นายหัวเถื่อน 25+
บทที่ 11.
เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่หทัยชนกนั่งๆนอนๆอยู่แต่ในห้องเพราะขาข้างที่เจ็บยังไม่หายดี ทุกๆวันเด็กสาวที่ชื่อกระต่ายจะเอาข้าวเอาน้ำมาให้เธอกินครบทั้งสามมื้อ หลังจากนั้นกระต่ายก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งวันจนถึงเวลาเข้านอน
กระต่ายเป็นเด็กสาวที่น่ารัก คุยเก่ง หทัยชนกจึงเข้ากับกระต่ายได้ไม่ยาก ทำให้เธอไม่รู้สึกเบื่อเวลาที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน
แต่ในขณะเดียวกัน หทัยชนกก็ไม่เคยเห็นหน้าคนที่พาเธอมาที่เกาะนี้อีกเลยตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวันหนึ่ง
เช้านี้หทัยชนกตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น ร่างบางที่วันนี้เดินเหินได้คล่องกว่าทุกวันออกมานั่งรับลมที่ระเบียงพร้อมกับสูดอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มปอด
เรือนใหญ่ที่เธออาศัยหลับนอนมาทั้งอาทิตย์ตั้งอยู่บนเนินสูง ตรงระเบียงที่เธอออกมานั่งเล่นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วทั้งเกาะ แล้วสายตาของหทัยชนกก็ไปสะดุดกับเรือลำหนึ่งที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่า ความสงสัยยิ่งมีมากขึ้นเมื่อเห็นชาวบ้านพากันเดินไปที่เรือลำนั้นไม่ขาดสาย
"ข้าวเช้ามาแล้วจ้า นายหญิง"
เสียงเล็กๆของกระต่ายดังขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กบอบบางจะเดินขึ้นบันไดมา กระต่ายเอาปินโตข้าวไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วแกะออกมาวางทีละชั้นจนหมด
หทัยชนกหันกลับมามองร่างเล็กของเด็กสาวแล้วต้องถอนหายใจยืดยาวครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เพราะเธอนับครั้งแทบไม่ถ้วน เรื่องที่กระต่ายชอบเรียกเธอว่านายหญิง ฟังแล้วแปร่งๆหูชอบกล บอกไม่ให้เรียกแบบนี้ก็ไม่ฟัง จนเธออ่อนอกอ่อนใจ
"กระต่าย ฉันถามอะไรหน่อยสิ?"
"นายหญิงจะถามอะไรกระต่ายเหรอจ๊ะ"
กระต่ายหันไปถาม เธอมองหทัยชนกที่เดินมาทางระเบียงด้วยแววตาสงสัย
"ฉันเห็นชาวบ้านพากันเดินไปทางสะพานไม้ เขาไปไหนกันเหรอ"
จบคำถามกระต่ายก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปชะเง้อมองตามที่หทัยชนกบอกทันที ก่อนที่ริมฝีปากบางจะระบายยิ้มออกมา
"อ๋อ...วันนี้มีเรือเข้ามาขายของน่ะจ้ะ ทุกอาทิตย์จะมีเรือเอาของมาขาย พวกเสื้อผ้ากับของใช้ไงจ๊ะ"
คำตอบของกระต่ายทำให้แววตาของหทัยชนกเป็นประกายขึ้นมาทันที
'เสื้อผ้ากับของใช้อย่างนั้นเหรอ?'
หทัยชนกคิดในใจพร้อมกับก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ชุดที่เธอใส่อยู่มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวหลวมโคร่งของเจ้าของเกาะกับผ้าถุงที่กระต่ายหามาให้แค่สองผืนเท่านั้น เธอใส่มันผลัดเปลี่ยนทุกวันและตอนนี้เธอก็อยากได้เพิ่ม โดยเฉพาะชุดชั้นใน และของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง
"นายหญิงอยากไปซื้อของไหมจ๊ะ?"
กระต่ายเอ่ยถาม และหทัยชนกก็รีบพยักหน้าทันที
"จ้ะ ฉันอยากได้ของใช้ส่วนตัวสักสองสามอย่างน่ะ"
"งั้น...เดี๋ยวถ้ากินข้าวเสร็จแล้วกระต่ายพาไปจ้ะ"
หทัยชนกยิ้มกว้างออกมาทันที แต่รอยยิ้มบนใบหน้าหวานก็ค่อยๆเลือนหายไปเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่มีเงิน
"ฉันว่า...ไม่เป็นไรดีกว่าจ้ะ"
"ทำไมล่ะจ๊ะ วันนี้นายหญิงก็เดินได้คล่องกว่าเมื่อวานแล้วนี่นา ไปเถอะจ้ะ ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างดีกว่า"
กระต่ายพูดคะยั้นคะยอ เพราะเธอเองก็อยากไปเดินดูของสวยงามๆที่คนนอกเกาะเขาใช้ด้วยเหมือนกัน
"คือ...ฉันไม่มีเงินน่ะกระต่าย''
หทัยชนกตัดสินใจพูดออกไป ตอนหนีมาเธอลืมหยิบเงินมาด้วยเพราะคิดแต่อยากจะหนีไปให้พ้นๆจากที่นั่นให้เร็วที่สุด แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว
"โธ่...นึกว่าอะไร เดี๋ยวกระต่ายไปขอที่นายหัวรามให้จ้ะ นายหญิงกินข้าวรอเลยจ้ะ กระต่ายไปแป๊บเดียว เดี๋ยวมา"
แล้วร่างบอบบางก็ทำท่าจะผลุนผลันลงจากเรือนทันที แต่ติดตรงที่มือบางของหทัยชนกคว้าข้อมือเล็กๆไว้ได้ทัน
"ไม่...ไม่ต้อง"
เสียงหวานร้องห้ามพร้อมๆกับที่สายตาของหทัยชนกสะดุดกับของสิ่งหนึ่งที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย
มันคือแหวนแต่งงานที่นายประวิทย์สวมมันให้เธอในพิธีช่วงเช้านั่นเอง รอยยิ้มหวานค่อยๆปรากฏขึ้นมาอีกครั้งอย่างดีใจ
ถ้าขายแหวนวงนี้ล่ะก็ เธอจะมีเงินซื้อเส่้อผ้า ซื้อของใช้ได้หลายอย่าง เผลอๆเธออาจจะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นด้วยก็ได้ หัยชนกคิดในใจ
"ทำไมล่ะจ๊ะนายหญิง?"
กระต่ายถามอย่างไม่เข้าใจหญิงสาวตรงหน้า
นายหัวรามมอบหน้าที่ให้เธอดูแลหทัยชนกให้ดีที่สุด สั่งนักสั่งหนาว่าถ้าต้องการหรืออยากได้อะไรก็ให้หามาให้ หรือถ้าหาไม่ได้ก็ให้ไปบอกเขา เขาจะจัดการให้เอง แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่ต้องการซะอย่างนั้น....
'แล้วกระต่ายควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?' กระต่ายคิดในใจอย่างนึกเซ็ง
"ที่ฉันบอกว่าไม่ต้อง เพราะฉันมีอย่างอื่นที่ใช้แทนเงินได้น่ะสิ ไม่ต้องไปรบกวนนายหัวรามของกระต่ายหรอก"
หทัยชนกบอกพร้อมกับหมุนแหวนที่นิ้วเล่นไปมาอย่างสมใจกับสิ่งที่คิด ร่างบางก็นั่งลงกินข้าวจนหมดและช่วยกระต่ายเก็บปิ่นโตเข้าชั้นเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็พากันลงจากเรือนและตรงไปที่ท่าเรือทันที
พอไปถึงท่าเรือร่างบางก็ตรงไปยังเพิงที่สร้างขึ้นชั่วคราวเอาไว้สำหรับตั้งขายด้วยความตื่นเต้น หทัยชนกเดินแหวกชาวบ้านเข้าไปไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง แต่ชาวบ้านทุกคนก็รู้กันทั่วว่าเธอคือผู้หญิงที่มากับนายหัวรามเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
"ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ"
เสียงหวานเอ่ยขอโทษตลอดพร้อมกับส่งยิ้มหวานๆให้กับทุกคน ทำให้ชาวบ้านที่กำลังมุงซื้อของไม่ถือโทษโกรธเคืองร่างบางแต่อย่างใด แถมบางคนยังเอ่ยทักทายหทัยชนกเหมือนรู้จักคุ้นเคยอีกต่างหาก
"มาซื้อของเหรอคุณ?"
"ค่ะ...พอดีอยากได้เสื้อผ้ากับของใช้น่ะค่ะ"
หทัยชนกตอบกลับอย่างมีสัมมาคาระวะเพราะคนที่พูดกับเธอดูแล้วน่าจะอายุมากกว่า
"แล้วนี่มากับใครล่ะ นายหัวรามพามาเรอะ?"
"เปล่าค่ะ หทัยมากับกระต่าย"
พูดจบร่างเล็กๆของกระต่ายก็เดินแหวกชาวบ้านเข้ามาพอดี หทัยชนกจึงขอตัวเลือกซื้อของที่ตัวเองอยากได้ทันที
"กระต่ายว่าชุดนี้เป็นยังไง"
หทัยชนกหันไปถามความเห็นจากเด็กสาวที่กำลังยืนเลือกสร้อยคออยู่
"โหว...สวยจ้ะนายหญิง"
กระต่ายร้องชมจากใจเพราะชุดที่หทัยชนกเลือกมามันสวยจริงๆและสวยมากในสายตาของเธอ
"งั้นเอาชุดนี้ด้วยละกันเนอะ"
หทัยชนกบอกแล้วหันไปเลือกเสื้อผ้าใส่สบายๆอีกสามสี่ชุด ตามด้วยชุดชั้นในอีกเจ็ดชุด ผ้าขนหนู และที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือผ้าอนามัย
ทุกอิริยาบทของหทัยชนกตกอยู่ในสายตาของคนถึงสามคนด้วยกัน คนหนึ่งมองด้วยสายตาอบอุ่นและอ่อนโยน ส่วนอีกสองคนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาที่อัดแน่นอยู่ภายในอก
"ดู๊! ดูมันสิคะคุณแม่ ดูมันระริกระรี้วางท่าเป็นผู้ดีมีเงิน แขกว่ามันต้องออดอ้อนขอเงินนายหัวมาแน่ๆเลยค่ะคุณแม่ขา"
"กูเห็นแล้ว มึงตามกูมานี่"
"ทราบค่ะคุณแม่"
พูดจบรำพึงก็ปรี่เข้าไปหาหทัยชนกทันที โดยมีแขกลูกไล่ขอบเธอคอยแหวกทางจากชาวบ้านที่มาซื้อของให้
"เอ้าๆ! หลบสิหลบ แหกตามองสิว่าใครมา"
.....................