สองวันต่อมา...
@มหาลัย
สองเท้าเล็กเดินเข้าไปยังใต้ตึกคณะเรียนของตัวเองด้วยท่าทีอิดโรยราวกับคนพักผ่อนไม่เต็มที่
ริชชี่ฟุบหน้าลงบนโต๊ะหินอ่อนทันทีที่นั่งลง
"โอ๊ะ เป็นอะไรเนี่ย ไม่สบายเหรอ" เดลที่นั่งอยู่ก่อนถามเพื่อนขึ้นพร้อมสีหน้าสงสัย ทว่าหญิงสาวก็เงียบไม่ตอบ ก่อนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองอีกคน
"เฮ้ย ทำไมสภาพเธอเป็นแบบนี้อะ" ปากเล็กถามขึ้น
"เมื่อสองวันก่อน หมอนั่นมา..."
"อย่าบอกนะว่า..."
"ทะเลาะกันด้วยก็เลย...เป็นแบบที่เห็น" ริชชี่ตอบก่อนจะถอนหายใจออกมา
"หนักไปไหมเนี่ย..."
"...ดูสภาพเธอสิ"
"เธอก็ควรชินแล้วไหม" หญิงสาวบอกออกไปด้วยท่าทีไม่สนใจ เพราะตั้งแต่วันที่มีอะไรกับมาร์ตินในครั้งนั้น...เดลก็มักจะเห็นเธอในสภาพแย่ ๆ แบบนี้อยู่บ่อย ๆ
"นี่เธอจะอยู่ถึงปีสี่ไหมเนี่ย"
"ทำไม"
"ช้ำในตายก่อนไง อะไรขนาดนั้น"
"..." ริชชี่ก็นิ่งไม่ตอบ หันหน้าหนีไปอีกทางอย่างทำอะไรไม่ได้ นี่ขนาดเมื่อวานเธอนอนพักทั้งวันแล้วนะ แต่วันนี้ยังคงรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ดี
ขณะที่ร่างบางกำลังนั่งคิดอะไรอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์หรูของเธอก็ดังขึ้น
แม่
"แม่งั้นเหรอ..." ปากเล็กเผลอเอ่ยพึมพำเมื่อเห็นชื่อปลายสายที่โทรเข้ามา
มือบางกดรับสาย
(เรียนอยู่รึเปล่า)
"เปล่าค่ะ ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียน"
(คุยได้ใช่ไหม)
"ค่ะ"
(คืนนี้ไปงานแทนพ่อกับแม่หน่อย)
"คะ?"
(เป็นงานวันเกิดคราม ลูกสส.ณรงค์)
"แล้วทำไมพ่อแม่ไม่ไปคะ?"
(พ่อแกไม่ว่าง ติดธุระด่วน)
"แต่..."
(แกต้องไปแทนกับมาร์ติน)
"..." ใบหน้าสวยก็ชะงักนิ่งไปทันที
(ตอนเย็นเข้าไปแต่งตัวที่บ้าน...มาร์ตินจะมารับแกที่นี่)
"..."
(เข้าใจที่พูดใช่ไหม)
"ค่ะ"
(ดี รีบมาแล้วกัน)
"อืม" แล้วมือเล็กก็กดตัดสายไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ทำให้หญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่หันถามเพื่อนตัวเอง
"มีอะไรรึเปล่า"
"ฉันต้องไปออกงานแทนพ่อแม่..."
"ออ ไปกับใครล่ะ ราฟล์เหรอ"
"ไม่ใช่"
"หือ?"
"ไปกับ...มาร์ติน"
@บ้านริชชี่
"คุณหนู..." ป้าสมสวยผู้เป็นแม่บ้านเดินเข้ามาเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าดีใจ เพราะอีกฝ่ายก็เลี้ยงดูฉันตั้งแต่เด็ก
หมับ
"ป้าคิดถึงคุณหนูมาก ๆ เลยค่ะ"
"ริชก็คิดถึงป้าค่ะ" ฉันก็ยิ้มพร้อมกอดตอบอีกคนกลับไป แม้ว่าลุคของฉันจะดูนิ่งแค่ไหน แต่ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป แค่บางทีอาจจะซ่อนทุกอย่างไว้ไม่ให้ใครรู้เท่านั้นเอง
"มาแล้วเหรอ" แม่เดินเข้ามาเอ่ยถามขณะที่ฉันกำลังยืนกอดอยู่กับป้าสมสวย
"ค่ะ"
"มานี่สิ จะได้แต่งตัว"
"อืม" รู้สึกสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าทำไมฉันกับแม่ถึงได้ห่างเหินกันแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ราวกับเราเป็นผูกพันกันแค่สายเลือดเท่านั้น อีกฝ่ายไม่เคยให้ความอบอุ่นแก่ฉันเลยสักครั้ง การที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ เพราะทุกครั้ง...เงินก็มักจะมาก่อนเสมอ
พ่อแม่ใช้เงินเลี้ยงดูฉันกับน้อง แต่ไม่เคยให้ความรักความอบอุ่นแก่พวกเราเลย ไม่เคย...
"วันนี้ใส่ชุดนี้แล้วกัน"
"..." ฉันก็ยืนนิ่งทำตามที่แม่ตัวเองบอกอย่างไม่อาจขัดอีกคนได้
"แต่สีมันดรอปไปหน่อย..."
"...ลองชุดนี้ซิ"
ฉันก็หยิบชุดลองตามคำสั่ง ในตอนนั้นเอง...
"รอยอะไร" ใบหน้าสวยของหญิงวัยกลางคนดูสงสัยพลางเอ่ยถามขึ้น
"..." ฉันก็นิ่ง เพราะมันคือร่องรอยจากฝีมือของมาร์ตินยังไงล่ะ
"ริชชี่"
"ว่าที่ลูกเขยแม่ไง คู่หมั้นหนู" ก่อนตอบคนตรงหน้ากลับไปนิ่ง ๆ แม่ก็ชะงักทันทีที่พูดจบ ซึ่งฉันเองก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว
เพราะมันคือความจริง
"นี่แกกับมาร์ติน..."
"ยังไงก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว อย่าไปถือสาเลย" ฉันบอกออกไปเสียงเรียบราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร
เงียบ ภายในห้องก็ตกอยู่ในบรรยากาศนั้นทันที
"ก็ดีแล้ว เผื่อแต่งเสร็จ...จะได้มีหลานเลย" ฉันเผลอกำมือแน่นไปกับสิ่งที่ได้ยินด้วยความรู้สึกบางอย่าง ขนาดฉันโดนขนาดนี้แล้ว...
แม่ก็ยังจะเป็นแบบนี้อีกเหรอ
หึ นี่ฉันคาดหวังอะไรอยู่ เธอคาดหวังอะไรริชชี่
"มาแต่งหน้าสิ เดี๋ยวฉัน..." ไม่รอให้คนเป็นแม่พูดจบ
"ไม่เป็นไร ริชแต่งเองได้"
"..." อีกฝ่ายก็นิ่งมองหน้าฉัน
"ริชอยากแต่งเอง" จริง ๆ นั้นเปล่าหรอก แต่ฉัน...ไม่อยากจะมองหน้าแม่ตัวเองในตอนนี้ต่างหาก
มัน...ชาเกินไปที่จะต้องรับรู้ถึงความไม่สนใจไยดีของอีกคนเลย
"อืม แต่งให้ดีแล้วกัน" พูดจบ แม่ก็สาวเท้าเดินออกไปทันที ทิ้งให้ฉันยืนนิ่งมองตามหลังด้วยแววตาเจ็บปวด
ความรัก ความห่วงใยจากคนเป็นแม่
มันมีจริง ๆ ใช่ไหม...
ผ่านไปสักพัก
หลังจากที่แต่งหน้าเสร็จ ฉันก็ค่อย ๆ เดินลงไปยังด้านล่างที่มีเสียงพูดคุยของใครบางคนดังขึ้น
"รอน้องหน่อยนะมาร์ติน..."
"...คงใกล้เสร็จแล้วแหละจ้ะ"
"ครับ"
"คุณหนู^^" ป้าสมสวยตะโกนเรียกฉันที่กำลังเดินลงบันได ทำให้สองคนที่ยืนอยู่ด้านล่างหันมามอง
"..." มาร์ตินชะงักทันทีที่หันมามอง โดยฉันเองก็นิ่งพลางจ้องหน้าเขากลับ ก่อนจะหันหนีไปอีกทางขณะก้าวขาเดิน แต่ทันใดนั้น...
กึก!
"อ๊ะ..." ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเผลอเหยียบชายกระโปรงตัวเองเข้า
พลั่ก!! เสียงฉันล้มลงไปกับพื้นดังขึ้น โชคดีที่มันไม่ได้แรงมาก
"เซ่อซ่า" ปากหนาของอีกคนก้มลงเอ่ยใส่หน้าฉันก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีไม่สนใจ
"คุณหนูเจ็บไหมคะ" เป็นป้าสมสวยที่รีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงฉันขึ้น
"เดินยังไงของแก" แม่หันมามองหน้าถามฉันแววตาตำหนิ นั่นยิ่งทำให้รู้สึกบางอย่างขึ้นมา
น้อยใจ...ใช่! ฉันกำลังรู้สึกน้อยใจ
"ริชไปก่อนนะ" สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ ฝืนความเจ็บตรงขาแล้วเดินตามมาร์ตินออกไป
ไม่นานรถหรูก็ขับเข้ามาจอดยังหน้าบ้านขนาดใหญ่ของคราม ลูกสส.ชื่อดังที่ทรงอิทธิพลเช่นกัน แต่ไม่เท่าพ่ออีกฝ่าย
"ลงสักทีดิ จะนั่งอีกนานไหม" ใบหน้าหล่อหันมาถามฉันอย่างหงุดหงิด เขาก็เป็นแบบนี้อยู่ตลอดนั่นแหละเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกัน
ฉันจึงค่อย ๆ ลุกเดินออกไปจากรถตามที่อีกคนบอก แต่…
"อ๊ะ" เจ็บชะมัด
"ลงไปสักที!"
"รู้แล้ว" หมอนี่เร่งอยู่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าฉันเจ็บขาอยู่ แต่ก็นะ...เขาไม่เคยใจดีหรืออะไรด้วยอยู่แล้ว
ตึก...
ขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าไปยังบริเวณด้านในที่จัดงานอยู่นั้น...
"อย่ามาเดินใกล้ฉัน จะไปไหนก็ไป" มาร์ตินก็หันมาพูดใส่หน้า
"ฉันมาในฐานะคู่หมั้นนาย"
"แล้วไง"
"ฉันก็ต้องไปกับนายสิ"
"จะกวนประสาทกันเหรอวะริชชะ..." ยังไม่ทันที่อีกคนจะพูดจบ
"ไง มาร์ติน" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหันไปมอง
"อาณรงค์ สวัสดีครับ"
"หวัดดี ๆ พ่อสบายดีใช่ไหม"
"สบายดีครับ"
"แล้วเราล่ะ"
"ผมก็สบายดีครับ"
"ดีแล้ว ๆ อ้าว..."
"...ริชชี่ใช่ไหมเนี่ย" คุณลุงณรงค์พ่อเจ้าของงานหันมาเอ่ยทักฉันขึ้น
"ค่ะ^^" ฉันก็ยิ้มกว้างตอบกลับไปตามมารยาท
"หึ" คนด้านข้างทำเสียงออกมาพร้อมสีหน้าหมั่นไส้ ฉันชินแล้วแหละ ไม่ว่าจะทำอะไร...เขาก็ไม่เคยชอบอยู่แล้ว
"ไป ๆ เข้าด้านในกันสิ นี่ครามก็รอมาร์ตินอยู่"
"ครับ"
"^^" ฉันก็ส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะหมุนตัวตามร่างสูงอีกคนที่เดินนำออกไป
ตึก!
"จะตามมาทำไมวะ!" ใบหน้าหล่อหันมาตะคอกถามฉันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"ก็ฉันเป็นคู่หมั้นนาย"
"เลิกพูดคำนี้สักทีดิ๊ รำคาญ!"
"..." ฉันนิ่งทันที
"อย่ามาตามฉัน จะไปไหนก็ไป"
"ฉันจะไปกับนายไง"
"ริชชี่!" มือหนาเอื้อมเข้ามากระชากแขนฉันเข้าหาตัวเขา สีหน้าโมโหเต็มที่
"อยากตายเหรอวะ" คำนี้อีกแล้ว...
"ฉันไม่รู้จักใคร" เพราะแทบไม่ค่อยได้มาออกงานอะไรแบบนี้ ยิ่งพวกลูกสส.หรือคนมีอำนาจยิ่งไม่รู้จักเลย ถ้าเป็นงานของไฮโซหรือนักธุรกิจก็ว่าไปอย่าง
"มันเรื่องของเธอ!" มาร์ตินสะบัดมือออกจากแขนฉันอย่างแรงพร้อมกับเดินหนีไปอีกทาง ซึ่งการกระทำนั้นทำให้รู้สึกเจ็บที่ขาขึ้นมา
อยากกลับคอนโดชะมัด
ฉันไม่ได้อยากมาที่นี่เลย...
"เฮ้" ฉันสะดุ้งไปเล็กน้อยกับเสียงของใครบางคนที่ดังขึ้น
"คราม..." กับอีกฝ่ายฉันพอจะรู้จักเขาอยู่ เพราะลุงณรงค์เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของมาร์ติน
"ทำไมมายืนตรงนี้คนเดียวล่ะ" เจ้าของใบหน้าหล่อดูดีถามฉัน พวกลูกสส.เนี่ย ทำไมหน้าตาดีกันหมดเลยนะ
"เอ่อ พอดีว่า..."
"ไอ้มาร์ตินล่ะ มันหายไปไหน ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ" ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ มันเหมือนรู้สึกได้ถึงแววตาลุกวาวในดวงตาคู่นั้นของครามเลย
"คือ..." ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไรกลับไป ก็มีเสียงทุ้มนิ่งของใครบางคนดังขึ้น
"กูอยู่นี่"
"อ้าว มึงมาด้วยเหรอ ไม่คิดว่าจะมา"
"พ่อให้มาแทน" มาร์ตินเอ่ยแต่ก็ไม่วายหันมามองหน้าฉันแววตาไม่พอใจ
ไม่พอใจงั้นเหรอ เรื่องอะไรอีก?
"งั้นเราเข้าไปด้านในกันเลยดิ ไอ้วอร์มกับไอ้แวมก็มา..."
"เออ"
"ไปกัน..." ครามหันมาเอ่ยบอกฉัน
"อื้ม" ฉันก็พยักหน้ายิ้มตอบกลับไป โดยมีสายตาของร่างสูงอีกคนที่กำลังมองด้วยแววตาเหยียดและทำเสียงออกมา
"หึ"