ตอนที่ 10
“เอาล่ะทุกสิ่งทุกอย่างผมขอรับผิดชอบเอง และขอเลื่อนการเดินทางเป็นวันอื่นหรือพรุ่งนี้จะดีไหมครับจนกว่าท่านจะได้รับข่าวดีเพราะผมเองก็ไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบหายไปแน่..ในเมื่อน้องสาวของภรรยาหายไปทั้งคน” เขาพยักหน้ากับความรับผิดชอบ
หากว่ากัณทิชายังมีสีหน้าหมิ่นต่อฆเนศวรเหมือนกับนางไม่เชื่อถือนักแต่ยังดีกว่าไม่มีอะไรเป็นหลักประกันใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับมุกล้อมอย่างนี้กันหนอ
คุณกัณทิชานั่งหมดอาลัยอยู่ตรงนั้นไม่อยากคิดและคาดเดาอีกแค่นี้ก็วุ่นวายใจพอสมควรอาการเครียดเพิ่มหนักจนเกือบจะเป็นลมจนศีตะลาต้องพยุงท่านขึ้นไปพักผ่อนบนบ้านก่อน..ท่านจึงยอมไป
“ขึ้นไปพักข้างบนบ้านก่อนเถอะค่ะคุณป้าเดี๋ยวตะลาจะประคอง”
ฆเนศวรยังคงวุ่นวายและพล่านในจิตกับการเดินสอบปากคำสอบสวนความเอากับลูกน้องที่ยังเหลือกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้เหมือนลูบคมจมูกของเขา
ศีตะลาแอบครุ่นคิดเวลานี้มุกล้อมจะเป็นอย่างไรบ้างนะใครจับตัวไปกันแน่? นึกห่วงญาติสาวเหมือนกัน แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน “คุณป้าอย่าลืมสิคะว่ากำแพงมีหูประตูมีช่องตราบใดที่คุณป้ายังไม่ออกจากเกาะแห่งนี้ก็ถือว่าเรายังทำงานไม่สำเร็จฉวยเกิดเจ้าของเกาะเขาทราบเรื่องล่ะว่าคุณป้าย้อมแมวขาย..แผนที่คุณป้ากับหนูช่วยกันคิดมันอาจจะพังทันทีเลยก็ได้” ศีตะลาเรียกท่านด้วยคำพูดที่เตือนสติดังนั้นกัณทิชาจึงครุ่นคิดได้แต่ก็ไม่วายเสียใจที่บุตรสาวหายตัวไปโดยปราศจากร่องรอยแบบนี้
“พวกเราคอยรับฟังข่าวจากนายฆเนศวรเถอะคุณ”
คุณกัณทิชาหันมาพยักหน้ารับกับสามีทั้งที่คำพูดแทบจะหลุดออกจากปากไม่มีเพราะนางรับไม่ได้นั่นคืออาการที่ช๊อคไปแล้วครั้งหนึ่ง
ส่วนคุณดาริกาที่เพิ่งขึ้นมาบนเรือนและทราบเรื่องเข้าก็ปลอบโยนนางกำลังจะกลับจันทบุรีเช่นกัน
“ใจเย็นก่อนเถอะคะคุณสักประเดี๋ยวลูกชายดิฉันกลับมา ตาเนคงจะบอกข่าวดีคิดว่าคงจะหลงป่ามั๊งคะเกาะนี้เกาะใหญ่พอสมควรแกคงไม่คุ้นเคย”
กัณทิชาได้แต่รับฟัง..ทั้งที่อยากจะเถียงมากกว่านั้นแต่สามีซึ่งเป็นฝ่ายสะกิดให้รู้ว่าเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยต้องยอมหยุดนิ่งแม้ข้างในจิตใจยังฮึดฮัดอยู่ก็ตาม..การที่บุตรสาวสุดสวาทหายตัวไปอย่างนี้เป็นเรื่องใหญ่ร้ายแรงเป็นอย่างแน่
“ค่ะตาเนคงจะขับรถออกไปแจ้งความ”
ดาริกาทำได้แค่ปลอบใจเท่านั้นทั้งๆที่ความรู้สึกของนางค่อนข้างจะหมั่นไส้อาคันตุกะจากเมืองกรุงที่ทำท่าเหมือนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อมีกิริยาท่าทางลนจนผิดสังเกตเหมือนสร้างความผิดอะไรไว้
แต่ดาริกาไม่ได้เอ่ยกล่าวว่าอะไรก่อนจะขอตัวลงไปที่ครัวเพื่อตระเตรียมอาหารเย็นของวันนี้ และรอฟังข่าวคราวจากลูกชาย
และก็ผ่านไปแล้วครึ่งวันเต็มๆไปด้วยความกระวนกระวายใจของศีตะลาอย่างมากที่สุดและแน่นอนล่ะทันทีที่ร่างสูงโปร่งปรากฎตัวขึ้นให้หล่อนเห็น หล่อนก็เล่นงานเขาด้วยคำพูดทันที
“นี่คุณเถื่อน.ช่วยตอบคำถามของฉันมาซิว่าทำไมยัยมุกล้อมน้องสาวของฉันหายตัวไปเฉยๆในเกาะของคุณแบบนี้ได้โดยที่ตามจับมือใครดมไม่ได้ด้วย ว่าใครเป็นคนร้ายหรือว่ามันเป็นแผนการของคุณด้วย”
แน่นอนล่ะเสียงของศีตะลาย่อมไม่เบาและต้องเข้มเข้นทีเดียว..น้ำเสียงของหล่อนเดือดจัดๆพอๆกับสีหน้าในยามนี้ศีตะลาก็วางตัวเองเป็นนางพญาได้เหมือนกัน
หากแล้วฝ่ายชายหนุ่มใบหน้าเข้มเจ้าของเกาะก็เบนใบหน้าค่อนข้างคมเข้มและหันจ้องมาที่สาวสวยพร้อมกับสะแยะยิ้ม
“เอคุณต้องการคำตอบแบบไหนล่ะเพราะว่าไอ้ที่ผมบอกว่ารับปากก็คือรับปากไว้แต่ว่าเรื่องที่ค้นหาแล้วไม่พบมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะผมก็สั่งลูกน้อง รวมทั้งตัวผมพลิกหาทั้งแผ่นดินเกาะนี้แล้วก็ยังไม่เจออีกใครจะไปรู้เล่าว่าน้องสาวของคุณอาจจะใจง่ายเหมือนคุณอีกคน” เขาเน้นเสียงเข้มใส่หล่อน
“พูดไปก็ได้ว่าเรื่องนี้มันคว้าน้ำเหลวผมช่วยพวกคุณได้แค่นี้ และไม่รู้สาเหตุส่วนคุณนั้นคิดจะว่าจะดุจะด่าผมยังไงก็เชิญสิ.. เพราะตำรวจผมก็แจ้งความให้แล้วมันเหมือนกรรมเวรตามซัดนั่นล่ะ ทั้งพี่ทั้งน้อง ดิ้นรนเสี่ยงเอาตัวเองเข้ามาในป่าในเกาะอย่างนี้เพราะอยากจะมีผัวไม่ใช่หรือคุณ ฮึแล้วผมก็ตอบคุณได้แค่นี้ล่ะ คุณสายน้ำ”
เขาแปลชื่อของหล่อนออก เพราะความหมายของศีตะลามันหมายถึงความเยือกเย็นของสายน้ำนั่นเอง..พ่อของหล่อนชื่ออรรณพความหมายแบบเดียวกัน..แต่คนอย่างหล่อนถ้าเลือกจะเป็นสายน้ำศีตะลาของเป็นสายน้ำเดือดที่จะได้ราดรดคนตรงหน้าให้ลวกลุกพองไหม้เป็นแผลเหวอะหวะไปเลย..อ้อนี่คิดจะมาท้าทายกับหล่อนหรือไง ดังนั้นหล่อนจึงปรี๊ดเข้มสุดเสียงเรียกไร้การยำเกรงทันที
“ไอ้นายเถื่อน..นายทำอย่างนี้ได้ยังไงบ้าที่สุดสวัสดิการของพ่อแม่ฉันแล้วก็น้องฉันล่ะไอ้คนทรยศไอ้คนจอมมายาวางแผนแกคิดจะวางแผนเอาน้องสาวฉันเป็นเหยื่ออีกคนหรือไง”
ศีตะลาต่อว่าเขาไม่ยั้งทันทีและพอปากหล่อนกราดออกมา ดวงตาก็ขุ่นวาววับพร้อมกับขบปากกัดฟัน และในทรวงนั้นสั่นสะท้านจนกำมือแน่น
หากว่าฝ่ายฆเนศวรหนุ่มเจ้าของเกาะตะลึงเล็กน้อยยืนจ้อง..แค่คำไม่กี่คำเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายไม่เบาท้าทายความรู้สึกดี เขาชอบนัก เพราะง่ายมันก็ไม่สนุกไม่มีรสชาติน่ะสิเพราะเขาต้องการผู้หญิงที่ทนมือทนตีนทนปากคำพูดของเขาได้หล่อนถึงจะอยู่ร่วมกับเขาได้เป็นเมียเถื่อน..ผู้หญิงที่เขาได้มาอย่างง่ายๆ..มันแทบจะไม่มีคุณค่าอะไรเลย อีกครั้งที่ฆเนศวรหยุดนิ่งยังสะแยะด้วยรอยยิ้มหยัน “ช่วยไม่ได้หรอกคุณ..แล้วจะให้ผมทำยังไงกันล่ะฮึลองย้อนกลับไปถามพ่อตาผมดูสิว่าจะให้ผมช่วยได้แค่ไหนคุณนายและมันเกินกว่าสิ่งที่เราตกลงกันไว้หรือเปล่าถ้าผมจะช่วยคือช่วยแต่ถ้าไม่ช่วยก็คือไม่ช่วย ขอให้รับทราบไว้เท่านี้นะอ้อคุณสายน้ำเชี่ยว”
หากเขายวนยั่วใส่หล่อนและหล่อนยังกอดอกมองด้วยสายตาหยันใส่เขาหล่อนจะแตกต่างอะไรกับเหยื่อในอุ้งมือของเขาที่หัวใจนั้นพล่านไปหมดเพื่อการดิ้นรนเอาตัวรอด