บทที่ 4 เด็กสาวดวงซวย
ยามนี้หนิงซือซือกำลังนั่งอ่านตำราอย่างเบื่อหน่าย ระยะนี้คนในจวนค่อนข้างจับตาทุกการกระทำของนาง ทำให้นางไม่สามารถทำตามใจในสิ่งที่ตนชอบได้
ทุก ๆ วันยามเช้า หนิงซือซือมักจะแอบไปที่ท้ายจวนเพื่อฝึกยิงธนูและฟันดาบ รวมถึงการใช้มีดสั้นนางเองก็คล่องมือไม่ใช่น้อย หนิงซือซือเป็นสตรีที่ฉลาดมีไหวพริบ เพียงแค่แอบดูท่านพ่อฝึกฝนเหล่าทหารไม่กี่ครา นางก็จำได้แม่นแล้ว
ไม่นานมานี้นางถูกแม่ทัพใหญ่หนิง ซึ่งก็คือบิดาของนางดุด่า เพราะว่ามาพบนางยามที่กำลังฝึกฝนอาวุธเหล่านี้เข้าพอดี
เป็นสตรีควรจะเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน เรียนเย็บปักถักร้อย ไม่ใช่มาใส่ใจเรื่องของบุรุษเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาดวงชะตาของเจ้าก็เป็นอัปมงคลมาตั้งแต่เกิด ไต้ซือชราเคยกำชับข้าเอาไว้ ว่าห้ามให้เจ้าออกจากจวนไปพบหน้าผู้ใดเด็ดขาด ห้ามแต่งงาน มิเช่นนั้นเจ้าจะนำความหายนะมาสู่ตระกูลหนิงของข้า!!!
คำพูดเหล่านี้หนิงซือซือจำได้จนแทบขึ้นใจ บางครานางเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ท่านพ่อบอกว่านางเป็นบุตรสาวจากอนุนอกเรือน มารดาเป็นสตรีบ้านป่า ท่านพ่ออุ้มนางกลับเข้าจวนมาด้วยตนเอง แต่เหตุใด นางจึงไม่เคยรู้สึกถึงความผูกพันระหว่างพ่อลูกเลยแม้แต่น้อย นางไม่เคยรับรู้ถึงความรักของท่านพ่อเลยสักครา
ท่านพ่อรักและทะนุถนอมหนิงเซียนพี่สาวของนางราวกับหยกล้ำค่ามาโดยตลอด หากไม่มีท่านย่าคอยปกป้อง ยามนี้นางคงไม่ได้อ่านเขียนเรียนตำราเฉกเช่นคุณหนูบ้านอื่นแล้ว
แต่ช่างเถิด ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นได้แค่บุตรอนุกันเล่า ถึงนางจะสู้หนิงเซียนไม่ได้ แต่นางก็ไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกได้โดยง่ายเป็นแน่
หนิงซือซือรู้สึกเบื่อหน่ายแล้ว นางจึงเดินกลับมาที่นอกเรือน เช้านี้ท่านย่าบอกให้นางไปรับสำรับยามเช้าที่เรือนใหญ่ด้วยกัน นางจึงรีบตรงไปที่เรือนใหญ่ในทันที
จวนตระกูลหนิงมีเรือนมากมาย เรือนใหญ่จะเป็นที่อยู่ของท่านพ่อ หนิงฮูหยิน และหนิงเซียน ส่วนเรือนดอกกุ้ยฮวาจะเป็นเรือนใหญ่อีกหลังซึ่งท่านย่าของนางอาศัยอยู่ ส่วนนางนั้นจะอาศัยอยู่ที่เรือนเล็ก ติดกับโรงครัว เนื่องจากหนิงเซียนไม่ชอบเห็นหน้านาง ท่านพ่อจึงให้นางมาอยู่ที่เรือนเล็กแห่งนี้ แต่นางก็ชอบมันไม่น้อย นอกจากจะไม่ต้องทนเห็นหน้าหนิงเซียนแล้ว นางยังชอบที่เรือนเล็กหลังนี้ร่มรื่นและเป็นส่วนตัว
เมื่อมาถึงนางก็พบว่าคนอื่น ๆ ล้วนมากันครบหมดแล้ว หนิงซือซือทำความเคารพเหล่าผู้อาวุโส ก่อนจะเงยหน้าไปมองหนิงฮูหยิน และหนิงเซียนที่ปรายตามองนางด้วยแววตาที่ดูแคลน
"ไสหัวไปที่ใดมา ให้ผู้ใหญ่รอเช่นนี้ใช้ได้หรือ?"
แม่ทัพใหญ่หนิงตวาดใส่หนิงซือซืออย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะปรายตามองนางขึ้นลงคราหนึ่ง
หนิงเซียนที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"อุ๊ยตาย! ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ เสื้อผ้าน้องเล็กเลอะเทอะยิ่งนัก ไปเล่นสกปรกที่ใดมากัน ข้ากินข้าวไม่ลงแล้วเช่นนี้"
หนิงซือซือก้มมองดูเสื้อผ้าของตนเองคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ
"แค่เปื้อนเศษหญ้า เพราะข้าไปที่สวนท้ายจวนมาเมื่อครู่ เพื่อเก็บดอกไม้มาปักแจกัน คุณหนูใหญ่กินไม่ลง ก็ไม่ต้องกินสิเจ้าคะ"
"นี่เจ้า!!!"
เพล้ง
แม่ทัพใหญ่หนิงที่โมโหจนสะกดกลั้นโทสะเอาไว้ไม่อยู่ จึงคว้าจอกชาร้อนเขวี้ยงใส่หนิงซือซือในทันที แม้นางจะหลบได้ทัน แต่ทว่าความร้อนของชาในถ้วยก็ราดรดถูกแขนของนางเข้าอย่างจัง หนิงซือซือเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสะกดกลั้นความปวดแสบปวดร้อนเอาไว้ ไม่แสดงท่าทีใดใดออกมาเลยแม้แต่น้อย
"เจ้ากล้าเถียงพี่หญิงของเจ้าหรือ เจ้ากล้าเถียงนางได้เช่นใดกัน วันหน้านางจะได้เป็นถึงมารดาของแผ่นดิน เจ้าเองที่จะต้องนอบน้อมนางให้มาก เพื่อให้นางคอยคุ้มครองเจ้าในวันหน้า"
"ท่านพ่อแน่ใจหรือเจ้าคะว่าพี่หญิงจะช่วยคุ้มครองข้า มิใช่ว่าพอได้เป็นฮองเฮาแล้ว สิ่งแรกที่คิดจะทำคือการกำจัดข้าให้พ้นสายตาหรอกหรือ?"
"เจ้า!!!"
"หยุดได้แล้ว!!! เจ้าใหญ่ เจ้าทำเกินไปแล้ว นางก็เป็นบุตรสาวเจ้าคนหนึ่งนะ!!!"
"ท่านแม่!!!"
"ข้าไม่อยากกินข้าวกับพวกเจ้าแล้ว ซือเอ๋อร์พยุงย่ากลับเรือนดอกกุ้ยฮวาเร็วเข้า ส่วนผิงผิง เจ้าไปที่ห้องครัว ให้บ่าวไพร่นำสำรับใหม่ไปให้ข้ากับคุณหนูรองที่เรือนดอกกุ้ยฮวา"
"เจ้าค่ะไท่ฮูหยิน"
ไท่ฮูหยินปรายตามองแม่ทัพใหญ่หนิงคราหนึ่ง ก่อนจะให้หนิงซือซือช่วยพยุงตนเองกลับเรือน
หลังจากรับสำรับยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนิงซือซือก็ขอกลับจวนเพื่อมาทำแผล ผิงผิงที่ช่วยทำแผลให้นางก็รู้สึกสงสารเจ้านายของตนยิ่งนัก
ผู้ใดกันจะรู้ ตามร่างกายของคุณหนูมีแต่บาดแผลไปทั้งตัว!!!
คนจวนตระกูลหนิงช่างอำมหิตยิ่งนัก!!!
"พอเถิด ข้าไม่เจ็บแล้ว"
"ได้อย่างไรกันเจ้าคะคุณหนูรอง!!! ดูบาดแผลตามตัวท่านสิเจ้าคะ!!!"
"ช่างเถิดน่า ข้าง่วงแล้ว อยากนอนพักเสียหน่อย เจ้าจะไปทำสิ่งใดก็ไปเถิด"
เรือนดอกกุ้ยฮวา
"เจ้าใหญ่ เจ้าเมตตานางหน่อยเถิด"
ไท่ฮูหยินเอ่ยกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า แม่ทัพใหญ่หนิงจ้องมองมารดาของตน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล
"ท่านแม่จำไม่ได้หรือ คนทางนั้นกำชับนักหนาว่าให้ฆ่านางเสียตั้งแต่เด็ก มิเช่นนั้นนางจะนำภัยมาสู่ตระกูล แต่เพราะความใจอ่อนความสงสารของท่านแม่ ทำให้นางมีชีวิตรอดอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ หากทางนั้นรู้เข้า มิช้ามินานนางก็ต้องตาย!!!"
"หุบปาก! เจ้าไม่สงสารนางหรือ นางหน้าเหมือน..."
"ท่านแม่!!! ท่านอยากให้ตระกูลหนิงของพวกเราเดือดร้อนหรือ!!!"
ไท่ฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เม้มปากแน่น นางไล่ให้แม่ทัพใหญ่หนิงกลับเรือนตนไปเสียก่อนจะถอนหายใจออกมา
หนิงซือซือเอ๋ย ยามที่ย่ายังอยู่เจ้าจะยังคงปลอดภัย แต่ยามใดที่ย่าตายจากไป เจ้าจะเป็นเช่นไรย่าก็ไม่อาจรู้ได้!!! ย่าสงสารเจ้าเหลือเกิน