แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาที่ห้องนอนของอลิเซียน่า เธอยังคงนอนอยู่บนเตียง แต่ดวงตาเปิดกว้างจ้องมองไปที่ระเบียง เมื่อคืนเธอรู้สึกเหมือนมีคนอื่นอยู่ที่นี่ซึ่งไม่รู้ว่าความคิดนี้มาจากไหน แต่ที่แน่ ๆ ยามลืมตาตื่น เธอไม่ได้พบ ‘ใคร’ จะมีก็เพียงสายลมที่ทำให้ม่านระเบียงเคลื่อนไหว
เธอยังนอนอยู่บนเตียงพลางคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เธอคาดเดาไม่ออกว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทำได้แค่ต้องพยายามค้นหาคำตอบและหาทางออกจากที่นี่ด้วยตัวเอง เนื่องจากโครี่ตายแล้ว และคงไม่มีใครที่จะช่วยเธออีกต่อไป เธอกลืนก้อนเหนียว ๆ ในลำคอแล้วถอนหายใจเสียงดัง เธอไม่ควรร้องไห้อีกต่อไป ขณะเดียวกันความคิดอีกอย่างที่ปรากฏชัดเจนในหัว นั่นคือเธอต้องการแก้แค้นคนที่ฆ่าโครี่
แต่เธอรู้ว่าเธออ่อนแอ... อ่อนแอเกินไปสำหรับโลกนี้ที่เธออาศัยอยู่
ตาของเธอมองไปที่นาฬิกาบนผนังซึ่งบอกเวลาแปดโมงเช้าแล้ว เธอผลักผ้าห่มออกไปและยืนขึ้น ก่อนที่จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
เธอรู้สึกสับสนระคนงุนงงว่าใครเอามันมาวางตรงนี้ เธอจำได้ว่าไม่เคยวางอะไรไว้เลยนี่นา
หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าซองจดหมายพลางหันไปมองรอบ ๆ ด้วยความสับสน ไม่มีอะไรเขียนอยู่บนซองจดหมาย เธอจึงเปิดออกและอ่านมัน
"เจอกันที่งานศพ!"
อลิเซียน่าอ้าปากค้าง บนหน้ากระดาษเขียนชื่อเขา ‘ซีโม่’ ดวงตาของเธอเบิกกว้างจ้องมองข้อความด้วยความกลัว เขามาที่นี่ เขามาที่นี่จริง ๆ
ความรู้สึกว่ามีคนอยู่ในห้องของเธอ ไม่ใช่การคิดไปเอง แต่เมื่อคืนเขาอยู่ที่นี่...
เขาต้องการอะไรจากเธอ? ความโกรธเริ่มทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน
เธออ่านข้อความอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น อลิเซียน่ายืนนิ่งอย่างใช้ความคิด เธอควรทำอย่างไรดี ในเมื่อยังคิดไม่ออก หญิงสาวจึงวางจดหมายลงที่เดิม สั่นศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอต้องเตรียมพร้อมสำหรับไปงานแม้ว่าอาจต้องเจอซีโม่ในงานศพก็ตาม เพราะอย่างไรก็ไม่มีอะไรจะหยุดเธอไม่ให้ไปร่วมงานศพของโครี่ได้
เธอเดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยชุดสีดำ และไม่ลืมหยิบจดหมายไปด้วย
เธอกลัว… กลัวสิ่งที่เขาวางแผนจะลงมือทำ แต่หญิงสาวไม่สามารถแสดงความอ่อนแอของตัวเองออกมาได้
เธอได้เห็นความโหดร้ายของเขาแล้ว อลิเซียน่ารู้ว่าเขาสามารถทำได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ เธอโกรธที่แด๊ดพูดว่าจะปกป้องเธอ แต่ขนาดซีโม่มาที่นี่เมื่อคืน แด๊ดก็ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วแด๊ดจะดูแลเธอได้อย่างไร
ในบ้านหลังนี้มีบอดีการ์ดและคนเฝ้ายามมากกว่าหนึ่งร้อยคนอยู่ทั่วทุกมุมบ้าน แต่เขาก็ยังแอบเข้ามาในห้องของเธอได้อย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำเขายังกลับออกไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น อลิเซียน่าหัวเราะเยาะออกมาเบา ๆ ให้กับความโง่เขลาของแด๊ด ที่กำลังคิดว่าทุกคนปลอดภัยจากซีโม่ในบ้านของตัวเอง
ความคิดนั้นจะจุดประกายให้อลิเซียน่า เธอรู้แล้วว่าตอนนี้อยากทำอะไร เธอต้องการเห็นใบหน้าของบิลลี่เมื่อเขาได้รู้ว่าซีโม่บุกรุกเข้ามาในบ้าน
เธอต้องการเห็นใบหน้าของแด๊ดเมื่อเขารู้ว่าตัวเองล้มเหลวในการป้องกันพื้นที่ส่วนตัวจนปล่อยให้คนนอกเดินเข้าเดินออกประหนึ่งบ้านของตัวเอง
เธออยากเห็นหน้าแด๊ดเมื่อเขารู้ว่าเขาก็อ่อนแอมากเหลือเกิน อ่อนแอถึงขั้นที่ไม่สามารถปกป้องลูกสาวของเขาได้
อลิเซียน่ายิ้มบาง ๆ
แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นแดนนี่ที่ยืนอยู่นอกห้องนอน เขายืนอยู่ข้างนอกและกำลังจะเคาะประตู
“คุณเสร็จหรือยัง!” เขาถามโดยไม่คิดเอ่ยคำทักทาย
หญิงสาวรู้สึกเหมือนเขาไม่ใช่คนที่ปลอบโยนเธอเมื่อวาน เพราะเขากลับมาเป็นมนุษย์หุ่นยนต์เหมือนเดิม อลิเซียน่ามองใบหน้าอันเย็นชาปราศจากอารมณ์และไร้การแสดงออกของเขา เขาไม่ทุกข์? การตายของโครี่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเขาบ้างหรือเปล่า!? หญิงสาวนึกสงสัย
เธอสลัดความคิดนั้นทิ้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“แด๊ดอยู่ไหน” เธอเอ่ยถาม แดนนี่หันมามอง จึงเห็นว่าเธอกำกระดาษสีขาวไว้ในมือแน่น
เธอโกรธ! เขารู้จักเธอมากพอที่จะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
มันน่าแปลกใจที่เธอถามหาบิลลี่ อลิเซียน่าไม่เคยถามหาเขาด้วยตัวเองมาก่อน เมื่อแดนนี่เงยหน้าขึ้นมองหน้าก็พบกับสายตาที่ว่างเปล่า จนเขาต้องลอบกลืนน้ำลายไม่ให้ใครสังเกตเห็น
“เขากำลังเดินทางไปที่งานศพ!” แดนนี่พูดพลางเดินนำไปด้านหน้า
“รีบไปเถอะ ไม่งั้นเราอาจจะสาย” น้ำเสียงของเขามีแต่ความเย็นชาเหมือนที่เป็นมาเสมอ เขาดูราวกับไม่สนใจการตายของโครี่ ซึ่งนั่นทำร้ายจิตใจเธอมาก!
เธอถอนหายใจมองกระดาษจดหมายในมือขณะก้าวเท้าเดินตามหลังเขาไป เธอตั้งใจจะเอากระดาษแผ่นนี้ให้แด๊ด
รถยนต์เคลื่อนที่ไปหยุดอยู่หน้าสุสาน อลิเซียน่าเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฝูงชนจำนวนมากที่มาร่วมงาน พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกในแก๊งของแด๊ด วันนี้ไม่มีใครมาที่นี่เพื่อโครี่ พวกเขามาที่นี่เพราะแด๊ด พวกเขาไม่สนใจว่าโครี่เสียชีวิตอย่างไร ดูเหมือนว่าตอนนี้โครี่เป็นเพียงร่างที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น
เธอหลุบมองกระดาษซึ่งยังคงกำอยู่ในมือ ความคิดมากมายอัดแน่นอยู่ในหัวของเธอ
บอดีการ์ดเปิดประตูรถให้ เธอถอนหายใจเมื่อก้าวออกมาจากรถ ด้วยรู้สึกว่าดวงตาของทุกคนมองมาที่เธอ จากนั้นพวกเขาก็ก้มศีรษะลงทำความเคารพ