“บ้าเอ๊ย!” ผมสบถออกมาเมื่อเดินออกมาจากโซนโรงหนังก็มองไม่เห็นปลายฝนแล้ว แต่ในขณะที่ผมพยายามสอดสายตามองหาร่างบางอยู่นั้น ผมกลับเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปผมผ่านกระจกเงาในร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ข้างหน้าผม ผมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ก่อนจะคลายความสงสัยทั้งหมดเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคนเดียวที่ชอบทำแบบนี้ ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะโทรหาใครบางคน ใครบางคนที่เป็นเจ้าของคำสั่งนี้ ผมคิดว่ามันจบไปแล้วเสียอีก ตื๊ด ตื๊ด~ ติ๊ด! “ฮัลโหลวาโย คิดถึงย่าเหรอลูก” ผมนิ่งไปสักพักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของปลายสาย อารมณ์คุกรุ่นเมื่อสักครู่มันลดลงทันที “ย่าครับ ผมรู้ว่าย่ารู้ว่าผมโทรไปทำไม” ผมเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะที่สองฝ่าเท้าก็ก้าวขาเดินออกไปตามหาปลายฝนเช่นกัน “หือ?” ผมพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูก เพราะผมรู้ว่าย่ากำลังทำไขสือ ย่าของผมท่านเคยทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ