ปริมระตา
งานแต่งที่ถูกจัดขึ้นอย่างสวยงามสไตล์ไทยๆ ถูกจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวของฉัน เพื่อสะดวกกับการทำพิธีทุกอย่างที่เดียวครบไม่ต้องเดินทาง พร้อมกับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเป็นสักขีพยานรักของเรากันมากพอสมควร ตอนนี้ก็ดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ
“พ่อขอให้ลูกทั้งสองครองคู่กันจนแก่เฒ่า หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” พ่อของพี่คิมหันต์อวยพรออกมา
“แม่ขอให้ลูกมีความสุข ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีกันทั้งสองคนนะลูก” แม่พี่คิมหันต์อวยพรต่อ
“หนักนิดเบ่าหน่อยก็ยกโทษให้ลูกแม่ด้วยนะคิม เราเป็นเมียต้องทำตัวดีอย่าดื้อหรืออยากเอาชนะกันรู้ไหมลูก” แม่ของฉันอวยพรเป็นคนสุดท้าย ก่อนฉันกับพี่คิมหันต์จะก้มกราบเท้าพ่อแม่ของเขาและฉัน แล้วพวกท่านก็ออกไปเมื่อถึงเวลา
“พี่คิมจะอาบน้ำก่อนปริมไหมคะ” ฉันถามออกไป นี่คงเป็นบทสนทนาแรกของฉันกับพี่คิมหันต์ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เลยก็ว่าได้
และร่างสูงก็ไม่ตอบฉันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉันมาก แต่ที่ฉันยอมทำแบบนี้เหตุผลหนึ่งเพราะว่าฉันยังรักเขามาก และฉันต้องการอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังให้ได้ ถ้าถึงวันนั้นเขายอมเชื่อฉัน แต่ไม่สามารถรักฉันได้เหมือนเดิม ฉันก็พร้อมจะถอยเอง
ส่วนถามว่าทำไมการอธิบายเรื่องนี้ฉันต้องยอมแต่งงานกับเขาตามคำขอของแม่เขา ก็เพราะว่าถ้าเราสองคนยังเป็นแค่แฟนเก่ากัน ฉันกับเขาไม่มีโอกาสเจอกันเลย ต่อให้เจอกันเขาก็เห็นฉันเป็นเพียงอากาศธาตุที่พร้อมจะเดินผ่านไปอย่างไม่แยแสเหมือนคนไม่รู้จักกัน ต่อให้ฉันตามเขาไป เขาก็ไม่หันมาสนใจอะไรฉันเลย
“พี่คิมจะไปไหนคะ” ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ พี่คิมหันต์ก็เดินออกจากห้องน้ำและแต่งตัวเหมือนกับจะออกไปข้างนอก ฉันเลยถามออกไป
“เรื่องของฉัน” ร่างสูงตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าฉัน และเสียงก็แข็งมากด้วย
“แต่วันนี้วันส่งตัว โบราณเขาถือ ไม่ให้ออกไปข้างนอกจนกว่าจะเช้านะคะ” ฉันพูดออกไป เพราะผู้ใหญ่ก็บอกแล้วว่าอย่าออกจากห้องหรือออกจากบ้านจนกว่าจะเช้า
“ทำไม ถ้าออกแล้วจะทำไม” พี่คิมหันต์หันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงและสายตาที่แข็งเหมือนเดิม
“ก็มันจะไม่เป็นมงคลไงคะ” ฉันบอกเขาออกไป
“หึ มันไม่เป็นมงคลตั้งแต่ที่ฉันต้องแต่งงานกับเธอแล้ว แล้วที่สำคัญ ยิ่งมันไม่มงคลยิ่งดี ฉันอยากจะเลิกกับเธอมันตอนนี้พรุ่งนี้ไปเลยด้วยซ้ำ” พี่คิมหันต์ตอบฉันออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจฉัน ซึ่งคนที่ยังรักอยู่มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นคนเจ็บ
“วันนี้พี่คิมนอนที่นี่ดีกว่านะคะ อย่าพึ่งออกไปข้างนอกเลย ปริมขอวันหนึ่ง” ฉันขอเขาออกไป อย่างน้อยก็ขอวันหนึ่งก็ยังดี เพื่อให้เป็นศิริมงคงแก่เราก็ยังดี
“ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอขอ” พี่คิมหันต์พูดขึ้นด้วยสีหน้า
“ปริมไม่มีความสำคัญอะไรที่จะบอกว่าเพราะอะไร แต่ปริมขอวันหนึ่งได้ไหมคะ” ฉันขอร้องพี่คิมหันต์ออกไป อย่างน้อยฉันกับเขาก็เคยเป็นแฟนกัน ฉันรู้จักนิสัยเขาดี ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเขาจะเปลี่ยนไปบ้าง(เปลี่ยนทุกอย่างกับฉัน) แต่ฉันเชื่อว่าลึกๆของเขายังคงเป็นเขาเหมือนเดิม
พี่คิมหันต์มองหน้าฉันนิ่งๆ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยอมเดินไปถอดเสื้อเพื่อเปลี่ยนเป็นเสื้อนอนคืน พอฉันเห็นแบบนั้นฉันก็สบายใจขึ้น เลยเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย กว่ายี่สิบนาทีที่ฉันอาบน้ำจนเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อแต่งตัว แต่เท้าก็ต้องชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน