ตอนที่ 3 แตกหัก

1649 Words
“ อะไรอินามึงเป็นไรเนี้ย...” ซอลถามก่อนจะลุกขึ้นเดินมาจับตัวฉันไว้ “ มึงก็ดูคลิป ดูรูปในโทรศัพท์กูดิ !!!! ” ฉันพูดก่อนจะชี้ไปที่โทรศัพท์ตัวเอง ซอลเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ฉันขึ้นมาดูอย่าง งงๆ “ อะไรอิซอล อย่าเงียบดิ...ไหนกูขอดูหน่อย ” อีฟพูดก่อนจะดึงโทรศัพท์จากซอลมาดู ส่วนฉันได้แต่ยืนมองปฎิกิริยาของเพลง ว่าถ้ามันเห็นสิ่งที่อยู่ในโทรศัพฺฉันมันจะทำหน้ายังไงเพราะมันกับอีฟนั่งติดกัน “ ที่มึงคบกับพี่ชายกูไม่ได้ เพราะแบบนี้ใช่ปะ !!” และทันทีที่ฉันดวงตาของเพื่อนเบิกกว้าง ฉันก็รับรู้ทันทีว่าสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์ฉันมันคือเรื่องจริง ฉันตะคอกถามเพื่อนอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดหวัง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ... “ นามึงใจเย็นๆ ” ซอลพูดก่อนจะจับแขนฉันไว้แต่ฉันก็สะบัดออก “ จะให้กูใจเย็นยังไงหรอ ! ในเมื่อเพื่อนที่กูรักทำร้ายจิตใจพี่ชายกูอะ พี่กูเขารักมึงขนาดไหน รอมึง ทำเพื่อมึงได้ทุกอย่าง !! ” ฉันพูดอย่างผิดหวังก่อนจะมองหน้าเพลง “ แล้วนี่คือมึงตอบแทนพี่ชายกูโดยการไปมีอะไรกับเพื่อนสนิทพี่กูอะนะ ห๊ะ !!!...” “ พี่ไนท์ก็รู้หรอ ? ” เพลงถามด้วยน้ำเสียงตกใจก่อนจะมองหน้าฉัน ฉันกัดปากตัวเองแน่นเพื่อข่มอารมณ์ตัวเองไว้ ก่อนจะตอบ “ เออ ! เพราะอิรูปอิคลิปบ้านี่มันถูกส่งไปที่ไลน์พี่กูไง กูถึงรู้ แล้วยังรู้อีกด้วยว่ามึงขายตัว !!!!! ” และความพยายามข่มอารมณ์ของฉันก็ศูนย์เปล่าทันทีที่ฉันใช้คำพูดแรงๆ แบบนั้นพูดใส่เพื่อน “ อินามึงใจเย็นๆ “ “ มึงเงียบปากไปซอล !!” ฉันหันไปบอกซอลด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่อยู่แล้ว การยับยั้งความคิดฉันมันติดลบไปแล้ว “ กูอุสาเชียร์ ตอนแรกกูก็สงสัยนะว่าทำไมมึงยังไม่ตกลงกับพี่ชายกูสักที กูพลาดเองแหละ ที่กูมองมึงดีเกินไป ! ” ฉันพูดก่อนจะมองหน้าเพลง “…………………” “ มึงมันก็แค่ผู้หญิงที่ทำทุกอย่างได้เพื่อเงินแค่นั้น ” “ เห้ยไอ้นา มึงพูดแรงไปมั้ย ฟังเพื่อนเราก่อนดิว่ะ !” อีฟจากตอนแรกที่มันนั่งดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ ก็พูดขึ้นมา “ มึงมันต้องฟังอะไรอีกว่ะ มึงไม่เห็นหรอว่ามันตอแหลเราขนาดไหนอะ !!! ” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ มันไม่มีคำอธิบายอะไรจากปากเพลงด้วยซ้ำ “ มึงแต่เพลงมันเพื่อนเรานะ ! ฟังมันก่อน ” ซอลพูดขึ้นพร้อมกับจับแขนฉันอีกครั้ง “ ฟังหรอ อะ ! ไหนมึงแก้ตัวมาดิ บอกมาดิว่ามึงไม่ได้เป็นแบบที่กูพูดอะ !!!! ” "......................" “ มึงตอบมาดิ !!!!! ” ฉันกระชากแขนเพลงไว้ก่อนจะเขย่าถาม และทันทีที่ฉันสบตาเพลง ฉันก็เห็นว่าในตาของมันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ฉันมองเพื่อนอึ้งๆ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือออกจากแขนมันเพราะความรู้สึกผิดมันค่อยๆ แทรกซึมเข้ามา ฉันต้องรู้สึกงั้นหรอ ฉันผิดอะไร ในเมื่อเพลงมันทำให้พี่ชายฉันเสียใจ “ มึง...กู” ฉันมองท่าทีอึกอักของเพลงที่เหมือนมันอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด พูดสิ พูดออกมา พูดว่ามึงไม่ได้ทำแบบนั้น…พูดออกมาได้ไหม…ฉันได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ หวังว่ามันจะไม่ใช่ ขอแค่ประโยคเดียวว่ามันไม่ได้ทำ ฉันก็พร้อมจะเชื่อเพื่อนของฉัน ขอแค่เพลงมันพูดออกมา… แต่สิ่งที่ฉันได้รับกลับมาคือความเงียบ และเพลงมันเอาแต่ก้มหน้า….. มันก็คือคำตอบแล้วสินะ… “ เหอะ !!!...ทีนี้พวกมึงเห็นยัง !! ” อารมณ์เดือดดาลมันปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ฉันหันไปถามเพื่อนอีกสองคนก่อนจะหันกลับมาเพลงแล้วพูด “ มึงจำไว้เลยนะเพลง สิ่งที่มึงทำลงไปมันทั้งน่าเกลียดและน่าขยะแขยงที่สุด !!!! ” ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะคว้าโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา ฉันมองเพลงอีกแค่แวบเดียวก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถ วันนี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนอะไรทั้งนั้น วิชาเอกก็วิชาเอกเถอะ แต่จะให้ไปเรียนทั้งๆ ที่อารมณ์แบบนี้ ฉันต้องอกแตกตายแน่ๆ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้ารีบวิ่งตามฉันมาก่อนที่มือเรียวจะคว้าข้อมือฉันไว้ให้หันไปเผชิญหน้า ซอลยืนหอบเหนื่อยอยู่ตรงหน้าฉันก่อนจะเอ่ย “ นา…มึงใจเย็นๆก่อนดิว่ะ !” ซอลพูดก่อนจะมองหน้าฉันด้วยสายตาเป็นห่วง ฉันรู้ดี เพื่อนแต่ละคนคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันเองก็ด้วย แต่อารมณ์ฉันตอนนี้มันไม่พร้อมจะคุยอะไรกับใครทั้งเลยจริงๆ “ มึง ปล่อยกู กูขออยู่กับตัวเองก่อน !”ฉันพูดพร้อมกับพยายามดึงมือเพื่อนออกจากข้อมือ “ นา !” “ ซอล กูขอร้อง...อย่าตามกูมาเลย กูไม่อยากทะเลาะกับมึงอีกคน...”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะมองหน้าซอล ฉันรู้ตัวเองดีว่าฉันเป็นคนแรง ยิ่งอารมณ์ตอนนี้ของฉันมันยิ่งไม่โอเค ขืนถ้าฉันยังพูดหรือยังแสดงอารมณ์อะไรออกไป มันก็ไม่มีผลดีกับใครทั้งนั้น “ มึงต้องขับรถดีๆ ต้องขับแบบมีสตินะ...”ซอลพูดด้วยน้ำดเสียงเป็นห่วงฉัน ฉันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะรีบขึ้นรถแล้วขับออกมา ในระหว่างทางที่ฉันขับรถออกมาตามทาง ในหัวฉันมันก็คิดถึงแต่เรื่องที่เพลงมันทำ คิดถึงความเจ็บปวดของพี่ชายฉัน คิดถึงคำพูดที่ฉันด่าเพลงไปแบบนั้น ทุกอย่างมันผสมปนเปอยู่ในหัวฉัน ฉันไม่รู้ควรจะเสียใจ เสียความรู้สึก หรือควรจะโกรธอย่างเดียวพอ รู้แค่ว่ามันอยากจะร้องไห้ เพลงเป็นเพื่อนที่ฉันรักและหวังดีกับมันมาตลอด ต่อให้ใครจะว่าร้ายมัน หรือรังแกมัน ฉันก็พร้อมจะชนกับคนที่ทำร้ายเพื่อนฉัน แต่ตอนนี้ เพื่อนที่ฉันรักกับทำให้พี่ชายฉันเสียใจ ฉันไม่เคยเห็นพี่ชายฉันเจ็บปวดเสียใจขนาดนี้มานานพอสมควรแล้ว นับตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งพี่ชายฉันไป...ก็มีเพลงที่เข้ามาทำให้พี่ชายฉันดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ดูมีความสุข ดูมีแรงบันดาลใจ แต่ตอนนี้ เพลงมันก็เป็นอีกคนที่ทำร้ายพี่ชายฉัน ! ฉันใช้มือปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ ก่อนจะพยายามตั้งสติแล้วขับรถ ครืดดดดด ครืดดดดด ฉันก้มหน้าลงไปดูโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ในช่องวางของก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่เหนือที่โทรเข้ามา ฉันเช็ดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตั้งสติก่อนจะกดรับสาย “ ค่ะพี่เหนือ...” ฉันพูดพร้อมกับพยายามควบคุมเสียตัวเองให้เป็นปกติ “ อยู่ไหน...” “ อยู่สี่แยกไฟแดงหน้ามอค่ะ...” “ ให้พี่ไปหามั้ย...”พี่เหนือพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง และพอฉันได้ยินแบบนั้น น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ แม่งก็พร้อมใจกันพรั่งพรูออกมา “ ฮึก ฮึก พี่เหนือ...” ฉันสะอื้นไห้พร้อมกับเรียกพี่เหนือเบาๆ “ ยัยเด็กดื้อ...หาที่จอดรถแถวๆ หน้ามอก่อน เดี๋ยวพี่ไปหา...” “ เดี๋ยวนาขับไปหาพี่เหนือก็ได้ ฮึก ...” “ ไม่ต้อง สติของเราตอนนี้มันไม่พร้อมสำหรับอะไรทั้งนั้น...” พี่เหนือพูดแค่นั้นก่อนจะวางสายไป ฉันก็ได้แต่ทำตามคำบอกพี่เหนือคือไปหาที่จอดรถ เพื่อนสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วรอพี่เหนือมาหา ฉันตัดสินใจมาจอดรถแถวๆ ปั้มใกล้ๆ มอ ก่อนจะนั่งรอพี่เขาในรถ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก๊อกๆ พรึบ ! ฉันสะดุ้งตัวตื่นหลังจากที่เผลอหลับอยู่ในรถ...ฉันหันหน้าไปมองที่กระจกก่อนจะเห็นร่างสูงกำลังก้มหน้าลงมามองฉันผ่านกระจกรถอยู่ด้านนอก ฉันดับเครื่องก่อนจะเปิดประตูออกจากรถ “ พี่เหนือ...”ฉันเอ่ยเรียกพี่เขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะมองหน้า “ กอดกันก่อนมั้ย....” พี่เหนือพูดแค่นั้นก่อนจะกางแขนออกช้าๆ ฉันฝืนยิ้มให้พี่เขาแล้วขยับตัวเข้าไปกอดพี่เขาไว้แน่น “ ไม่เป็นไรนะ...”คำปลอบโยนที่ส่งออกมาจากปากพี่เหนือมันมีอิทธิพล​ต่อความรู้สึกแันมากทีเดียว ฉันยืนกอดพี่เขาไม่นานก็ผละออกเพราะคนเริ่มมองกันเยอะแล้ว “ พี่เหนือมายังไง...”ฉันถามพี่เขาหลังจากที่พึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นรถพี่เหนือจอดแถวนี้ “ นั่งแท็กซี่มาอะ รถพี่จอดไว้ที่โรงบาล” “ ขอโทษนะ เลยทำให้พี่ต้องลำบากนั่งแท็กซี่มาเลย...” “ ไม่เป็นไรเลย...แล้วนี่จะกลับห้องหรือไปดูหนัง ?” “ กลับห้องได้มั้ย...” “ ได้ดิ แล้วแต่หมวย...” พี่เหนือพูดแค่นั้นฉันพยักหน้าให้พี่เขาก่อนจะให้พี่เหนือเป็นคนขับรถแทนฉัน ระหว่างทางที่นั่งกลับฉันนั่งเงียบมาตลอดทาง ในหัวห็วนเวียนคิดแต่เรื่องเดิมๆ พี่เหนือก็ไม่ได้เซ้าซี่ถามอะไรฉัน และมันทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณพี่เขาที่เข้ามาอยู่ในชีวิตผู้หญิงอย่างฉัน ในวันที่ฉันรู้สึกแย่ หรือต้องการกำลังใจจากใครสักคน พี่เขาจะเป็นคนๆ นั้นให้ฉันเสมอ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD