อลิเซียน่าเดินไปที่รถเพราะไม่อยากคุยกับชายหนุ่มอีกต่อไป เขาทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ
หญิงสาวนั่งอยู่ในรถเหลือบมองไปตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ถึงได้สังเกตเห็นว่าเขากลับเข้าไปในอาคารอีกครั้ง
เธอส่ายศีรษะ ผู้ชายคนนี้กำลังปั่นหัวเธอ แต่วันนี้คำถามหลายข้อก็ได้รับการคลี่คลายแล้ว เขาเป็นกริมมี่
อลิเซียน่าต้องเคยเจอเขาเมื่อเธอยังเด็ก ทุกอย่างสมเหตุสมผลตามที่เขาเคยบอกว่าเขาเคยพบเธอมาก่อน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยในใจเธออีกมาก ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนมันเป็นกับดัก?
รถสองคันวิ่งไปอย่างราบรื่นบนถนนที่เงียบสงบกลางป่า อลิเซียน่าจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่เนิ่นนาน คีเดนและมีอายังไม่ได้ตอบกลับข้อความ และมันทำให้ความคิดแง่ลบเกิดขึ้นในหัว
เธอถอนหายใจมองไปที่บอดีการ์ด และจากนั้นก็เลื่อนสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนต้องกรีดร้องเมื่อสังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งเร่งเครื่องพุ่งข้ามทางแยกตรงมาทางรถยนต์ที่เธอนั่งอยู่
รถยนต์ทั้งสองคันประสานงากันอย่างแรง จนรถยนต์ที่อลิเซียน่านั่งพลิกตลบ หมุนกลิ้งไปบนถนน ถุงลมนิรภัยเด้งออก เธอถูกเหวี่ยงจนสมองมึนงงไปหมด
อลิเซียน่ากะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นไม่นานก็รู้สึกว่ามีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ หญิงสาวหลับตาพลางส่ายศีรษะ เพราะเสียงอื้ออึงที่ดังอยู่ในหู ครู่ต่อมาถึงได้รู้ว่านั่นคือเสียงปืน
หัวใจเริ่มทำงานหนักในฉับพลัน อลิเซียน่ามองไปที่บอดีการ์ดคนหนึ่งจึงเห็นว่าเขามีเลือดไหล แต่พอสังเกตดูดี ๆ ถึงรู้ว่าเขาตายแล้ว อาการปวดศีรษะเข้ามาเล่นงานอีกหน อลิเซียน่าสะบัดศีรษะพยายามดึงสติ ก่อนมองไปที่หน้าต่างข้าง ๆ หญิงสาวเห็นเหล่าบอดีการ์ดกำลังดวลปืนกับฝั่งตรงข้าม
หญิงสาวพยายามปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างยากลำบาก เพราะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของร่างกาย
“คุณหนูออกมาครับ!” คนขับพยายามเปิดประตูรถให้เพื่อพาเธอออกไป อลิเซียน่าจับมือเขาแล้วหลับตาก่อนจะคลานออกมาจากที่นั่น
เธอไม่อยากเห็นบอดีการ์ดที่นอนตายอยู่ข้าง ๆ เลือดของเขาเปื้อนมือและเสื้อผ้าของเธอด้วย
บอดีการ์ดดึงอลิเซียน่าออกมาจากรถได้แล้วและนั่นคือตอนที่เธอสังเกตเห็นบอดีการ์ดจากรถคันหน้า ที่กำลังยิงต่อสู้กับชายหกคนซึ่งแต่งกายด้วยชุดดำ ดูเหมือนว่านี่น่าจะเป็นการปะทะกันระหว่างแก๊ง
“เรามีจำนวนน้อยกว่าเขามาก” บอดีการ์ดที่พาเธอออกมาจากรถเอ่ยบอก พวกเขาใช้รถยนต์เป็นที่กำบัง คอยยิงปืนสวนตอบโต้เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามย่ามใจ หางตาของอลิเซียน่าเหลือบเห็นว่าผู้พูดก็ได้รับบาดเจ็บ
“ผมได้แจ้งให้บอสทราบแล้ว พวกเขาจะมาช่วยเราที่นี่เร็ว ๆ นี้ แต่ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถรอได้จนถึงตอนนั้น” เขาวิเคราะห์สถานการณ์ซึ่งอลิเซียน่าก็เข้าใจได้ไม่ยาก
“คุณหนูต้องวิ่งหนีเข้าไปในป่า และอย่ามองย้อนกลับมาจนกว่าคุณจะไปถึงอีกฟากของป่า หรือพบกับบอสที่กำลังจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้”
เสียงปืนดังสนั่นแทบไม่มีเว้นระยะ ก่อนที่เธอจะเห็นกับตาคนของฝ่ายเธอโดนยิงจนล้มลง เลือดของเขาไหลทะลักออกมานองพื้นทันที ทว่าคู่สนทนาของเธอยังนิ่งกำชับบอกสิ่งที่ควรทำอย่างใจเย็น
“ผมจะยิงสกัดพวกเขาและคุณหนูต้องวิ่งไปจากตรงนี้ คุณหนูมีปืนใช่ไหม” เขาถาม เธอจึงพยักหน้า
อลิเซียน่าไม่อยากทิ้งคนเหล่านี้ ทว่าเธอก็ไม่มีพละกำลังมากพอที่จะปกป้องพวกเขาเช่นกัน อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หญิงสาวรู้ตัวดีว่ากระทั่งตัวเอง เธอก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เพราะคนทั้งหมดกำลังจะตายเพื่อเธอ
“วิ่งเดี๋ยวนี้!” เขาสั่ง
เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจออกวิ่ง ขณะที่อลิเซียน่าวิ่งมาได้สองสามก้าว หญิงสาวหันไปมองที่บอดีการ์ดอีกครั้ง สี่คนนั้นถูกยิงตายไปแล้ว มีเพียงคนขับเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกสูญเสียและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
อลิเซียน่าสังเกตเห็นฝ่ายตรงข้ามเดินเข้าไปใกล้บอดีการ์ดคนดังกล่าว เธอจึงดึงปืนออกมาด้วยมือที่สั่นเทาโดยหวังว่าจะใช้มันเพื่อปกป้องเขา ทว่าอาการละล้าละลังของเธอก็ทำให้ทุกอย่างมันสายเกินไป ก่อนที่หญิงสาวจะเหนี่ยวไก บอดีการ์ดซึ่งพ่วงตำแหน่งคนขับรถก็ถูกยิงเสียก่อน ภาพตรงหน้าทำให้เธอชะงักงัน ก่อนสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจะกระตุ้นเตือนให้เธอหมุนตัวหันหลัง
สองเท้าเคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมน้ำตาซึ่งกำลังหลั่งไหลออกมา อลิเซียน่าเริ่มวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต พยายามเร่งสับเท้าแม้จะรู้ว่ามีผู้ชายสามคนกำลังวิ่งตามมา
จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นฉับพลันในป่า ส่งผลให้หญิงสาวย่อตัวลงต่ำพลางวางมือบนหัว เธอเบิกตาโตพร้อมคอที่แห้งผากด้วยความเหนื่อยหอบ
“ฉันจับเธอได้แล้ว!” ผู้ชายที่ใส่หน้ากากชี้ปืนมาทางเธอ
หญิงสาวตอบโต้ด้วยการยกปืนขึ้นมาแม้มือข้างนั้นจะสั่นเทาจนปลายกระบอกปืนสั่นไหว หัวใจของเธอหนักอึ้ง หญิงสาวรู้สึกเวียนหัว ศีรษะเจ็บปวดและมีเลือดไหล
ชายคนนั้นสืบเท้าเข้ามาใกล้ เธอจึงก้าวถอยหลัง ท่าทีของอีกฝ่ายบ่งบอกให้รู้ว่า พวกเขากำลังจะฆ่าเธอ! หญิงสาวรู้ว่าต้องเหนี่ยวไกแต่มือข้างที่ถือปืนกลับไม่ทำตามคำสั่ง อลิเซียน่าเกลียดตัวเองที่อ่อนแอ และเกลียดดวงตาที่พร่ามัวเพราะน้ำตา
แต่ก่อนที่ชายคนนั้นจะเหนี่ยวไก เขากลับล้มลงต่อหน้า
“น่ารำคาญอะไรแบบนี้! เธอไร้ประโยชน์มากเลยคัพเค้ก ฉันควรฆ่าเธอ” เสียงพูดอันเย็นชาดังขึ้น ทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นจากศพ เขายืนอยู่ที่นั่น สวมชุดสีดำทั้งชุด ใบหน้าของเขาปกปิดด้วยหน้ากากและใส่หมวกเบสบอลสีดำเพื่อซ่อนเรือนผมไว้
เขาจ้องกลับมาด้วยสายตาเย็นชาดุดัน อลิเซียน่าเล็งปืนไปที่เขาแล้ววางนิ้วลงบนไกปืน เธอเกลียดเขา!
“ซีโม่!” อลิเซียน่าเรียกชื่อเขาเสียงดัง แม้ว่าเธอจะกลัวเขามากสักแค่ไหน ฝ่ายซีโม่กลับลดปืนลงพลางจ้องมองเธอ
“ลั่นไกได้แล้ว” คำพูดของเขาทำให้เธอร้องไห้ ชายหนุ่มก็คงรู้ว่าเธอไม่สามารถฆ่าใครได้
ต่อมาไม่นานนัก ภาพตรงหน้าก็พร่ามัวมืดลง จิตใจรู้สึกมึนงง สติไม่เต็มร้อย ทันใดนั้นวิสัยทัศน์ในครรลองสายตาของเธอก็เป็นสีดำ และหญิงสาวก็ล้มลงบนพื้น อ้าปากค้างมองดูเขาด้วยดวงตาที่พร่าเบลอ ก่อนจะพบว่าเขาเดินหายไปแล้ว
ทำไมเขาถึงไม่ฆ่าเธอ? คำถามเกิดขึ้นในหัว ก่อนทุกอย่างจะดับมืดในเวลาต่อมา