4
เลขาคนใหม่กับหัวใจดวงเดิม
ทิศเหนือนั่งอ่านใบสมัครงานของพริมาเขาแทบไม่อยากสัมภาษณ์คนอื่นอีกเลยเพราะเขาอยากให้เธอมาเป็นเลขาของเขาโดยไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรใครทั้งนั้นแต่เขาก็ต้องทำให้ดูสมเหตุสมผลแม้คำตอบในใจของเขาก็หนีไม่พ้นพริมาอยู่ดี
ทิศเหนือเรียกผู้มาสัมภาษณ์งานสองคนเข้ามาในห้องของเขาแล้วสัมภาษณ์พร้อมกันแล้วเขาก็ให้ออกไป “คุณสองคนออกไปได้การสัมภาษณ์งานเสร็จแล้ว ถ้าใครได้เข้าทำงานจะมีพนักงานฝ่ายบุคคลโทรหาครับ” ทิศเหนือบอกกับทั้งสองคนแล้วก็โทรหาเลขาชั่วคราวให้เรียกพริมาเข้ามาในห้องได้
“คุณพริมาคะ เชิญเข้าห้องสัมภาษณ์ได้แล้วค่ะ” พริมาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มบางตอบรับคำบอกของพนักสาวคนนั้น
พริมาเคาะประตูหน้าห้อง ตอนนี้หัวใจของเข็มทิศเต้นรัวไม่เป็นส่ำความตื่นเต้นประดังเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
“เข้ามาได้” ทิศเหนือนั่งหันหลังให้กับประตูหน้าห้องที่พริมากำลังเดินเข้ามา
“อนุญาตค่ะ” พริมาพูดแล้วก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของทิศเหนือเงียบๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องนั่งหันหลังด้วย
“ทำไมคุณถึงนั่งหันหลังอย่างนั้นล่ะคะ” พริมาที่นั่งรอให้ทิศเหนือหันกลับมาเขาก็ไม่หันกลับมาสักทีเธอจึงถามเขาขึ้นมา ทิศเหนือที่ตื่นเต้นจนลืมว่าต้องทำอะไรต่อ
“อ๋อ!! พอดีว่าผมไม่ค่อยสบาย” ทิศเหนือหันหน้ามาหาพริมา เมื่อเธอเห็นทิศเหนือเธอก็งงว่านี่เขาไม่สบายหรือเขาเป็นสายลับกันแน่เพราะเขาทั้งใส่หมวกทั้งใส่หน้ากาก
“ผมต้องขอโทษด้วยนะที่ผมใส่หมวกใส่หน้ากาก เรามาเริ่มสัมภาษณ์กันเลยดีกว่า” ทิศเหนือถามเธอไม่กี่คำถามซึ่งเธอก็ตอบเขาอย่างราบรื่น
“ผมรับคุณเข้าทำงานกับผม แต่คุณต้องเซ็นสัญญาการทำงานกับผมเป็นเวลา 1 ปีเพราะผมไม่อยากต้องมาเปลี่ยนเลขาบ่อยๆ ถ้าคุณโอเคก็เซ็นต์ตรงนี้คุณพร้อมเริ่มทำงานวันไหนก็มาได้เลย” ทิศเหนือพูดพร้อมกับยื่นเอกสารให้กับพริมา
พริมาหยิบเอกสารนั้นมาอ่าน “ทำไมต้องเซ็นต์สัญญาหนึ่งปีด้วยล่ะคะ”
“ก็อย่างที่ผมบอกไงเมื่อก่อนไม่มีสัญญาก็ไม่ตั้งใจทำงานอยากลาออกก็ลาออก ผมไม่อยากต้องมาเปลี่ยนเลขาบ่อยๆ” ทิศเหนือพูดออกมาด้วยเสียงที่เข้มขึ้นแต่ก็ยังคงสวมหมวกกับหน้ากากอยู่เหมือนเดิม
“ถ้าอย่างนั้นฉัน...” ทิศเหนือลุ้นมากๆ ว่าพริมาจะยอมข้อตกลงนี้หรือเปล่า
“ฉันตกลงเข้าทำงานและพร้อมเซ็นต์สัญญาหนึ่งปีค่ะ” พริมาพูดออกมาอย่างนั้นทิศเหนือแทบอยากกระโดดสูงๆ ด้วยความดีใจแต่เขาก็ทำได้แค่นิ่งไว้เท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เซ็นต์เอกสารให้เรียบร้อย ผมให้เวลาคุณเตรียมตัวมาทำงานสามวัน คุณพร้อมหรือเปล่า” ทิศเหนือปรับเสียงให้เข้มขึ้นจนพริมาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาดูแปลกๆ ไม่ปกติจนเธอเริ่มไม่มั่นในตัวของเขา
“ค่ะ ฉันอ่านและก็เซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้วค่ะ ฉันพร้อมเริ่มทำงานอีกสองวันนะคะเพราะพรุ่งนี้ฉันมีธุระเกี่ยวกับเอกสารที่ยังไม่เรียบร้อยดี
“โอเค ตามที่คุณบอกไว้เจอกันอีกครั้งวันเริ่มงาน หวังว่าคุณจะมีความสุขที่ได้มาทำงานที่นี่” ทิศเหนือที่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจของเขาเพราะตอนนี้เขาจะได้อยู่ใกล้กับพริมาและก็ใกล้มากๆ ใกล้จนเขานึกภาพไม่ออก
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนไว้เจอกันนะคะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกันนะคะ” พริมาพูดออกไปตามมารยาททั้งๆ ที่ในใจของเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าประธานบริษัทคนนี้ปกติดีหรือเปล่า
พริมาเดินมาจากห้องไม่ถึงห้าวินาที ทิศเหนือถอดหมวกถอดแมสแล้วโยนมันทิ้งพร้อมกับวิ่งรอบห้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความดีใจที่เขาทำสำเร็จแล้ว เขาจะได้อยู่ใกล้ๆ เธอแล้ว
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!! ขอโทษนะคะพอดีฉันลืมของไว้ในห้องของคุณค่ะ” พริมาเคาะประตูหน้าห้องพร้อมกับพูดขึ้นมา ทิศเหนือที่ได้ยินก็กุลีกุจอวิ่งไปนั่งหันหลังเหมือนเดิม
“เข้ามาเอาสิ” ทิศเหนือนั่งหันหลังด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้งเพราะครั้งนี้เขาไม่ได้ใส่หมวกแล้วก็ไม่ได้ใส่แมส ถ้าเธอเห็นเขาตอนนี้เขายังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเธอ
พริมาที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของทิศเหนืออีกครั้ง เธอมองไปเห็นหมวกที่เขาใส่อยู่มากองอยู่ที่พื้นข้างๆ กันก็มีหน้ากากที่ทิ้งอยู่ใกล้ๆ กัน พริมายิ่งสงสัยเข้าไปกันใหญ่ว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ และที่น่าสงสัยอีกก็คือเขานั่งหันหลังอีกครั้ง
“ฉันออกไปแล้วนะคะ” พริมาที่หยิบของที่เธอลืมแล้วก็บอกกับเขาว่าเธอจะไปแล้ว
“ครับ ไว้เจอกัน” ทิศเหนือยังคงทำเสียงเข้มอยู่เหมือนเดิม
“นี่เขาเป็นเจ้าของบริษัทหรือเป็นนักแสดงดูพิลึกคน” พริตาเดินมาถึงหน้าประตูก็บ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“นี่แกรู้เรื่องที่บอสกำลังจะหมั้นกับคุณดารันหรือเปล่า ฉันว่าคุณดารันก็เหมาะกับบอสดีอยู่หรอกแต่นิสัยนี่สิและอีกอย่างได้ยินมาว่าแม่บังคับให้หมั้นด้วยนะแก” พนักงานบริษัทสองสาวเดินซุบซิบกันซึ่งพริมาก็บังเอิญได้ยิน
“คนประหลาดๆ อย่างนั้นก็คงหาแฟนเองไม่ได้จนแม่ต้องหาให้สินะ ใครจะไปอยู่ด้วยได้แปลกพิลึกคน” พริมาพูดคนเดียวแล้วก็เดินไปพร้อมกับหัวเราะหึหึในลำคอ
พริมามานั่งรอพีรวัสที่ร้านข้าวใกล้ๆ บริษัทเพราะเธอเริ่มหิวและพี่ชายของเธอก็บอกว่าต้องรออีกสามสิบนาที
“หนูเอากระเพราะหมูกรอบเผ็ดๆ นะคะ” พริมาที่กลับจากต่างประเทศก็รู้สึกอยากกินอาหารรสจัดๆ ร่างกายจะได้กระปรี้กระเปร่า
“เอาไข่ดาวด้วยนะคะ” พริมาที่สั่งอาหารเสร็จพลันสายตาของเธอมองไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่เธอเห็นไม่ชัด
“ทำไมผู้ชายคนนั้นเหมือนพี่เหนือจังคงไม่ใช่หรอกคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก” พริมาพูดออกมาอย่างนั้นแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องเขาไม่วางตา