หลังจากที่ภูรีพาดาริกาแยกตัวมาจากลำธารแล้ว เขาก็ทำหน้าตาเคร่งเครียดมาตลอดทาง จนดาริกาอดถามไม่ได้
“พี่ภูไปพูดกับเขาอย่างนั้นทำไมคะ พูดแล้วก็มาทุกข์ใจอย่างนี้”
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ดานะสิต้องพามาเจอเหตุการณ์แย่ ๆ แบบนี้ พี่ขอโทษจริง ๆ” ดาริกายิ้มให้กับภูรี ก่อนจะตอบออกไป
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดาไม่คิดอะไรหรอก แต่ดาว่าเด็กคนนั้นคงต้องหึงพี่ภูกับดาแน่เลย” ภูรีส่ายหน้าทันที
“เป็นไปไม่ได้หรอกดา เขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว” ชายหนุ่มคิดอย่างเจ็บช้ำ เขาต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม ถ้าปล่อยนานไปกว่านี้ เขาเองนั่นแหละที่ต้องเจ็บปวดมากกว่าใคร
เหนือตะวันโทรศัพท์ไปบอกมารดาว่าคืนนี้จะไม่กลับไปที่บ้านสวน เพราะว่าเขาติดธุระ และธุระที่ว่าของเขานั้นก็คือเอื้อมดาวนั่นเอง เมื่อตอนกลางวันเขาก็ไม่ได้กลับมาดูหล่อน เพราะติดอยู่กับลำธาร ไม่รู้ว่าหล่อนเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเมื่อเช้าเขาเห็นว่าหล่อนไม่ค่อยสบาย
ชายหนุ่มขับรถเข้ามาจอดที่คอนโด ก่อนจะรีบตรงดิ่งไปยังห้องพักของตนเองที่อยู่ชั้นบนสุด เพียงเวลาไม่นานเหนือตะวันก็มายื่นอยู่ที่หน้าห้องพักของตนเอง เขาเปิดประตูห้องเข้าไป แต่ก็ต้องพบกับความแปลกใจ เมื่อภายในห้องพักของเขานั้นมืดมิดไปหมด ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมไม่เปิดไฟ อยู่ไปได้ยังไงมืด ๆ แปลกคนจริง” เหนือตะวันเอื้อมไปกดสวิตช์ไฟ ครู่เดียวมันก็สว่างทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มเดินเข้าไปยังห้องนอนของตนเองที่แยกออกมาจากห้องที่เอื้อมดาวอยู่ แต่ประตูสามารถเปิดถึงกันได้ ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานนักในการชำระล้างร่างกายใหม่ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว เขาก็เดินตรงไปที่ประตูห้องของเอื้อมดาว ก่อนจะเปิดมันเข้าไป
ความแปลกใจจู่โจมเขาอีกแล้ว ทำไมเอื้อมดาวถึงอยู่มืด ๆ อย่างนี้นะ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟ เขาจำได้ดีว่ามันอยู่ตำแหน่งไหนเมื่อไฟสว่างขึ้น สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ ร่างบางของเอื้อมดาวนอนหลับใหลอยู่บนเตียง ชายหนุ่มพ่นหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นหล่อนยังอยู่ นึกว่าหนีกลับบ้านไปซะแล้ว
เหนือตะวันทรุดตัวลงนั่งขอบเตียงข้าง ๆ ร่างบาง ดูสิเนี่ย ขนาดเขาเข้ามาถึงตัวแล้ว หล่อนยังไม่รู้สึกตัวอีก ชายหนุ่มเอื้อมมือหวังจะไปปลุกหล่อนให้ตื่นขึ้นมารับโทษทัณฑ์จากความแค้นของเขาอีก แต่พอมือของเขาสัมผัสกับร่างหล่อนเท่านั้น เขาก็ชักมือออกแทบไม่ทัน
“ตัวร้อนยังกับไฟ นี่เธอไม่สบายเหรอเอื้อมดาว” เหนือตะวันพึมพำออกมาอย่างตกใจ เขาเอื้อมมือไปสัมผัสหล่อนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ผลก็ดังเดิม หล่อนตัวร้อนเป็นไฟ
เขาถอนหายใจออกมาหนัก ๆ นี่เขาทรมานหล่อนมากไปหรือเปล่า ความจริงหล่อนไม่ได้รู้เรื่องสักนิด พ่อหล่อนต่างหากที่ต้องสมควรเป็นคนรับกรรม เหนือตะวันลุกขึ้นยืน เขามองหน้าเอื้อมดาวนิ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไป
ชายหนุ่มเดินหายออกไปสักพักก็กลับเข้ามาใหม่ พร้อมกับแก้วน้ำและยาลดไข้ในมือ เขาค่อย ๆ พยุงร่างของเอื้อมดาวที่ยังหลับใหลอยู่ให้ลุกขึ้นพิงหัวเตียง
“เอื้อมตื่นสิ ตื่นขึ้นมากินยาก่อน” เหนือตะวันแตะแขนกลมกลึงของเอื้อมดาวเบา ๆ เอื้อมดาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างอยากลำบาก หล่อนส่ายศีรษะไปมาอย่างแสนทรมาน
“เอากินยาเสียก่อน เดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้” เหนือตะวันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เอื้อมดาวรับยาจากเขามากินอย่างง่ายดาย ตอนนี้หล่อนไม่มีแรงแม้แต่จะพูดกับเขาด้วยซ้ำ
“ทีหลังไม่สบายก็บอก ฉันยังไม่อยากให้เธอตายง่าย ๆ เธอต้องอยู่รับโทษจากฉันอีกนาน” เหนือตะวันพูดใส่หน้าเอื้อมดาว ขณะประคองหล่อนลงนอนกับที่นอนอีกครั้ง เอื้อมดาวหันหน้าหนีเขา หล่อนเจ็บปวดจนไม่อาจจะรับมันไม่ได้อีกแล้ว
เหนือตะวันนั่งมองเอื้อมดาวจนหล่อนหลับไป ก่อนจะหายออกไปจากห้องอีกครั้ง และหนนี้เขามาพร้อมกับกระมังใส่น้ำใบเล็ก ๆ สีฟ้าอ่อนพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวในมือ ชายหนุ่มนั่งนิ่งอย่างชั่งใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจลงมือเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างของเอื้อมดาว
เหนือตะวันหายใจออกมาอย่างติดขัด เมื่อสายตาปะทะเข้ากับก้อนเนื้อนวลเนียนที่ถูกห่อหุ้มด้วยบราเซียลูกไม้สีหวานของเอื้อมดาวตรงหน้า อกอวบอิ่มที่ดันเนื้อผ้าขึ้นมานั้น ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ชายหนุ่มต้องรีบเบนสายตาไปทางอื่นทันทีเพื่อลดความต้องการจากภายใน ใจหนึ่งเขาก็อยากจะลุกขึ้น แล้วเดินหนีออกไปอยู่ซะข้างนอก แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่าเขาจะทิ้งหล่อนไปไม่ได้ หล่อนไม่สบายและเขาก็ควรสงบสติอารมณ์ให้ดี
ชายหนุ่มหันกลับมาหาร่างบางอีกครั้ง คราวนี้เขาพยายามไม่มองไปที่ดอกบัวงามคู่นั้น แต่พอเขาไม่มองที่ด้านบน สายตาเขาก็ไปปะทะเข้ากับส่วนกลางลำตัวของหล่อนที่มีเพียงอันเดอร์แวร์ลูกไม้สีเดียวกับเสื้อชั้นในของหล่อนปกปิดอยู่เท่านั้น เหนือตะวันแทบจะบ้า เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“โอ๊ย!!! ทำไมฉันต้องมาเจอเหตุการณ์บ้า ๆ อย่างนี้ด้วยนะ” เหนือตะวันพยายามบังคับตัวเองไม่ให้เตลิดไปกับความต้องการที่มันจู่โจมขึ้นมาอย่างที่สุด เขาจะไม่มีวันยอมเกลือกกลั้วกับลูกสาวคนที่มันฆ่าพ่อฆ่าแม่เขาเด็ดขาด แต่ร่างเปลือยเปล่างดงามของเอื้อมดาวที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น ทำให้เขาทรมานอย่างที่สุด
และสุดท้ายเหนือตะวัน ก็ตัดสินใจตลบผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ เพราะถ้าช้าแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาคงต้องตบะแตกอย่างแน่นอน
จากนั้นเหนือตะวันก็ค่อย ๆ เอื้อมมือเข้าไปในผ้าห่ม เช็ดตัวให้เอื้อมดาวอย่างสะเปะสะปะ ชายหนุ่มพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่สัมผัสหรือแตะต้องสิ่งสงวนของหล่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าเหนือตะวันจะทำไม่ได้อย่างที่ใจคิดนัก เพราะมือหนาใหญ่ของเขาแทบจะสัมผัสไปทุกส่วนสัดในร่างกายของเอื้อมดาว
และเมื่อช่วงเวลาที่แสนจะทรมานสำหรับเหนือตะวันสิ้นสุดลง เขาก็รีบเผ่นออกจากห้องนั้นไปอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งอยู่ในห้องนี้นานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งทรมานกับความต้องการมากขึ้นเท่านั้น