บทที่ 5

1220 Words
หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินขึ้นเรือนใหญ่ไปพร้อมกับถาดอาหารเช้าของคู่รักที่ตอนนี้กำลังนั่งรออยู่ที่ห้องอาหารพร้อมด้วยผู้เป็นย่า ที่ได้แต่หันมาส่งยิ้มอ่อนโยนให้เมื่อพบหน้าคนที่รออยู่            “คุณท่านเรียกหาพุดเหรอคะ” หญิงสาวเริ่มต้นจัดแจงเสริฟอาหารเช้าในมือให้ชาญกับคนรักของเขาก่อนจะหันไปสอบถามคุณพิศเพลาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หันไปมองภาพนั้น เพราะรู้ดีว่ามันยิ่งทำให้ตัวเองต้องเจ็บ อะไรที่มองแล้วทำให้ต้องเจ็บก็ไม่ควรหันไปมอง     นั่นคือสิ่งที่เฝ้าบอกตัวเองอยู่ทุกครั้ง            “วันนี้ไหนๆ หล่อนก็ว่างทั้งวัน ช่วยไปรับเสื้อที่ฉันฝากไปตัดให้ทีสิแม่พุด” คนถูกถามเอ่ยขอความช่วยเหลือในเรื่องที่มักจะรบกวนหญิงสาวอยู่บ่อยๆ  จะมีก็แต่แม่พุดกรองคนนี้ที่รู้ใจนางทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องไหน            “ได้ค่ะคุณท่าน”  พุดกรองรับคำพร้อมรอยยิ้ม รู้สึกโล่งอกไม่น้อยที่ถูกคุณหญิงพิศเพลาใช้ให้ออกไปนอกไร่ในวันนี้ เพราะเธอจะได้ไม่ต้องทนอยู่สู้หน้าคนใจร้ายที่จ้องแต่จะคอยหาเรื่อง  ซึ่งเธอก็เชื่อว่าเขาทำมันแน่หากมีโอกาส เพราะเขาชอบทำมันทุกทีที่ท่านเผลอ            “แล้วนั่นปากหล่อนไปโดนอะไรมา ทำไมมันถึงได้บวมช้ำเลือดเอาแบบนั้น เมื่อคืนฉันไม่ยักเห็น” คนถูกถามสะดุ้งขึ้นก่อนจะปรายตาไปยังคนเริ่มเรื่องอย่างลืมตัว  ยิ่งเห็นเขายิ้ม ยิ่งทำให้รู้ว่าเขาจงใจแกล้งกัน            “ถูกมดกัดค่ะคุณท่าน” คำโกหกถูกเอ่ยขึ้น ใครเลยจะกล้าบอกความจริงถึงที่มาของความบวมช้ำเจ้าปัญหาที่มันทำให้เธอต้องพูดโกหก            “แล้วไป นึกว่าไปถูกใครเขารังแกเข้าอีก ไปหายาทาเสียด้วย จริงสิ! ไหนๆ เราสองคนก็กำลังจะพากันเข้าเมืองกันอยู่แล้ว ย่าฝากแม่พุดติดรถไปด้วยคนสิ” คุณพิศเพลาเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้            “คงไม่ได้หรอกครับคุณย่า รถของผมราคาแพง คงไม่เหมาะถ้าจะให้คนใช้ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าขึ้นไปนั่งตีเสมอ!” ซึ่งชาญก็ตอบกลับแทบจะทันทีไม่อยากหอบเอาคนที่ตนเองไม่ชอบหน้าไปให้เกะกะสายตา            “อย่าใจร้ายแบบนี้สิคะชาญ ก็แค่ให้เธอติดรถไปกับพวกเราด้วยเท่านั้น ไปด้วยกันเถอะนะพุดกรอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะคุณย่า เดี๋ยวจัสมินกับชาญจะส่งพุดให้ถึงหน้าตลาดเลยค่ะ” เป็นจัสมินที่เอ่ยขึ้นขัดคนรัก เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้จงเกลียดจงชังเด็กพุดกรองคนนี้นักทั้งๆ ที่ดูๆ ไปแล้วเด็กคนนี้ก็ไม่เห็นจะทำตัวร้ายกาจให้ใครต้องมาเกลียดขี้หน้าเอาตรงไหน ออกจะดูซื่อๆ กลัวคนด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ            “ขอบใจนะหนูจัสมิน อย่างน้อยๆ หนูก็มีน้ำใจมากกว่าหลานชายของย่า ไปเตรียมตัวเถอะแม่พุด อย่าให้คุณๆ เขาต้องรอนาน” พุดกรองพยักหน้ารับอย่างคนไม่มีทางเลือก ทั้งๆ ที่ใจอยากปฏิเสธแต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวคนอื่นๆ   จะสงสัยว่าทำไมเธอถึงต้องปฏิเสธน้ำใจของคนทั้งคู่            การเดินทางออกจากไร่พร้อมกับชาญและคนรักของเขาเป็นไปอย่างเงียบงันจนน่าอึดอัด พุดกรองไม่ได้พูดแทรกยามที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน จะมีตอบบ้างหากจัสมินหันมาถามด้วยเรื่องทั่วไปซึ่งทุกครั้งก็ได้รับสายตาดุดันของอีกคนมาเป็นของแถม เหมือนเขาไม่อยากให้เธอพูดคุยกับคนรักของเขาสักเท่าไหร่ ซึ่งหากเขาสังเกตสักนิดจะรู้ว่าทุกครั้งที่คุยกันจะเป็นคนรักของเขาที่เป็นฝ่ายชวนเธอคุยก่อน ขณะที่เธอก็ได้แต่นั่งเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่คิดจะทำตัวสูงใหญ่เกินใครเพราะรู้จุดยืนของตัวเอง จนเมื่อจู่ๆ รถที่แล่นมาด้วยความเร็วก็ถูกเบรกอย่างกะทันหันหญิงสาวถึงได้เงยหน้าขึ้นสบตาคนใจร้าย ที่กำลังมองมาที่เธออยู่เช่นกัน            “ลงไป!” ชาญไม่มีคำอธิบายอะไรที่มากไปกว่าการเอ่ยปากไล่ให้อีกคนลงไปจากรถเสียที   เพราะเขาไม่ต้องการมีเธอร่วมเดินทางไปด้วย            “ชาญ…ไม่เอาสิคะ อย่าทำแบบนี้ คุณรับปากคุณย่าเอาไว้แล้วนะคะ” จัสมินปามคนรักเสียงแข็ง เริ่มรู้สึกว่าครั้งนี้แฟนหนุ่มของตนเล่นแรงไปหน่อย ถ้าย่าเขารู้จะคิดยังไงกับเรื่องนี้ อีกอย่างเธอรับปากท่านไว้ว่าจะส่งพุดกรองให้ถึงที่     หากต้องกลายมาเป็นคนผิดคำพูดคงไม่ดีแน่            “ฉันสั่งให้ลงไปไม่ได้ยินรึไง”  ครั้งนี้คนถูกไล่ไม่นั่งทนเป็นตัวปัญหาอีกต่อไป เธอรีบพาตัวเองลงจากรถด้วยท่าทีปกติ แม้จะไม่รู้เลยว่าที่ที่เขาจอดทิ้งกันอยู่ขณะนี้นั้นมันเป็นที่ไหน แต่คงดีกว่าทนนั่งฟังพูดดูถูกดูแคลน            ไม่นานรถคันหรูของชาญก็แล่นจากไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนโดดเดี่ยวอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคยเพียงลำพัง… ทางด้านชาญก็ไมได้แสดงท่าทีสะทกสะท้านใดๆ กับการกระทำเมื่อครู่ของตัวเอง จะมีก็แต่อีกคนที่จ้องมองเขาเหมือนจะตำหนิกันตรงๆ ไม่เห็นด้วยเลยสักนิด กับสิ่งที่เขาเพิ่งกระทำลงไปเด็กคนนั้นจะกลับยังไง            “อะไร! ก็ผมบอกคุณแล้วว่าไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นมากับเรา คุณกับย่านั่นแหละที่คิดอะไรอยู่ ถึงได้ให้ท้ายผู้หญิงคนนั้นกันนัก!” ชาญให้เหตุผลเสียงแข็ง  ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องทำดีกับลูกของคนทรยศสักนิด            “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรปฏิเสธคุณย่าให้เด็ดขาดไปตั้งแต่แรกนะคะ ไม่น่าต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย คุณใจร้ายมากเลยนะคะชาญรู้ตัวรึเปล่า” หญิงสาวตอบโต้ก่อนจะเมินหน้าหนี เธอชักเริ่มไม่สนุกกับเกมบ้าๆ ที่เขาขอร้องอ้อนวอนให้ช่วยนี้เสียแล้วสิ อีกอย่างเรื่องของเด็กพุดกรองนั่นก็ด้วย  ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ตั้งแง่กับหล่อนนัก  เด็กนั่นทำอะไรผิด            เท่าที่เธอทราบมาเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะพ่อของพุดกรอง เจ้าตัวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลยสักนิดแต่กลับต้องมาถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจร เธอคิดไม่ออกเลยว่าเด็กคนนั้นต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องมาแบกรับคําสบประมาทของใครต่อใครแบบนั้น  ถ้าเป็นเธอคงทนไม่ได้แน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD