ดวงตากลมโตมองไปที่กล่องสุราที่บรรจุอยู่ในลังอย่างดีที่ถูกนำมาวางไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัวเธอ พุดมาลัยจำกล่องนั้นได้ดีเพราะเธอเข็นรถที่บรรจุลังนั้นมาเองกับมือก่อนจะยกลงเก็บที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์อย่างทุลักทุเล แกมสงสัยไปด้วยว่าทำไมทศพลถึงให้นำมาเก็บที่นี่
พุดมาลัยโมโหตัวเองที่ปากหนักไม่ยอมถามทศพลว่าทำไมต้องให้เธอยกมาด้วย แต่เพราะมองโลกในแง่ดีไปหน่อยว่าคงไม่มีอะไร ผลเลยเป็นเช่นนี้
“เธอคงต้องไปแก้ตัวกับตำรวจแล้วล่ะ”
“ไม่นะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็อธิบายมาสิว่าเธอยกลังสุรานั่นมาทำไม”
“พี่ทศสั่งโบว์ไงคะ” พุดมาลัยยืนยันแล้วเห็นอาการนิ่งเงียบของชาลิสาก็ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อที่เธอพูด ยิ่งมองไปที่ทศพลก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าเธอแพ้คนเลวทรามตรงหน้า
“โบว์ยืนยันได้นะคะว่าพี่ทศสั่งให้โบว์ยกมา พี่สาเชื่อโบว์นะคะ”
ชาลิสาถอนใจ “เห็นทีครั้งนี้พี่คงต้องตัดสินไปตามหลักฐาน อย่าหาว่าพี่ใจดำเลย เธอไปเอาใบลาออกมาเขียนเถอะ พี่ไม่อยากให้เธอเสียประวัติว่าถูกไล่ออก” ชาลิสาบอกอย่างตัดใจ
พุดมาลัยเข่าอ่อน มองหัวหน้างานด้วยความผิดหวัง แต่ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น มือบางเช็ดน้ำตาที่รื้นขึ้นออกเร็วๆ
“ถ้าพี่สาตัดสินโบว์แบบนั้น โบว์ก็จะลาออกค่ะ” บอกอย่างแน่วแน่แล้วพุดมาลัยก็หมุนตัวกลับออกไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอก็พร้อมจะต่อสู้ แม้ไม่มีงานแต่เธอก็จะไม่ยอมให้ตัวเองถูกข้อหายักยอกเด็ดขาดเธอจะยืนยันกับตำรวจ
มือเรียวกำลังผลักประตูออกไป ทว่าประตูบานเดียวกันก็ถูกผลักเข้ามาก่อน พุดมาลัยหลบได้ทัน แล้วต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาคือคนที่เธอพยายามปัดให้ออกจากความคิดมาตลอด
เฟอนันเดสมาพร้อมกับบอดี้การ์ดหน้านิ่งคนเดิม แล้วห้องทั้งห้องที่เงียบกริบเมื่อครู่ก็ดังขึ้นด้วยเสียงทรงอำนาจของเขา เฟอนันเดส เมเนอสัน
“มีเรื่องยักยอกเกิดขึ้นในแผนกสุราทำไมไม่มีใครรายงานให้ผมรู้ ผมมาที่นี่เพื่อตรวจงานดังนั้นเรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นภายในศูนย์การค้าแห่งนี้ผมต้องรู้”
คำถามนี้ทำให้ทุกคนก้มหน้างุด ชาลิสาอึกอัก บุ้ยใบ้ให้ทศพลเป็นฝ่ายพูด
“ว่าไงผมถาม”
“เอ่อ ใช่ครับ” เป็นทศพลที่พูดขึ้นเสียงอึกอัก “พวกเราคิดว่าจะรายงานให้ท่านประธานทราบอย่างแน่นอนครับ แต่เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนเลยยังไม่มีใครเรียนให้ท่านทราบ ตอนนี้พวกเรากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ครับ”
สายตาคมปลาบยังทอประกายเข้ม ทศพลกลัวลนลานแต่ฝืนบังคับน้ำเสียงให้ปกติก่อนจะพูดต่อ
“เอ่อ พนักงานแคชเชียร์คนนั้นครับที่เป็นคนยักยอกสุราในคลังสินค้าไปเก็บไว้ เรากำลังส่งตัวเธอไปให้ตำรวจสอบสวน”
พุดมาลัยรับรู้ได้ว่าทุกสายตาหันมาจับจ้องเธอเป็นตาเดียว อาการเย็นวาบแผ่ไปทั้งร่าง ทั้งโกรธทั้งอับอายอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ขาแข้งอ่อนไปหมดแต่ศักดิ์ศรีที่มีอยู่ก็ทำให้เธอทรงตัวไว้ได้แล้วเชิดหน้าตอบ
“ฉันไม่ได้ขโมยค่ะ ฉันทำตามคำสั่งของคุณทศพล”
แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดให้เฟอนันเดสได้ตัดสิน เขาให้ทั้งหมดไปที่ห้องทำงานเขา
“ตอนนี้เราแก้ไขปัญหาโดยการให้พุดมาลัยลาออกไปก่อนค่ะ ก่อนจะให้ตำรวจสอบสวนต่อไป” ชาลิสารีบอธิบาย รู้สึกตัวเล็กลีบเมื่ออยู่ต่อหน้าเฟอนันเดส
“ผมไม่คิดว่าขโมยที่ไหนจะงี่เง่ามากถึงขนาดเอาของที่ขโมยไปวางในที่จะมีคนไปพบเจอได้ง่าย ผมว่าคุณทศพลลองทบทวนดูดีไหมว่าคุณสั่งยังไง คุณพุดมาลัยถึงนำไปเก็บที่นั่น”
น้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ทำให้ขนคอของทศพลเย็นเฉียบกับความเท่าทันของเจ้านายที่อยู่บนหิ้งและเขาไม่สามารถไปแตะต้องได้อย่างเฟอนันเดส สายตาของคนที่นั่งหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่คมปลาบเหมือนใบมีดและก็เหมือนจะรู้ทุกอย่างจนเขาไม่กล้าจะโกหก
“เอ่อ...คือ จริงของท่านประธาน พุดมาลัยอาจจะฟังผิดก็ได้ครับ” ทศพลบอกแบบนั้นเลยทำให้ชาลิสาหน้าเหวอ ทำปากขมุบขมิบบริภาษอีกฝ่ายที่พลิกลิ้นเร็ว เอาตัวรอดไปฝ่ายเดียว
“แหม คุณทศพลทำให้สาเกือบเสียลูกน้องดีๆไปแล้วเชียว ตกลงมันยังไงกันแน่” ชาลิสาชิงพูดขึ้นบ้าง “ตกลงคุณทศพลสั่งให้นำลังสุราพวกนั้นไปเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์ใช่ไหมโบว์”
พุดมาลัยงุนงงแต่ก็พยักหน้ารับ ฝ่ายทศพลได้ยินดังนั้นก็ขึงตาใส่ชาลิสาที่เอาตัวรอดเร็วเช่นกัน
“น่าจะใช่ครับ ผมสั่งเธอเอง”
เฟอนันเดสกระตุกยิ้ม เขาไม่เชื่อว่าพุดมาลัยจะขโมยของแล้วนำไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ เธอน่าจะถูกทศพลกลั่นแกล้งจากเรื่องที่ไม่ยอมตามใจอีกฝ่ายตามภาพที่เขาเห็นในกล้องวงจรปิด อีกอย่างถ้าพุดมาลัยต้องการเงินจริงๆ เรื่องที่เขายื่นข้อเสนอให้มาเป็นคู่นอนเธอก็น่าจะรีบคว้าไว้ เพราะเธอย่อมรู้ว่าเขาจะบันดาลอะไรให้เธอได้บ้างถ้าทำให้เขาพอใจ นอกจากจะได้เงินก้อนโต ยังอาจโชคดีมีหน้าที่การงานดีกว่านั่งเป็นแคชเชียร์ คงไม่โง่ขนาดเลือกเป็นขโมยมากกว่าการเลือกมาเป็นผู้หญิงของเขา แต่เธอก็งี่เง่าอยู่ดีที่ไม่เลือกเขา เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ เฟอนันเดสเก็บความสงสัยเปลี่ยนเป็นการถอดถอนใจแทน พุดมาลัยไม่รับข้อเสนอที่เขายัดใส่มือให้ แถมยังมาทำงานตามปกติ มาให้เขาเห็นหน้าทุกวันแต่ทำอะไรไม่ได้ ทำให้เขายิ่งเห็นก็ยิ่งอยากได้
ดังนั้นถ้าอยากได้เธอเขาจึงต้องคิดหาวิธีการต้อนเธอให้มาเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ เหมือนสุภาษิตไทยที่กล่าวว่าให้อดเปรี้ยวไว้กินหวาน คนอย่างพุดมาลัยใช้วิธีบังคับไม่ได้ เขาต้องทำให้เธอใจอ่อนยอมปรนเปรอเขาด้วยความเต็มใจของเธอเอง วันนั้นเขาจะทำให้เธอครางอยู่ใต้ร่างและพร่ำเพ้อเรียกชื่อเฟอนันเดสไม่หยุดปาก
เฟอนันเดสกลับมาสู่บทสนทนาปัจจุบันละจากความคิดสุดเอ็กซคลูซีฟบนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาราบเรียบทั้งที่เพิ่งคิดถึงความเร่าร้อนที่จะเกิดขึ้นระหว่างเขากับพุดมาลัย เมื่อเห็นโอกาสที่จะทำให้พุดมาลัยมาเป็นนางบำเรอได้
“ตกลงว่าคุณทศพลสั่งให้คุณพุดมาลัยนำไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ใช่ไหม”
ทศพลหน้าซีด กลัวอีกฝ่ายจนลนลานยอมรับ “ผมอาจจะบอกผิดครับ เป็นความผิดผมเอง”
“ดีมากที่ยอมรับ ถ้าเป็นแค่การเข้าใจผิด ผมไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นการยักยอกจริงผมรับรองว่าเรื่องถึงตำรวจอย่างไม่มีการปรานีกันแน่นอน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย” เฟอนันเดสเอ่ยเสียงเข้มพาให้ทุกคนรีบหลบสายตา
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนรีบรับคำแล้วเฟอนันเดสก็ให้กลับไปทำงานตามเดิม พุดมาลัยเดินออกไปหลังสุด แล้วไปหยุดละล้าละลังที่ประตูห้องทำงานก่อนจะหันกลับมา
“ขอบคุณมากนะคะที่ให้ความยุติธรรมกับฉัน” พุดมาลัยพูดออกไปได้ในที่สุด ไม่คิดว่าเขาจะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย ทั้งๆ ที่เจ้าชายจอมวายร้ายคนนี้เพิ่งยื่นข้อเสนออันโหดร้ายชวนให้เธอไปเป็นคู่นอนของเขาก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนร้ายหรือคนดีกันแน่