บทที่ 11.

1416 Words
นายหัวเถื่อน 25+ บทที่ 11. เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่หทัยชนกนั่งๆนอนๆอยู่แต่ในห้องเพราะขาข้างที่เจ็บยังไม่หายดี ทุกๆวันเด็กสาวที่ชื่อกระต่ายจะเอาข้าวเอาน้ำมาให้เธอกินครบทั้งสามมื้อ หลังจากนั้นกระต่ายก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งวันจนถึงเวลาเข้านอน กระต่ายเป็นเด็กสาวที่น่ารัก คุยเก่ง หทัยชนกจึงเข้ากับกระต่ายได้ไม่ยาก ทำให้เธอไม่รู้สึกเบื่อเวลาที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน แต่ในขณะเดียวกัน หทัยชนกก็ไม่เคยเห็นหน้าคนที่พาเธอมาที่เกาะนี้อีกเลยตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวันหนึ่ง เช้านี้หทัยชนกตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น ร่างบางที่วันนี้เดินเหินได้คล่องกว่าทุกวันออกมานั่งรับลมที่ระเบียงพร้อมกับสูดอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มปอด เรือนใหญ่ที่เธออาศัยหลับนอนมาทั้งอาทิตย์ตั้งอยู่บนเนินสูง ตรงระเบียงที่เธอออกมานั่งเล่นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วทั้งเกาะ แล้วสายตาของหทัยชนกก็ไปสะดุดกับเรือลำหนึ่งที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่า ความสงสัยยิ่งมีมากขึ้นเมื่อเห็นชาวบ้านพากันเดินไปที่เรือลำนั้นไม่ขาดสาย "ข้าวเช้ามาแล้วจ้า นายหญิง" เสียงเล็กๆของกระต่ายดังขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กบอบบางจะเดินขึ้นบันไดมา กระต่ายเอาปินโตข้าวไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วแกะออกมาวางทีละชั้นจนหมด หทัยชนกหันกลับมามองร่างเล็กของเด็กสาวแล้วต้องถอนหายใจยืดยาวครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เพราะเธอนับครั้งแทบไม่ถ้วน เรื่องที่กระต่ายชอบเรียกเธอว่านายหญิง ฟังแล้วแปร่งๆหูชอบกล บอกไม่ให้เรียกแบบนี้ก็ไม่ฟัง จนเธออ่อนอกอ่อนใจ "กระต่าย ฉันถามอะไรหน่อยสิ?" "นายหญิงจะถามอะไรกระต่ายเหรอจ๊ะ" กระต่ายหันไปถาม เธอมองหทัยชนกที่เดินมาทางระเบียงด้วยแววตาสงสัย "ฉันเห็นชาวบ้านพากันเดินไปทางสะพานไม้ เขาไปไหนกันเหรอ" จบคำถามกระต่ายก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปชะเง้อมองตามที่หทัยชนกบอกทันที ก่อนที่ริมฝีปากบางจะระบายยิ้มออกมา "อ๋อ...วันนี้มีเรือเข้ามาขายของน่ะจ้ะ ทุกอาทิตย์จะมีเรือเอาของมาขาย พวกเสื้อผ้ากับของใช้ไงจ๊ะ" คำตอบของกระต่ายทำให้แววตาของหทัยชนกเป็นประกายขึ้นมาทันที 'เสื้อผ้ากับของใช้อย่างนั้นเหรอ?' หทัยชนกคิดในใจพร้อมกับก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ชุดที่เธอใส่อยู่มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวหลวมโคร่งของเจ้าของเกาะกับผ้าถุงที่กระต่ายหามาให้แค่สองผืนเท่านั้น เธอใส่มันผลัดเปลี่ยนทุกวันและตอนนี้เธอก็อยากได้เพิ่ม โดยเฉพาะชุดชั้นใน และของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง "นายหญิงอยากไปซื้อของไหมจ๊ะ?" กระต่ายเอ่ยถาม และหทัยชนกก็รีบพยักหน้าทันที "จ้ะ ฉันอยากได้ของใช้ส่วนตัวสักสองสามอย่างน่ะ" "งั้น...เดี๋ยวถ้ากินข้าวเสร็จแล้วกระต่ายพาไปจ้ะ" หทัยชนกยิ้มกว้างออกมาทันที แต่รอยยิ้มบนใบหน้าหวานก็ค่อยๆเลือนหายไปเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่มีเงิน "ฉันว่า...ไม่เป็นไรดีกว่าจ้ะ" "ทำไมล่ะจ๊ะ วันนี้นายหญิงก็เดินได้คล่องกว่าเมื่อวานแล้วนี่นา ไปเถอะจ้ะ ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างดีกว่า" กระต่ายพูดคะยั้นคะยอ เพราะเธอเองก็อยากไปเดินดูของสวยงามๆที่คนนอกเกาะเขาใช้ด้วยเหมือนกัน "คือ...ฉันไม่มีเงินน่ะกระต่าย'' หทัยชนกตัดสินใจพูดออกไป ตอนหนีมาเธอลืมหยิบเงินมาด้วยเพราะคิดแต่อยากจะหนีไปให้พ้นๆจากที่นั่นให้เร็วที่สุด แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว "โธ่...นึกว่าอะไร เดี๋ยวกระต่ายไปขอที่นายหัวรามให้จ้ะ นายหญิงกินข้าวรอเลยจ้ะ กระต่ายไปแป๊บเดียว เดี๋ยวมา" แล้วร่างบอบบางก็ทำท่าจะผลุนผลันลงจากเรือนทันที แต่ติดตรงที่มือบางของหทัยชนกคว้าข้อมือเล็กๆไว้ได้ทัน "ไม่...ไม่ต้อง" เสียงหวานร้องห้ามพร้อมๆกับที่สายตาของหทัยชนกสะดุดกับของสิ่งหนึ่งที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย มันคือแหวนแต่งงานที่นายประวิทย์สวมมันให้เธอในพิธีช่วงเช้านั่นเอง รอยยิ้มหวานค่อยๆปรากฏขึ้นมาอีกครั้งอย่างดีใจ ถ้าขายแหวนวงนี้ล่ะก็ เธอจะมีเงินซื้อเส่้อผ้า ซื้อของใช้ได้หลายอย่าง เผลอๆเธออาจจะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นด้วยก็ได้ หัยชนกคิดในใจ "ทำไมล่ะจ๊ะนายหญิง?" กระต่ายถามอย่างไม่เข้าใจหญิงสาวตรงหน้า นายหัวรามมอบหน้าที่ให้เธอดูแลหทัยชนกให้ดีที่สุด สั่งนักสั่งหนาว่าถ้าต้องการหรืออยากได้อะไรก็ให้หามาให้ หรือถ้าหาไม่ได้ก็ให้ไปบอกเขา เขาจะจัดการให้เอง แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่ต้องการซะอย่างนั้น.... 'แล้วกระต่ายควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?' กระต่ายคิดในใจอย่างนึกเซ็ง "ที่ฉันบอกว่าไม่ต้อง เพราะฉันมีอย่างอื่นที่ใช้แทนเงินได้น่ะสิ ไม่ต้องไปรบกวนนายหัวรามของกระต่ายหรอก" หทัยชนกบอกพร้อมกับหมุนแหวนที่นิ้วเล่นไปมาอย่างสมใจกับสิ่งที่คิด ร่างบางก็นั่งลงกินข้าวจนหมดและช่วยกระต่ายเก็บปิ่นโตเข้าชั้นเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็พากันลงจากเรือนและตรงไปที่ท่าเรือทันที พอไปถึงท่าเรือร่างบางก็ตรงไปยังเพิงที่สร้างขึ้นชั่วคราวเอาไว้สำหรับตั้งขายด้วยความตื่นเต้น หทัยชนกเดินแหวกชาวบ้านเข้าไปไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง แต่ชาวบ้านทุกคนก็รู้กันทั่วว่าเธอคือผู้หญิงที่มากับนายหัวรามเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว "ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ" เสียงหวานเอ่ยขอโทษตลอดพร้อมกับส่งยิ้มหวานๆให้กับทุกคน ทำให้ชาวบ้านที่กำลังมุงซื้อของไม่ถือโทษโกรธเคืองร่างบางแต่อย่างใด แถมบางคนยังเอ่ยทักทายหทัยชนกเหมือนรู้จักคุ้นเคยอีกต่างหาก "มาซื้อของเหรอคุณ?" "ค่ะ...พอดีอยากได้เสื้อผ้ากับของใช้น่ะค่ะ" หทัยชนกตอบกลับอย่างมีสัมมาคาระวะเพราะคนที่พูดกับเธอดูแล้วน่าจะอายุมากกว่า "แล้วนี่มากับใครล่ะ นายหัวรามพามาเรอะ?" "เปล่าค่ะ หทัยมากับกระต่าย" พูดจบร่างเล็กๆของกระต่ายก็เดินแหวกชาวบ้านเข้ามาพอดี หทัยชนกจึงขอตัวเลือกซื้อของที่ตัวเองอยากได้ทันที "กระต่ายว่าชุดนี้เป็นยังไง" หทัยชนกหันไปถามความเห็นจากเด็กสาวที่กำลังยืนเลือกสร้อยคออยู่ "โหว...สวยจ้ะนายหญิง" กระต่ายร้องชมจากใจเพราะชุดที่หทัยชนกเลือกมามันสวยจริงๆและสวยมากในสายตาของเธอ "งั้นเอาชุดนี้ด้วยละกันเนอะ" หทัยชนกบอกแล้วหันไปเลือกเสื้อผ้าใส่สบายๆอีกสามสี่ชุด ตามด้วยชุดชั้นในอีกเจ็ดชุด ผ้าขนหนู และที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือผ้าอนามัย ทุกอิริยาบทของหทัยชนกตกอยู่ในสายตาของคนถึงสามคนด้วยกัน คนหนึ่งมองด้วยสายตาอบอุ่นและอ่อนโยน ส่วนอีกสองคนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาที่อัดแน่นอยู่ภายในอก "ดู๊! ดูมันสิคะคุณแม่ ดูมันระริกระรี้วางท่าเป็นผู้ดีมีเงิน แขกว่ามันต้องออดอ้อนขอเงินนายหัวมาแน่ๆเลยค่ะคุณแม่ขา" "กูเห็นแล้ว มึงตามกูมานี่" "ทราบค่ะคุณแม่" พูดจบรำพึงก็ปรี่เข้าไปหาหทัยชนกทันที โดยมีแขกลูกไล่ขอบเธอคอยแหวกทางจากชาวบ้านที่มาซื้อของให้ "เอ้าๆ! หลบสิหลบ แหกตามองสิว่าใครมา" .....................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD