ถ้ายึดตระกูลได้แล้ว มึงก็ต้องปล่อยเธอไป ไม่งั้นมึงจะเจ็บเอง" ไอ้นิวพูดขึ้น แต่มันไม่รู้หรอกว่าคำพูดนั้นมันแทงใจผมขนาดไหน ใช่...ผมรู้ตัวดีว่าการปล่อยเธอไปเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่พร้อมที่จะทำแบบนั้นเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD