บางครั้งเธอก็นึกอยากขดตัวอยู่ในลูกบอลและซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งโดยไม่ให้มีใครเห็น แต่เพราะทำอย่างนั้นไม่ได้ อลิเซียน่าถึงต้องพยายามยกเท้าก้าวเดินด้วยท่าทางที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ
ทุกขั้นตอนพิธีกรรมทางศาสนารู้สึกเหมือนนานมาก มือของเธอเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย
ทุกคนมาที่นี่ในวันนี้เพราะโครี่เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกมาเฟีย เขาเคยเป็นมือขวาให้บิลลี่ แต่สองปีที่ผ่านมาตำแหน่งนั้นถูกส่งต่อมาให้แดนนี่ อาจเพราะเหตุผลดังกล่าวพวกเขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลยสำหรับการตายของโครี่ ความตายเป็นเรื่องธรรมดาในโลกมาเฟีย พวกเขาถูกสอนมาตั้งแต่อายุยังน้อย โดยทำให้มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับพวกเขา
เธอคลายกำปั้นออกทำให้กระดาษจดหมายหลุดออกจากมือ เธอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นแด๊ดอยู่ต่อหน้า เขาไม่ควรรู้เรื่องที่ซีโม่ลอบเข้ามาเดินเล่นในบ้าน ไม่... จนกว่าซีโม่จะมาเอาชีวิตของเขาไป
ดวงตาของอลิเซียน่าเปล่งประกายด้วยความเกลียดชังที่ซ่อนอยู่ในใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ สุสาน ไม่มีใครที่ดูเหมือนซีโม่ ทุกคนดูคุ้นเคย
เขามาจริงเหรอ? คำถามวนเวียนอยู่ในหัว แต่มันสำคัญอย่างนั้นเหรอถ้าเขามาที่นี่? ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถทำร้ายเธอต่อหน้าผู้คนมากมายได้
บิลลี่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เขาไม่ได้ถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในบ้านของโครี่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ห่วงเลยว่าเธอรอดชีวิตมาได้อย่างไร
เธอถอนหายใจ โครี่อยู่ในโลงศพนั่นและเธอจะไม่เห็นเขาอีกต่อจากนี้ นั่นทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างไม่อาจห้าม แต่เธอก็รีบเช็ดมันอย่างรวดเร็ว เพราะเธอไม่สามารถร้องไห้ต่อหน้าผู้คนมากมายตรงนี้ได้
เมื่อพวกเขาปิดหลุมศพ ทุกคนจึงเริ่มเดินออกจากที่นี่อย่างช้า ๆ หลังจากโค้งคำนับให้บิลลี่ เธอยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนรูปปั้นเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปก่อนบิลลี่
ในห้วงภวังค์เธอไม่ได้สนใจใคร กระทั่งมีคนเดินมาหาบิลลี่เพื่อกล่าวแสดงความเสียใจ
นั่นจึงเป็นเรื่องที่ทำให้เธอประหลาดใจ เธอหันไปมองอีกฝ่ายก่อนต้องตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เขาหน้าตาดีมากเกินมนุษย์ผู้ชายทุกคนที่เธอเคยรู้จัก หัวใจของอลิเซียน่าเต้นระรัวขึ้นมาทันควัน ใบหน้าร้อนผ่าวเขินอายจนเผลอยกมือขึ้นลูบแต่งทรงผมอย่างไม่รู้ตัว ทว่าก็ไม่อาจละสายตาไปจากชายหนุ่มตรงหน้า
เขาสูงมากกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้า จมูกโด่งเป็นสันคมสวยรับกับใบหน้าหล่อเหลา เส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกดำ แต่สิ่งหนึ่งที่อลิเซียน่าไม่ชอบเกี่ยวกับเขาคือสีตา เพราะตาของเขาเป็นสีฟ้าอ่อน และเธอคิดว่าดวงตาคู่นั้นไม่เหมาะกับเขา ชายหนุ่มคงจะดูดีขึ้นมากถ้าเขามีตาสีน้ำตาลช็อกโกแลต
เธอคล้ายตกอยู่ในภวังค์ได้แต่จ้องมองเขาอย่างลืมตัว ลืมแม้กระทั่งว่าตนกำลังอยู่ในงานศพ และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังโศกเศร้ามากเพียงใดกับการเสียชีวิตของเพื่อนสมัยเด็ก เธอไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าเขาจะพูดอะไรกับแด๊ด ได้แต่มองชายหนุ่มด้วยความหลงใหล เพียงไม่นานเสียงเรียกของบิลลี่ก็ปลุกให้เธอตื่นจากห้วงความคิด อลิเซียน่ากระแอมไอเรียกสติของตัวเองเล็กน้อยพร้อมปรับท่าทีให้สุขุมก่อนหันไปหา
“เธอเป็นลูกสาวของฉันชื่ออลิเซียน่า บรูโน” บิลลี่แนะนำด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชายร่างสูงคนนั้นจึงหันมาหาเธอ และยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อจับมือกับเธอ
อลิเซียน่ามองไปทางแด๊ด จากนั้นจึงยื่นมือไปจับมือกับเขาอย่างรวดเร็ว มือของเขาค่อนข้างอุ่นร้อนตรงกันข้ามกับดวงตาสีฟ้าอ่อนเย็นชา
“ลูก้า คอสต้า” เขาเอ่ยทักทายเธอด้วยเสียงอันทรงพลังซึ่งส่งผลให้อลิเซียน่าโคลงศีรษะเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงของเขาฟังดูคุ้นเคย
คุ้นเคยเกินไป ...
“ดีใจที่ได้พบคุณอลิเซียน่า บรูโน” เขาพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
อลิเซียน่าไร้คำตอบรับเหมือนมีอะไรอุดปากเธอไว้ มิหนำซ้ำหญิงสาวยังได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่สามารถขยับตัวได้
บิลลี่จากไปชั่วโมงกว่าแล้วหลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับลูก้า อลิเซียน่ายังสลัดความรู้สึกตงิด ๆ ในใจนี้ออกไปไม่ได้เนื่องจากเสียงของเขาคล้ายกับเสียงของซีโม่มาก ส่งผลให้ความหวาดกลัวถึงกับแล่นลามไปตามกระดูกสันหลัง
ชั่ววินาทีหนึ่งเธอคิดว่าเขาคือซีโม่ และเขามาร่วมงานเหมือนที่เขียนบอกไว้ในจดหมาย แต่แล้วพอเธอสังเกตเห็นวิธีที่แด๊ดพูดกับเขา มันเหมือนพวกเขารู้จักกันมานาน บิลลี่ดูเชื่อใจผู้ชายคนนั้นมาก ไม่นานนักอลิเซียน่าก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไป บางทีเธออาจจะกลัวมากจนเกินเหตุ จนเห็นใครเป็นซีโม่ไปหมดทุกคน
ไม่ว่าเธอจะคิดเช่นใดทว่าจิตใจของเธอติดอยู่แต่กับเรื่องของเขา ใบหน้าเย็นชาหมุนวนอยู่ในใจของเธอ หญิงสาวเชื่อว่าลูก้าซ่อนบางอย่างเอาไว้ มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเขา
อลิเซียน่าถอนหายใจอีกครั้งเพื่อละทิ้งทุกอย่างออกไปจากใจ เธอมองหลุมศพที่เพิ่งผ่านพิธีกรรมไปหมาด ๆ หญิงสาวพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ ครั้นมองไปรอบ ๆ ตัวก็พบหลุมฝังศพจำนวนมากกับความจริงที่ว่า บริเวณนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัวเธอ หลุมฝังศพมัมอยู่ห่างจากเธอไปเพียงไม่กี่ก้าว แต่เธอไม่อยากไปที่นั่น
อลิเซียน่าสัมผัสได้ถึงก้อนเหนียว ๆ ในลำคออีกครั้งก่อนกลืนมันลงไป จากนั้นเริ่มเดินไปยังหลุมศพของโครี่อย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงตรงหน้า
ทำไมถึงเกิดเรื่องกับเขา? หญิงสาวยกมือขึ้นแล้วลากนิ้วช้า ๆ ไปตามพื้นดินที่เปียกชื้น
“นายทิ้งพวกเราทุกคน!” เธอเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหินซึ่งมีชื่อของเขาสลักอยู่
“นายทิ้งฉันโครี่” เธอพูดเสียงแผ่วขณะที่น้ำตาไหลรินลงมา อลิเซียน่ายังคงจ้องมองชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แต่นายน่าจะมีความสุข! นายทิ้งโลกที่โหดร้ายนี้ไปแล้ว แต่อย่างน้อยนายควรจะมีชีวิตอยู่ให้นานมากกว่านี้ ชีวิตที่มีความสุข” เธอก้มศีรษะลง น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
ไม่มีใครอยู่ในสุสานแห่งนี้ยกเว้นสายลม และคนตายที่นอนอยู่ใต้หลุมศพ
อลิเซียน่ารู้ดีว่าบอดีการ์ดซึ่งยืนอยู่ที่ทางเข้ากำลังจับตามองเธอ ฉะนั้นเธอจึงเช็ดน้ำตาออกและมองกลับไปที่หลุมศพอีกครั้ง
“นายกล้าหาญเสมอโครี่!” เธอยิ้มให้ตัวเองเมื่อนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับเขา
อีกหนึ่งบททดสอบในชีวิตของเธอถูกปิดแล้ว ที่สำคัญเธอไม่สามารถแก้ไขมันได้
บางทีนั่นคงเป็นความทรงจำทั้งหมดในชีวิตเธอ
“นายก็รู้ว่าฉันไม่เคยเกลียดนายเลยที่ทิ้งฉันไป!” เธอยิ้มอย่างเศร้า ๆ มือข้างหนึ่งยังคงวางบนพื้นดินก่อนตัดใจยืนขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากไปแล้ว
“แต่นายเป็นคนโกหก นายผิดสัญญา!” เธอหัวเราะเบา ๆ พลางถอยหลังกลับ “ลาก่อน!” เธอพึมพำ มันเป็นคำพูดที่เอ่ยยากที่สุดยามต้องบอกกับใครบางคน ยิ่งรู้ด้วยว่าพวกเขาจะหายไปตลอดกาลและไม่ได้กลับมาอีก มันยิ่งเป็นคำที่เอ่ยออกไปได้ยากเย็นเกินคำบรรยาย
หลังจากนี้เธอต้องเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ร้องไห้ บิลลี่พยายามสอนเธอมาตลอดชีวิต
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกใจอ้าปากค้างพร้อมเบิกตาโต
“ฉันเดาว่าเขาเป็นคนพิเศษของคุณ...” น้ำเสียงราบเรียบของเขาเอ่ยขึ้นมา
เธอรู้สึกขนลุกและหนาวสั่นอย่างไม่มีสาเหตุ ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดกำลังส่งผลต่อจิตใจของเธอ
อลิเซียน่าเช็ดแก้มอีกหนเพื่อกำจัดน้ำตาที่เหลืออยู่ทั้งหมดก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ
“ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นหัวข้อที่เราสามารถพูดกันได้มิสเตอร์คอสต้า” น้ำเสียงของเธอไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ รวมถึงพยายามที่จะไม่พูดติดอ่างต่อหน้าเขา
เขาจ้องมองเธออยู่พักหนึ่ง สายตานั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ มันแปลก ไม่น่าปลอดภัย มันเหมือนเขาสามารถอ่านใจของเธอได้ และก็เหมือนเขารู้ว่าเธอแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกใด ๆ ต่อหน้าเขา ถึงกระนั้นอลิเซียน่ายังคงสบตากับเขาแม้ว่าต้องการจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้ก็ตาม
“เขาเป็นคนที่สำคัญสำหรับฉัน!” ลูก้าเลื่อนสายตามองไปทางหลุมศพพร้อมพูดออกมา ส่งผลให้อลิเซียน่ารู้สึกสับสน
“คุณรู้จักเขาเหรอคะ” เธอโพล่งคำถามออกไปอย่างสนใจ
ลูก้าหันกลับมามองหน้าเธออีกครั้ง
“ใช่… ฉันรู้จักเขาดี...” เขาพยักหน้า อลิเซียน่าถึงกับขมวดคิ้วมากกว่าเดิม
อลิเซียน่าไม่เคยเห็นลูก้า คอสต้ามาก่อน และโครี่ไม่เคยพูดถึงชายหนุ่ม แล้วคนทั้งสองรู้จักกันได้อย่างไร?
เกิดอะไรขึ้นในปีที่เธอจากไป?
“คุณรู้จักเขาได้ยังไงคะ”
คู่สนทนายกยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าในขณะที่สายตายังไม่ละจากเธอ
“ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นหัวข้อที่เราสามารถพูดกันได้มิสบรูโน” เขาล้อเลียนอลิเซียน่าด้วยคำตอบที่หญิงสาวเคยพูด
อลิเซียน่าเห็นอารมณ์บางอย่างในดวงตาสีฟ้าอ่อน เธอคงมองพลาดถ้าไม่ได้มองอย่างตั้งใจ อารมณ์ที่อยู่ในสายตาของเขาคือความชั่วร้ายที่เธอไม่สามารถอธิบายได้
“คุณเลียนแบบคำพูดของฉัน” อลิเซียน่าโพล่งออกไปอย่างเขินอาย
ลูก้าเลิกคิ้วขึ้นยามเห็นหูของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“คุณควรจะดีใจที่ฉันแค่พูดกับคุณ ไม่ใช่อย่างอื่น” ลูก้าเอ่ยเสียงเบาด้วยสายตาเย็นเยียบ พลอยทำให้อลิเซียน่ารู้สึกขนลุกขึ้นมาตามแขน จากนั้นเธอก็เห็นดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชามากกว่าเดิม
“คุณขู่ฉัน?” อลิเซียน่าขมวดคิ้ว ได้แต่กลืนความกลัวกลับลงไปในลำคอ เขาทำให้เธอกลัวจริง ๆ แต่เธอไม่ต้องการให้เขารับรู้ หญิงสาวพยายามอย่างหนักที่สุดเพื่อปกปิดมัน
ชายหนุ่มย่างเท้าเดินมาข้างหน้าจากนั้นหยุดยืนต่อหน้าเธอด้วยระยะห่างเพียงไม่กี่นิ้ว เขายิ้มเยาะ ก่อนคำพูดต่อมาจะทำให้ดวงตาของอลิเซียน่าเบิกกว้าง
“คุณไม่ได้อยู่ในรายชื่อคนที่ฉันอยากคุกคาม คัพเค้ก!”
คำเรียกขานนั้นส่งผลให้ความทรงจำของเธอย้อนกลับไปในคืนวันนั้นทันที
‘เธอไม่ควรทำสิ่งนี้คัพเค้ก!’ นั่นคือชื่อที่ซีโม่เคยเรียกเธอ
‘คัพเค้ก’ ทำไมลูก้าถึงเรียกเธอแบบเดียวกัน
มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? หัวของเธอเหมือนโดนทุบอย่างรุนแรง
เกิดอะไรขึ้น? เธอไม่เข้าใจ ทุกการกระทำของซีโม่ติดอยู่ในใจเธอ ซ้ำร้ายเขายังไม่ปล่อยให้เธอคิดอะไรอย่างอื่นนอกจากความกลัว
เธอสงสัยว่าเขาคือซีโม่