“หกเดือนเองค่ะนายผู้หญิง”
“เรียกหนูดีก็ได้นะ อย่าเรียกนายเลย...หกเดือนเองหรือ กว่าจะเก้าเดือนจะไม่ใหญ่จนเดินไม่ได้หรือเนี่ย”
“ฉันก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ พี่เษมแกก็ห่วงเหมือนนายผู้หญิงเลยค่ะ”
“แล้วในนี้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายน้อ” อรนลินถามเย้ายิ้ม ๆ อย่างผูกมิตร
“ผู้ชายค่ะ” ว่าที่คุณแม่ตอบอย่างภูมิใจ
“...กว่าจะท้องนี่ยากไหม”
“แหม...นายคะ ไอ้จะว่ายากมันก็ไม่ยากหรอกนา แต่มันก็ไม่ได้ง่าย ๆ”
สรุปว่ายังไงเนี่ย อรนลินหน้ายุ่ง ถามต่อไปว่า “แล้วทำยังไงถึงจะได้ผู้ชาย”
“นายมาพอดีเลยจ้ะ”
จุติเดินออกมาจากฟาร์มเลี้ยง มุ่งหน้าไปอีกทาง ถ้าไม่เพราะเห็นเธอก่อน เขาคงเดินเลยไปแล้ว
แล้วเปลี่ยนจุดหมายเดินตรงมาที่เธอที่นั่งอยู่กับหญิงท้องโต
“มาทำอะไร” เขาถามราบเรียบติดเฉยเมย
“คุณไม่กลับบ้าน พี่จิลลาเลยให้เอาข้าวมาให้ค่ะ”
จุติชะเง้อคอไปมองนาฬิกาแขวนในฟาร์มเลี้ยง เห็นว่าใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที เลยบอกขึ้นด้วยท่าทีเฉกเช่นเดิม
“อยู่กินด้วยกันสิ”
“คะ?”
“กินข้าวด้วยกัน จะได้หิ้วกลับไปด้วยเลย”
เขาบอกจบ หันไปคุยกับคนงาน แล้วเดินนำเธอเข้าไปด้านใน ตรงไปยังห้องห้องหนึ่งที่มีโต๊ะวางอยู่ตรงกลาง หน้าต่างมีรอบทั้งสี่ด้าน จุติเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แล้วถึงเปิดพัดลมโกรก ค่อยเดินไปล้างมือที่อ่างใกล้ ๆ ตรงนั้น ถามทั้งที่ยังหันหลังล้างมืออยู่
“มีอะไรกินบ้าง”
อรนลินมองแผ่นหลังของเขาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ดึงเอากล่องออกมาจากถุงทีละใบ เปิดฝาออก ตอบเขาไปว่า “มียำปลาสลิดค่ะ ต้มข่าไก่ ผัดคะแหนงน้ำมันหอย แล้วก็...อะไรเนี่ย” อรนลินเขย่ากล่องที่เปิดฝาแล้วแต่มองไม่ออก ก้มลงไปมองใกล้ พอได้กลิ่นก็บอกเขาไป “กระเทียมโทนดองมั้งคะ”
บอกจบก็เงยหน้าขึ้นมา เห็นเขายืนจ้องเธออยู่ พลันประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
“มีแต่ของโด๊ปทั้งนั้นเลยนี่นา”
คราวนี้ใบหน้าของเธอซับสีเลือดเพิ่มมากขึ้น ทำเป็นเมินไปทางอื่น ถามเขาเสียงแข็ง กลบเกลื่อนอาการประหม่าที่ชักจะมากขึ้นทุกขณะ
“จะกินเลยไหมคะ จะได้ตักข้าว”
“เอาสิ” จุติเช็ดมือ บอกยิ้ม ๆ ก่อนเสริมว่า “นี่ถ้าไม่มีข้าวมาส่ง ผมคิดว่าไงรู้ไหม...คิดว่าคุณมาตามผมให้กลับเสียอีก”
“ฉันจะมาตามคุณกลับบ้านทำไมกันคะ” อรนลินถาม มือไม้ยังสาละวนกับการจัดข้าวของบนโต๊ะ
“ก็เพราะ...วันนี้มันครบสามวันพอดีน่ะสิ”
พอเขาตอบออกมา เธอก็ชะงักมือที่กำลังตักข้าวในทันที เบ้ปาก ร้องตอบไปว่า
“อี๋...อีตาบ้า!”
อรนลินไม่เคยรู้สึกทั้งโกรธแล้วก็อับอายได้เท่าครั้งนี้มาก่อน นี่เขาคิดว่าเธอหอบของมาให้ เพราะอยากมาตามให้เขากลับบ้านอย่างนั้นหรือ บ้าชะมัด
แต่พอนึกถึงคำพูดของจิลลา อารมณ์โกรธก็ค่อยคลายลง ถามเขาไปว่า
“พี่จิลลาคงยังไม่ได้บอกคุณสินะคะ”
“บอกอะไร” จุติตักข้าวเข้าปากเคี้ยวแล้วถึงถาม
อรนลินค่อยรู้สึกดีขึ้นมาอีกหน่อยราวกับผู้กำชัย ใบหน้าสวยใสเชิดขึ้นน้อยๆก่อนบอก “พี่จิลลาบอกว่าไม่ให้เรายุ่งกันภายในสามเดือนต่อจากนี้”
“จะบ้าเรอะ” เป็นจุติที่ร้องถามเสียงสูง ใบหน้าหล่อคม ที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นเป็นตอรอบปากดูดุดันขึ้นในทันที “ ‘คุณ’ หรือ ‘พี่จิลลา’ พูด เอาให้แน่สิ”
“ไปถามกันเอาเองเถอะค่ะ”
“นี่อยากให้ผมกลับบ้านจนต้องกุเรื่องมาหลอกกันเลยหรือ”
“แล้วแต่จะคิดเลยค่ะ”
“หึ ไม่ต้องคิดแผนซับซ้อนขนาดนั้นหรอกน่า ยังไงวันนี้ผมก็ต้องกลับ เพราะเรามีนัดทำลูกด้วยกัน”
“บ้า!”
เอะอะ เอะอะ ก็พูดแต่เรื่องทำลูก
จุติหัวเราะถูกใจแล้วตักอาหารใส่จานให้เธอ สั่งเสียงกลั้วหัวเราะไปด้วย “กินให้มันเยอะ ๆ หน่อย ตัวแค่นี้จะไปรับแรงผมไหวได้ยังไง ผมก็ไม่ชอบนอนกับเด็กเหมือนกัน”
“เลิกพูดจาลามกกับฉันได้แล้ว”
“ก็ได้” จุติบอกยิ้ม ๆ “ผมก็ขี้เกียจพูดมากเหมือนกัน ชอบทำมากกว่า”
อรนลินอ้าปากค้าง แล้วก้มหน้ากินข้าวไม่พูดกับเขาอีก เกลียดนักเชียว คอยดูเถอะ กลับบ้านจะได้รู้กัน ว่าใครเป็นต่อล่ะงานนี้
หลังมื้อกลางวัน อรนลินตั้งใจจะกลับบ้านกับแมน แต่จุติไล่ให้แมนกลับไปก่อน แล้วบอกให้เธออยู่รอกลับพร้อมเขาตอนเย็น
“โอ้โห เดี๋ยวนี้มีมานั่งเฝ้าด้วยอะ”
อรนลินหันไปมองคนพูดก็เจอเข้ากับหัสนัยที่ส่งเสียงทักดังมาก่อนตัวเสียอีก
“พี่เทน หนูดีไม่ได้มาเฝ้าค่ะ พี่จิลลาให้เอาข้าวมาให้คุณติ เลยอยู่กินด้วยกันก็เท่านั้นเอง”
“อ๋อ แบบนี้เองหรือ” คำพูดลากยาวอย่างล้อเลียนไม่พอ สายตาของหัสนัยที่ส่งมาให้ ตอกย้ำการล้อเลียน จนเธอชักจะเขินขึ้นมาแล้วสิ เลยกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง ด้วยการถามหัสนัยกลับไปบ้าง
“พี่เทนมาทำอะไรที่นี่คะ”
“แวะมาดูคนงานหน่อย พี่ขอคนงานไอ้ติมัน ป่านนี้แล้วมันยังไม่ส่งให้พี่สักคนเลย”
“แล้วเย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันอีกไหมคะ”
“ก็อยากไปนะ แต่กลัวจิลลาโกรธ” ใบหน้าที่มีแววทะเล้นเป็นนิจหมองและเหงาหงอยลงในทันที
เธอกับหัสนัยนั้นจะเรียกว่าสนิทก็สนิทกันมากโขอยู่ หัสนัยเคยบอกว่าเธอเป็นร่างอวตารของเขาในเพศหญิง อรนลินเห็นท่าทางของรุ่นพี่เป็นแบบนั้นแล้วก็ชักอยากรู้เรื่องไม่ลงรอยระหว่างหัสนัยและจิลลาขึ้นมาอีกครั้ง เลยกระแซะถามออกไป
“ทะเลาะอะไรกันหรือคะ”
หัสนัยถอนหายใจอยู่ครู่ เป็นนานทีเดียว จนคนถามนึกว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่าเสียแล้ว แต่จู่ ๆ หัสนัยก็เอ่ยขึ้น “เมื่อตอนวันสิ้นปีปีที่แล้ว มีจัดงานเลี้ยงกัน พี่กับจิลลาก็ไปงานนี้ด้วย แต่จิลลาขอกลับบ้านก่อน พี่จะกลับด้วย แต่เขาคงอยากให้พี่สนุกกับเพื่อนต่อ เลยบอกให้พี่อยู่ต่อ วันนั้นพี่ก็มึน ๆ จะว่าเมาก็เมานั่นแหละ จนกระทั่ง…”
ที่แท้ก็ทิ้งลายไม่ลง อรนลินนึกเคืองแทนจิลลา ถามอย่างพอเดาเรื่องราวจากนั้นได้แล้ว “พี่เทนก็เลยไปนอนกับสาวอื่นหรือคะ”