ตอนที่ 15 หาทางรอด

1681 Words
กล่าวขอบคุณชายหนุ่มผู้นั้นเสร็จ สายตาของชายชราก็มองเห็นขอชราทานเมื่อครู่กำลังถูกบุรุษหนุ่ม 3-4 คนรุมล้อมค้นตัวและแย่งชิงเศษเงินที่เก็บซ่อนไว้จากเขา ซ้ำยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งเตะไปที่ต้นขาของชายชราแรงๆ อีกทีหนึ่งก่อนจะเดินจากไปทิ้งร่างชราให้ค่อยๆ พยุงตัวกลับขึ้นมานั่งขอทานตามเดิมพร้อมกับก่นด่าไล่หลังชายหนุ่มกลุ่มนั้นไป คล้ายว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่เขาพบเจอเป็นประจำ "หลงเอ๋อร์รีบตามปู่มาทางนี้เร็วเข้า" ชายชราดึงร่างเล็กให้ถอยออกมาจากบริเวณนั้นทันที เวลานี้เขาคาดเดาว่าหากตัวเขาและหลานขายตัดสินใจนั่งลงขอเศษเงินเพื่อเอามาซื้อน้ำดื่ม อาจตกเป็นเป้าของอันธพาลไปแล้วก็ได้ สองปู่หลานพากันเดินไปยังบริเวณตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านและมีทหารยืนเวรยามอยู่ ด้วยหวังว่าต่อหน้าผู้คนมากมายคงจะไม่มีคนร้ายที่คิดอุกอาจทำร้ายร่างกายหรือแย่งชิงข้าวของต่อหน้าทหาร หลี่หยุนเห็นตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ลับตาคนหน่อย ก็รีบหันหลังเข้ากำแพงยัดก้อนทอง 1 เม็ดที่แกะออกมาจากฟันกลับไปซ่อนไว้ในปากตามเดิม เมื่ออยู่ในบริเวณสถานที่ปลอดภัยเขาก็พาหลี่หลงหยางนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใกล้ร้านขายเต้าหู้ที่มีสองสามีภรรยาเป็นเจ้าของ "ท่านปู่ข้าหิว" หลี่หลงหยางเอามือป้องปากแอบกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของชายชราด้วยความเขินอาย "ปู่ขอโทษนะหลงเอ๋อร์ที่ทำตามที่พูดไม่ได้ เวลานี้เรายังเอาเงินและทองออกมาใช้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีคนมาแย่งชิงเงินของเราไป อดทนอีกนิดปู่จะคิดหาวิธีให้" หลี่หยุนล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อหยิบผักปาสองต้นมากำเอาไว้ แต่แล้วก็ต้องเก็บกลับไปอย่างเดิมเพราะเวลานี้เขาไม่สามารถก่อไฟตั้งน้ำมาปรุงผักให้สุกได้ ผักสองต้นนี้เป็นเสบียงอาหารชุดสุดท้ายที่สองปู่หลานเหลืออยู่ ก่อนหน้านี้หลี่หยุนเอาแต่วาดฝันจะนำทองในปากมาขายแลกเงินได้มากมายมาใช้จ่าย จึงไม่ได้เตรียมการเรื่องอาหารไว้ล่วงหน้า ชายชรารู้สึกเสียใจที่ทำให้หลานชายต้องผิดหวัง แต่แล้วโชคก็เข้าข้างหลี่หยุนอีกครั้ง "ท่านลุง สามีข้าทำซาลาเปาลูกนี้เปียกน้ำ พวกเราไม่กินแล้วท่านเอาไปเถิด" ภรรยาเจ้าของร้านเต้าหู้เดินมายังสองปู่หลานที่นั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ นางเห็นว่าเด็กเอามือลูบคลำท้องคล้ายคนกำลังหิว นางจึงหยิบซาลาเปาที่คิดว่าจะทิ้งมันไปเสีย เดินมายื่นให้ชายชราเพราะเข้าใจว่าสองปู่หลานเป็นขอทานที่เข้ามาอยู่ใหม่ "ขอบพระคุณเถ้าแก่เนี้ย ขอบคุณ" หลี่หยุนเห็นว่าซาลาเปาที่รับมานั้นยังสะอาดมีร่องรอยเปียกน้ำเพียงด้านล่างเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งหลานชายก็กำลังหิวเขาจึงไม่คิดมาก กล่าวขอบคุณหญิงวัยกลางคนแล้วรีบส่งต่อให้หลี่หลงหยางทันที "ท่านปู่กินก่อนเถิดขอรับ" เด็กชายแม้จะหิวโหย แต่เขาก็รู้ว่าท่านปู่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเช่นเดียวกัน "ไม่ล่ะ เจ้ากินซาลาเปา เดี๋ยวข้าจะกินผักสดสองต้นนั้นเอง เจ้ายังเป็นเด็กเคี้ยวผักสดๆ ไม่ไหวหรอก" หลี่หยุนตัดสินพร้อมกับหยิบผักป่าสองต้นเมื่อครู่ออกมาอีกครั้ง "ท่านปู่ ฟันท่านเหลือเพียงไม่กี่ซี่แล้วนะขอรับ ข้าว่าเอาผักป่าให้ข้ากินเองจะดีกว่า" เด็กชายทำตาใสแป๋วจ้องมองท่านปู่ของเขาอย่างไม่ยินยอม "เอาล่ะๆ เดี๋ยวปู่กินคำหนึ่งก็แล้วกัน ที่เหลือเจ้าต้องกินให้หมดนะนี่เป็นคำสั่ง" หลี่หยุนแสร้งดุ ยกซาลาเปาลูกมากัดไปคำหนึ่งแล้วส่งคืนให้หลานชาย คราวนี้หลี่หลงหยางไม่ได้อิดออดอีกต่อไป เขาอ้าปากคำใหญ่กัดกินซาลาเปาแล้วก็ทำตาโตตกอกตกใจ "ท่านปู่ ซาลาเปาในเมืองหย่งโจวไม่เหมือนซาลาเปาที่ข้าเคยกินในค่ายเลยขอรับ มันอร่อยมาก!! ท่านปู่ท่านลองกินอีกคำดีหรือไม่" เด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมท่านปู่กินซาลาเปาไปคำหนึ่งแล้ว เขากลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าตนเองทั้งๆ ที่ซาลาเปาลูกนี้อร่อยเหลือเกิน จึงพยายามคะยั้นคะยอให้ชายชราได้ลิ้มลองมันอีกครั้ง "อร่อยก็กินให้หมด ปู่อิ่มแล้ว" หลี่หยุนลูบศีรษะหลี่หลงหยางแผ่วเบา รู้สึกสงสารบรรพบุรุษน้อยของตนเองสุดกำลัง ในค่ายกักกันมีเพียงซาลาเปาที่ทำจากแป้งสาลีบดหยาบและไม่มีไส้ เนื้อซาลาเปาที่นึ่งออกมาก็จะมีเนื้อหยาบและสีน้ำตาลอ่อนๆ เวลากินก็จะรู้สึกแข็งกระด้างไม่ลื่นคอ ส่วนซาลาเปาที่หลี่หลงหยางกำลังกินด้วยความเอร็ดอร่อยอยู่นี้เป็นซาลาเปาที่ทำจากแป้งสาลีขาวที่มีราคาสูงกว่า แม้ว่าจะเป็นไส้ผักแต่เด็กน้อยที่ไม่เคยลิ้มลองอาหารดีๆ ก็ยังทำกับว่ามันเป็นอาหารอันโอชะ ชายชราพยายามใช้หัวคิดอย่างหนัก ว่าตนจะอยู่รอดในเมืองหย่งโจวที่ห่างไกลแร้นแค้นนี้ได้อย่างไรในเมื่อทองก็ไม่สามารถนำออกมาขายได้ พวกเขาไม่เหลือเสบียงอาหารไม่มีกระทั่งน้ำดื่ม สุดท้ายชายชราก็ต้องร่ำไห้ออกมาและยินยอมต่อโชคชะตา เขาจำต้องพาหลี่หลงหยางเดินย้อนกลับไปหาบุรุษหนุ่มพ่อค้าวัว เพื่อขอให้ตนเองและหลานชายได้อาศัยหลับนอนบนกองฟางใกล้คอกสัตว์ และขอน้ำดื่มจากพวกเขา หลี่หยุนและหลี่หลงหยางตื่นแต่เช้าเดินออกจากคอกสัตว์เพื่อของานทำ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีผู้ใดรับชายชราสูงวัยตัวผอมแห้งเอาไว้ทำงานเลยสักแห่ง "หลงเอ๋อร์ปู่จำต้องขออาหารจากผู้อื่นเพื่อให้เราสองคนมีชีวิตอยู่รอด แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องน่าอัปยศแต่ชีวิตเจ้ามีคุณค่ามากกว่านั้น บางครั้งคนเราอาจจะต้องทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบใจแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเราก็ต้องทำ เราสองคนพยายามหางานทำกันสุดความสามารถแล้วในเมื่อไม่มีเงินไม่มีอาหารปู่จึงต้องยอมขออาหารจากผู้อื่น เจ้าไม่ต้องเอ่ยปากขอร้องผู้ใดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปู่เอง" หลี่หยุนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน จะขอทานเป็นตัวอย่างให้บรรพบุรุษน้อยเห็นก็เกรงว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี จะไม่ขอก็ไม่มีกิน เขาจึงต้องรับหน้าที่นี้เอาไว้เพียงผู้เดียวไม่ยอมให้หลานชายต้องเสียเกียรติ ในที่สุดหลี่หยุนก็ได้รับอาหารจากชาวบ้านที่สงสารเด็กน้อยมากกว่าชายชราขอทานที่เห็นพบเห็นอยู่ทั่วทุกหัวถนนในเมืองหย่งโจว หลี่หยุนจะเลือกเอาแต่อาหารที่สะอาดและดีที่สุดให้กับหลี่หลงหยางได้กินก่อนส่วนตนก็จะกินส่วนที่เหลือ บางวันอาหารที่ขอมาก็ได้น้อยนิดจนชายชราก็ยอมอดเพื่อให้หลานชายได้กินอิ่ม แต่ตลอด 5 วันที่ผ่านไปเช่นนี้เขาไม่ยอมรับเศษเงินจากผู้ใดเลยสักคน ขอเพียงอาหารที่ผู้คนพอจะแบ่งปันมาให้ได้เท่านั้น และเมื่อกินอิ่มก็จะหยุดขอและออกหางานทำอย่างพากเพียร แม้ว่าท่านยมบาลจะให้พรเรื่องความแข็งแรงและมอบอายุขัยที่ไม่สิ้นสุดจนกว่าตนเองจะแก้ไขอดีตได้สำเร็จมาแล้ว แต่ชายชราก็ยังรู้สึกหิวกระหายเหมือนคนปกติ แต่หลี่หยุนรู้ดีว่าหากตนอดทนต่อความหิวและความเหนื่อยล้าได้จนถึงค่ำคืน วันรุ่งขึ้นความแข็งแรงก็จะกลับมาพร้อมกับอาการหิวโหยจนวิงเวียนก็จะหายไปด้วย เขาจึงส่งอาหารดีๆ ทั้งหมดให้กับบรรพบุรุษน้อย สองปู่หลานเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากอย่างอดทน โดยที่เด็กน้อยก็เริ่มที่จะเข้าใจโลกภายนอกมากยิ่งขึ้นและยังรู้ดีว่าท่านปู่ของเขาเสียสละเพื่อตนมากเพียงใด มีเพียงหลี่จิ้งที่ร่ำร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาด้วยความสงสารสองปู่หลานอยู่ลำพังโดยที่หลี่หยุนก็ยังคงเห็นเพียงใบหน้าสงบนิ่งของสหายดังเดิม "ขอทานเฒ่า เหตุใดเจ้าจึงได้โง่งมเช่นนี้ ทำไมไม่รู้จักขอเศษเงินจากผู้คนเล่า เจ้ารู้จักหรือไม่เงินน่ะ" อันธพาลหนุ่มคอยแอบดูหลี่หยุนมาหลายวันแล้ว เห็นแต่ผู้เฒ่าชราร้องขออาหารเพียงอย่างเดียว มีบางครั้งที่ชาวบ้านส่งเงินให้เขาก็ไม่ยอมรับ กลุ่มของพวกเขาจึงรู้สึกโกรธที่ตนหาประโยชน์จากสองปู่หลานคู่นี้ไม่ได้เลยสักครั้ง "พ่อหนุ่ม หากเราขอเงินเราก็ต้องนำไปซื้ออาหารอยู่ดีมิใช่หรือ ข้าขอเพียงให้มีอาหารให้หลานชายได้กินอิ่มท้องไปทุกวันก็พอแล้ว เงินทองข้าไม่ต้องการ พวกเจ้าอย่ามายุ่งกับเราสองคนเลย" หลี่หยุนก้มศีรษะขอร้องอันธพาลกลุ่มนั้นหงึกๆ "เจ้าก็รู้นี่ว่าเงินใช้ซื้ออาหารได้ หากวันใดไม่มีคนมอบอาหารให้พวกเจ้าเล่าเจ้าจะกินอะไร จากนี้ข้าบอกไว้ก่อนเลยเจ้าต้องขอเศษเหรียญเงินเท่านั้น พวกเราจะมาตรวจสอบทุกวันหากเจ้าไม่ได้เงินเป็นต้องเห็นดีกันแน่" ชายหนุ่มข่มขู่ทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD