ก้าวแรกที่เธอลงบันไดเครื่องบินส่วนตัว อลิเซียน่าได้สบกับสายตาที่คุ้นเคย โดยที่ห่างออกไปไม่ไกล มีรถยนต์สีดำหลายคันกำลังจอดรอเธออยู่ เธอเดินลงไปด้วยความมั่นใจและซ่อนความกลัวไว้ข้างในอย่างมิดชิด
อลิเซียน่าเดินไปขึ้นรถอาวดี้ที่จอดอยู่ตรงกลาง ขณะบอดีการ์ดทั้งหมดต่างก็พากันก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารพเธอ กระทั่งเธอเข้าไปนั่งในรถ แดนนี่ถึงได้เปิดประตูที่นั่งตอนหน้าเข้าไปนั่งข้าง ๆ คนขับ
จากนั้นรถยนต์จึงเริ่มเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทาง หญิงสาวพยายามกลืนความกลัวและความกังวลใจกลับลงไป ทุกอย่างภายนอกยังคงเหมือนเดิม มีเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือเธอ
รถยนต์ชะลอตัวเมื่อขับผ่านประตูขนาดใหญ่สีทองซึ่งเปิดอัตโนมัติ มุ่งสู่ถนนทอดยาวที่มีน้ำพุตั้งตระหง่านสุดสายตา เมื่อรถเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ตัวอาคาร จึงเห็นว่าสถานที่ทั้งหมดต่างถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าบอดีการ์ดในชุดสูทสีดำ
“บ้าน” เธอพึมพำกับตัวเองราวกับตกอยู่ในภวังค์
จมดิ่งอยู่กับความคิดและความทรงจำอันโหดร้าย ...
เมื่อรถหยุดนิ่งก็มีคนรีบมาเปิดประตูให้เธอ หญิงสาวก้าวออกมาอย่างงงงวย รู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยู่บนอากาศ ตาของเธอมองไปที่สนามหญ้าสีเขียว
ลมหายใจเริ่มติดขัด เธอยืนนิ่งขาแข็งทื่ออยู่ในท่าเดิม ขณะที่ศีรษะของทุกคนกำลังโค้งคำนับต่ำเพื่อทำความเคารพ ไม่มีใครสังเกตเห็นท่าทางของเธอ ยกเว้นแดนนี่ที่รับรู้ทุกอย่าง
ดวงตาของอลิเซียน่าจับจ้องอยู่ที่เดิมอย่างเหม่อลอย ขณะที่ภาพในความทรงจำหวนกลับมา
วันนั้นฝนตก เธอเห็นร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้นดิน รอบกายเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานไหลนองท่วมพื้นซึ่งกำลังถูกสายฝนเจือจางชะล้าง
เลือด…
ความจริง…
อารมณ์…
ทุกอย่าง...
จู่ ๆ อลิเซียน่าก็รู้สึกว่าลมหายใจติดขัด มันยากที่จะหายใจอีกครั้ง ก่อนมือของเธอจะยกขึ้นคลำลำคอตามสัญชาตญาณ กระทั่งมีคนวางมือบนไหล่ เธอถึงได้รู้สึกตัว
หญิงสาวหันมองไปรอบ ๆ ภาพความทรงจำเมื่อครู่ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหายไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ และไม่มีใครบีบคอเธอเช่นกัน ทว่าความรู้สึกกลับยังคงแจ่มชัด ความรู้สึกที่ฝังแน่นอยู่ในใจของเธอมานานหลายปี และความรู้สึกนั้นอาจจะอยู่กับเธอไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
“ทุกคนกำลังมองคุณอยู่!” แดนนี่โน้มตัวไปหาเธอเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบาเพื่อเรียกสติ
อลิเซียน่าจึงหันไปหาแดนนี่ ใบหน้าของเธอซีดเผือด เมื่อหลุบตาลงก็เห็นมือที่สั่นเทาของหญิงสาว
เขารู้ว่ามีบางอย่างกระตุ้นให้เธอนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตแม้เธอจะพยายามข่มความรู้สึกทั้งหมดไว้ก็ตาม
อลิเซียน่าก้าวเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบโดยเมินเฉยทุกคนรอบตัว
หญิงสาวแค่นยิ้มขมขื่น ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับเธออย่างจริงใจหรอก
หลังก้าวผ่านประตูบานใหญ่ อลิเซียน่าก็หยุดเท้าเพื่อกวาดสายตามองสำรวจ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โคมไฟระย้าสีทองงดงามซึ่งห้อยอยู่บนเพดาน พรมสีแดงที่ปูอยู่ตรงบันได ภาพวาดอันวิจิตรที่แขวนอยู่บนผนัง ทุกอย่างดูหรูหราและสมบูรณ์แบบเสมอ สิ่งใดที่สามารถอวดอ้างบ่งบอกถึงฐานะความมั่งมี ทุกอย่างจะถูกจัดหามาประกอบตกแต่งอย่างมีรสนิยม
“คุณควรขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องของคุณ เพราะตอนเย็นคุณต้องลงมาทานดินเนอร์กับครอบครัว” แดนนี่เอ่ย เธอจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะขึ้นชั้นบนเพื่อไปที่ห้องนอน
อลิเซียน่าพยายามไม่คิดถึงอะไรเลย อยู่ที่นี่สิ่งเดียวที่หญิงสาวจะทำคือหยุดคิดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อกับตัวตนภายในของเธอเอง
“แดนนี่ เจ้านายเรียกคุณไปพบที่ห้องทำงาน!” อลิเซียน่าหยุดเดินและหันกลับไปมอง เธอเห็นบอดีการ์ดคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหลังแดนนี่ด้วยใบหน้าดูวิตกกังวล
“เกิดอะไรขึ้น?” แดนนี่ถาม
“ซีโม่บุกสำนักงานใหญ่ของเราและฆ่าเดฟตาย”
บอดีการ์ดกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาอย่างหวาดกลัว แดนนี่ดวงตาเบิกกว้างหลังจากได้ยิน เช่นเดียวกับอลิเซียน่า
เดฟคือลูกชายของหุ้นส่วนของแด๊ดเธอใช่ไหม? … ซีโม่ฆ่าเขา!
บอดีการ์ดมีแววตาที่ดูอึดอัดอีกครั้งซึ่งทำให้เธอต้องขมวดคิ้ว และแดนนี่เองก็สังเกตเห็นเช่นกัน
“มีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม” แดนนี่รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องทั้งหมด ยังมีสิ่งอื่นเกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นบิลลี่คงไม่เรียกหาเขา
“ซีโม่ทิ้งข้อความไว้ให้เจ้านาย ซึ่งทำให้เขาโกรธมาก”
“มันเขียนว่าอะไร” แม้แดนนี่จะตื่นตระหนก แต่เขาก็พยายามควบคุมอารมณ์ให้เย็นลง
‘มีบางอย่างผิดปกติ’ อลิเซียน่าสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
“ในโน้ตเขียนว่า… ฉันกำลังจะได้ครอบครองสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณในไม่ช้า”
บอดีการ์ดพูดติดอ่าง ภาพที่เดฟถูกฆ่ายังคงติดตา มันน่ากลัวมากจริง ๆ สภาพของเดฟแทบจะดูไม่ได้เลย
แดนนี่หันกลับไปมองอลิเซียน่าซึ่งยังดูสับสน
“มีอะไร?” อลิเซียน่าเกิดความสงสัย ทำไมแดนนี่ถึงมองเธอแบบนี้?
“เป็นคุณนั่นเอง!” แดนนี่พึมพำ บอดีการ์ดอีกคนก็ก้มศีรษะลงอย่างรู้กัน
“ฉันทำไม?”
“ของที่มีค่าที่สุดของบิลลี่ บรูโนก็คือ…” แดนนี่หยุดพูดกลางคัน เพราะลังเลว่าควรจะบอกเธอดีหรือเปล่า “คุณ…อลิเซียน่า บรูโน” แดนนี่ตัดสินใจพูดจนจบประโยค ซึ่งนั่นทำให้อลิเซียน่าตกใจมาก
……