น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านร่างกายของอลิเซียน่า เธอยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดอยู่แบบนี้จนเวลาผ่านไปสักพัก สิ่งที่เพิ่งเกิดทำให้เธอหัวหมุน...
ซีโม่คือใคร? เขาต้องการอะไรจากเธอ?
ตามที่บอดีการ์ดพูดเรื่องโน้ต ซีโม่ต้องการครอบครองสิ่งที่มีค่าที่สุดของบิลลี่ เขาหมายถึงอะไรกันแน่ ต่อให้แดนนี่บอกว่าเป็นเธอ แต่หญิงสาวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เธอมีอะไรที่สำคัญกับแด๊ดอย่างนั้นหรือ
เธอถอนหายใจก่อนจะก้าวมายืนหน้ากระจกในห้องน้ำซึ่งถูกปกคลุมด้วยฝ้าสีขาว เธอยกมือขึ้นเช็ดไอน้ำจนกระทั่งเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เธอจึงยิ้มเยาะพร้อมกับส่ายหัวไปมา แค่แด๊ดคนเดียวก็ทำให้เธออึดอัดมากพอแล้ว ตอนนี้ยังมาเพิ่มเรื่องของมาเฟียที่กำลังต้องการตัวเธออีก
‘ชีวิตของฉันนี่มันน่าตลกสิ้นดี’
เธอหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกสมเพช หัวใจของเธอกำลังทำงานหนัก แต่เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่ร้องไห้และอ่อนแอเด็ดขาด เธอเดินไปทางตู้เสื้อผ้าซึ่งออกแบบให้เป็นตู้วอล์กอินขนาดใหญ่ ภายในยังคงเต็มไปด้วยสิ่งของของเธอซึ่งทำให้หญิงสาวประหลาดใจ อลิเซียน่าครุ่นคิดถึงชุดที่จะใส่
มันเป็นเวลาอาหารเย็น เธอรู้ว่าทุกคนจะมารวมตัวกันที่ห้องรับประทานอาหารในคืนนี้ และแด๊ดจะเกลียดมากเมื่อมีคนแต่งกายด้วยชุดลำลองธรรมดามาร่วมโต๊ะ เพราะเขายึดติดกับความหรูหรา ดังนั้นทุกคนจึงต้องแต่งกายด้วยชุดสวยงามเป็นทางการ
เธอยิ้มเยาะคว้าเสื้อสเวตเตอร์สีเขียวขี้ม้าเรียบง่ายมาใส่คู่กับกางเกงขายาวสีดำ หญิงสาวสามารถจินตนาการถึงความโกรธของแด๊ดได้ถ้าเขาเห็นเธอในชุดนี้
บางทีเขาอาจจะตัดนิ้วของเธอทิ้งสักหนึ่งหรือสองนิ้วเป็นการลงโทษ
หรือไม่เขาอาจจะบังคับให้เธอแต่งงานกับหัวหน้าแก๊งมาเฟียสักแก๊งเพื่อสร้างพันธมิตร เธอหัวเราะเบา ๆ พลางโคลงศีรษะไปมา แต่สิ่งที่เขาน่าจะทำได้มากที่สุดคือตบเธอแล้วก็ขังเธอไว้ที่ห้องใต้ดิน
หญิงสาวจ้องมองไปที่นาฬิกาซึ่งตัวเลขกำลังบอกเวลาสองทุ่ม ดวงตาของเธอเบิกกว้างโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงเริ่มสวมเสื้อผ้า
อลิเซียน่ารีบเดินลงบันได ทำให้สายตาของบอดีการ์ดทุกคนต่างมองขึ้นมาที่เธอ หญิงสาวตรงไปผลักเปิดประตูห้องรับประทานอาหาร ซึ่งทุกคนที่อยู่ในนั้นเธอรู้จักเป็นอย่างดี อลิเซียน่าสายไปห้านาทีแล้ว จึงคิดที่จะรีบเข้าไปนั่งประจำที่ แต่เพราะสายตาของเธอเลื่อนไปเห็นแด๊ดซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะ เท้าของเธอจึงชะงักอยู่กับที่ หัวใจของอลิเซียน่าเต้นรัวยามจ้องมองเขา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกสั่นเทาในวินาทีต่อมา
ทุกสิ่งในแววตาของเธอที่แสดงออกมามีทั้งความ…
เจ็บ…
เกลียด…
โกรธ…
รังเกียจ…
ความสิ้นหวัง…
ตรงกันข้าม ดวงตาของบิลลี่กลับมีแต่ความเย็นชาและความโหดร้าย
“แกมาสายเซียน่า!” เสียงห้วนของบิลลี่ดังก้องในห้องรับประทานอาหาร กระตุ้นให้เธอก้าวเท้าต่อไป
บิลลี่ บรูโนแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำสั่งตัดอย่างดี เขาอายุห้าสิบสามปีแล้ว แต่ไม่ได้ดูแก่เหมือนคนอายุรุ่นเดียวกัน รูปร่างท่าทางของเขายังดูดีมากและดูหนุ่มแน่นคล้ายคนอายุราวสี่สิบ
ทุกคนหยุดกินหลังจากได้ยินเสียงของบิลลี่ ถึงกระนั้นก็พร้อมใจกันก้มหน้าลงไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมอง จึงมีเพียงบิลลี่ที่จ้องมองลูกสาวเขม็ง ส่วนอลิเซียน่าก็จ้องกลับไปที่เขาเช่นกัน
หญิงสาวก้าวเท้าไปถึงโต๊ะทานอาหารสีดำขนาดใหญ่ที่สามารถรับรองแขกผู้ร่วมโต๊ะได้ถึงยี่สิบคน ที่นั่งแต่ละตัวมีจาน ช้อน แก้ว ถูกวางตามตำแหน่งอย่างเรียบร้อย บนโต๊ะมีแจกันดอกไม้ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ห่างออกไปเล็กน้อยมีแม่บ้านหกคนยืนอยู่กันคนละมุม พวกเธอมีหน้าที่เสิร์ฟอาหาร และเป็นแม่บ้านเก่าแก่ซึ่งทำงานอย่างซื่อสัตย์อยู่ที่นี่มานาน
หญิงสาวเลื่อนสายตามองแม่เลี้ยงซึ่งนั่งติดกันกับแด๊ด เธอคนนั้นชื่อแอนนา ถัดมาคือแอนเธียผู้เป็นน้องสาวต่างแม่ ซึ่งที่นั่งอีกฝั่งเป็นของแดนนี่ ส่วนด้านซ้ายของบิลลี่... ยังว่างเปล่า
ไม่มีใครนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของบิลลี่เพราะมันเป็นที่ประจำของเธอ มีเพียงเธอเท่านั้น
บางทีมันทำให้เธอคิดว่าทุกคนอยู่ข้างเดียวกับแด๊ด และมีเพียงเธอที่อยู่คนละฝั่งกับพวกเขา
“แกทำไมถึงแต่งชุดแบบนี้ ชอบทำให้ฉันโกรธ!” บิลลี่ส่ายหัวอย่างไม่พอใจ
“สวัสดีค่ะแด๊ด!” อลิเซียน่าทักทายพร้อมก้มศีรษะลง
ทุกคนรู้ว่าอลิเซียน่าดื้อมากแค่ไหนและตอนนี้เธอกำลังต่อต้านแด๊ดของเธอ
“วันนี้เป็นวันแรกที่แกกลับบ้าน ฉันจะให้อภัยแกก็แล้วกัน” บิลลี่โบกมือไปมา ทุกคนก็รอให้อลิเซียน่านั่งลง
มันเป็นการยั่วยุที่มากพอแล้วสำหรับการกลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงเดินไปข้างหน้าและนั่งลงที่ด้านซ้ายของเขา ก่อนที่แม่บ้านจะรีบเดินมาบริการอลิเซียน่าอย่างรู้งาน
บิลลี่จ้องมองลูกสาวไม่วางตา และอลิเซียน่าเองก็รับรู้ วันนี้ดูเหมือนแด๊ดจะอ่อนโยนเกินไป เธอจึงไม่ควรท้าทายเขามากไปกว่านี้