EPISODE – 04/1

3479 Words
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร รีบกดต่อสายหาคุณหญิงที่เพิ่งโทรเข้ามาทันที ตู๊ด ตู๊ด ผมรอสายอยู่ไม่นานปลายสายก็กดรับพร้อมกับเสียงเง้างอน [ไม่ทราบโทรมาหาใครคะ] นี่แหละคุณหญิงที่โทรมาเมื่อกี้ ‘คุณหญิง’ ที่มีศักดิ์เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดไอ้ซาดีนส์สุดหล่อคนนี้ไงครับ “โอ๋ๆ ไม่งอนน้า คุณหญิงโทรมาคิดถึงเขาล่ะสิ” ผมรีบออดอ้อนปลายสายออกไปแทบลนลาน แม่ผมชอบให้ผมอ้อนท่านน่ะ และถ้าใช้ไม้นี้ไม่ว่าแม่จะอารมณ์ไม่ดีขนาดไหนก็จะกลายเป็นคนอารมณ์ดีทันที [ไม่ต้องมาอ้อนคุณหญิงเลย งอนแล้วนะ] [โทรไปตั้งหลายสายไม่ยอมรับ ทำไม! ควงสาวไหนอยู่ล่ะ] นี่ถ้าผมเปิดสปีกเกอร์คนอื่นๆ ที่ได้ยินคงคิดว่าผมกำลังคุยกับแฟนอยู่เป็นแน่ “ที่ไหนล่ะคุณหญิง ซีนส์กำลังจะขึ้นเรียนต่างหากครับ” ใครจะกล้าบอกว่ากำลังจินตนาการเรื่องใต้สะดือให้แม่ตัวเองฟังล่ะครับ ท่านยิ่งเคี่ยวเรื่องผู้หญิงกับผมอยู่ด้วย มีหวังคอขาดอย่างเดียว [เสาร์นี้ทำตัวให้ว่าง แล้วกลับมาหาคุณหญิงที่บ้าน ห้ามมีข้อแม้!] ผมกำลังจะอ้าปากบอกว่าเสาร์นี้มีนัดแล้ว แต่แม่ก็คือแม่ ทั้งเจ้าระเบียบ เผด็จการแถมยังใหญ่สุดในบ้านด้วย มีหรือว่าไอ้ซาดีนส์คนนี้จะกล้าหือ “แต่ซีนส์มีธุระนะครับคุณหญิง ขอเป็นวันหลังได้มั้ย” ออดอ้อนเข้าไว้ น้ำเสียงน่ะทำให้น่าสงสารที่สุดไอ้ซาดีนส์ [ธุระกับใครล่ะรอบนี้ น้องฟีล น้องหวาน หรือน้อง..] “ว่างครับ วันเสาร์เจอกัน แค่นี้นะครับซีนส์ต้องขึ้นเรียนแล้ว รักนะจุ๊บๆ” ผมรีบพูดแทรกแม่บังเกิดเกล้าขึ้นมาทันที ถึงจะรู้ว่ามันเป็นการเสียมารยาทแต่ถ้าให้แม่ผมร่ายรายชื่อพวกสาวๆ ในสต็อกผมออกมานะ มีหวังวันนี้ก็คงไม่หมด แม่ผมนี่ก็ช่างรู้ไปเสียหมดทุกเรื่องจริงๆ ชื่อที่ท่านเอ่ยมาก่อนหน้ามันเป็นเรื่องจริง มีอยู่จริง และผมเคยคั่วจริงๆ แม่ผมน่ากลัวมั้ยล่ะ จะบอกอะไรให้ขนาดป๊ายังไม่กล้าหือกับแม่เลย ท่านถึงได้ตั้งฉายาให้แม่ว่า ‘คุณหญิง’ ยังไงล่ะ หลังจากที่วางสาย ผมก็กำลังจะหันไปสวดไอ้การ์เซียเรื่องคลิปที่ยัยบ้านั่นอัดต่อ แต่แค่อ้าปากยังไม่ทันจะเอ่ยสักคำ ไอ้การ์เซียก็ดูรีบร้อนลุกขึ้นวิ่งไปทางตึกเรียนทันที “อ้าวเฮ้ย! มึงจะรีบไปตามควายที่ไหนวะ กลับมาเลยนะมึงอย่าเพิ่งชิ่งสิวะ!” ผมตะโกนไล่หลังไอ้การ์เซียออกไป แต่แทนที่มันจะหยุดฝีเท้านั่น มันกลับยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายผมทั้งๆ ที่สองขายาวๆ นั่นยังก้าวไปข้างหน้า เออ! ให้มันได้แบบนี้เพื่อนผม ผมเลิกสนใจไอ้การ์เซียพร้อมกับคิดเรื่องจะแก้เผ็ดยัยตัวแสบและเอาคลิปที่มันไม่มีมูลความจริงเรื่องสิบแปดบวกนั่นอย่างที่เธอมโนคืนมายังไงดี โทรศัพท์ในมือผมก็สั่นอีกครั้ง พร้อมกับข้อความไลน์จากไอ้ขันที ขันที ฟรีสไตล์ : มึงไม่ขึ้นเรียนคาบนี้เหรอวะ ขันที ฟรีสไตล์ : เดี๋ยวจารย์เพ็ญศรีก็กินหัวมึงหรอก ไอ้ฉิบหาย! ผมรู้แล้วว่าไอ้การ์เซียมันรีบไปตามควายที่ไหน ที่แท้มันก็รีบไปเข้าคาบเรียนสุดโหดนี่เอง ไอ้เพื่อนเวร! แล้วไม่เรียกกูสักคำ อ้าว! ยังๆ ยังจะนั่งนิ่งอีก ขยับก้นสิครับไอ้ซีนส์ แล้วไหนไอ้ขันทีมันบอกวันนี้ไม่มาเรียนแล้ววะ สงสัยคงจะกลัวจารย์เพ็ญศรีเหมือนกันสิท่า [End part] เห้อออ~ ฟู่~ เสียงถอนหายใจฉันเองแหละ ก็ไม่มีอะไรมาก ฉันกำลังนั่งกลุ้มอยู่ไง จำเมื่อวันก่อนได้มั้ย? ที่ฉันไปเจอไอ้หัวขาวกำลังทำเรื่อง... เออ แบบที่ทุกคนคิดนั่นแหละ ไอ้เรื่องหน้าตึกศิลป์นั่นแหละ แค่คิดฉันยังรู้สึกกระดากปากเลย “เป็นเอามากนะเพลย์น้อย” ยีนส์ที่นั่งเล่นมือถืออยู่โซฟาที่ติดกับปลายเตียงนอนเอ่ยขึ้น “แกดูสิ ดู!” ฉันเอามือจิ้มจอโน๊ตบุ๊คที่เข้าเว็บบอร์ดของมหาลัยจึกๆ ให้ยีนส์มันสนใจ “เห็นแล้วเหอะ!” แล้วดูเสียงตอบกลับแบบเบื่อหน่ายนั่นคืออะไร “เห็นแล้ว? แล้วแกไม่โมโหเหมือนฉันหรือไง” ฉันทำปากอมลมเมินหน้าหนีเพื่อนรักด้วยท่าทางงอน “โมโหทำไม ฉันไม่ได้เป็นคนลงคลิปนั่นสักหน่อย เธอน่ะฆ่าตัวตายเองชัดๆ” ฮือๆ ซ้ำเติม! ใครมันจะไปรู้ล่ะ การที่ฉันเอาคลิปที่ถ่ายไอ้หัวขาวกับเพื่อนของเขาในวันนั้นมาประกาศลงเว็บบอร์ดของมหาลัยโดยการตั้งชื่อกระทู้ว่า ‘วอนสาวๆ ตาสว่าง’ ‘พ่อหนุ่มแอ๊บแมนขวัญใจทั้งมหาลัยคือ คิงส์ หรือ ควีน กันแน่’ เนี่ย! แค่เนี้ยะ แล้วรู้มั้ยว่าผลตอบรับมันเกินคาดจริงๆ 1,299 คอมเมนต์ที่ตอบใต้กระทู้ฉันในเวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำต่างพร้อมใจกันออกอาการเดียวกันคือ ‘ด่าเละ!’ และไม่ใช่เละธรรมดานะ เละแบบโคตรพิเศษไข่เลเวลสิบฟองอัป “ฉันจะทำยังไงดียีนส์” ในเมื่อยีนส์ไม่ยอมเดินมาหาฉันที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ฉันเลยคลานตัวเรื้อยลงไปหาเพื่อนรักแทน เอาคางน้อยๆ เกยบนไหล่ซ้ายยีนส์ คลอเคลียเหมือนแมวน้อยกำลังหิวนม “จักจี้น่า!” ความลับยีนส์มันเลย ยัยนี่บ้าจี้ อย่าไปแอบบอกใครล่ะ! “ยีนส์จ๋า ยีนส์คนสวย น้องเพลย์จะทำไงดีอ่า~” ฉันยังคงอยู่ท่าเดิม เพิ่มเติมคือถูไถคางมนๆ ของตัวเองไปมา “เฮ้ย! บอกว่าอย่าเล่นมันจักจี้” ไม่อะ! ไม่เลิก ถ้าแกไม่ยอมช่วยฉัน “เออๆ พอเลย แกก็แค่ไปลบกระทู้ออกก็จบป้ะ?” ยีนส์พูดพร้อมกับใช้ฝ่ามือผลักหน้าผากฉันออกจากไหล่เธอ พร้อมกับเอี้ยวใบหน้าสวยคมหันมามองหน้าฉัน “ไม่อะ ไม่อยากลบ อยากหาแนวร่วมมากกว่า” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธคำแนะนำยีนส์ที่พร่ำบอกฉันมาหลายรอบแล้ว ยัยนี่ไม่รู้อะไร กว่าฉันจะได้คลิปเด็ดนั่นมาฉันเหนื่อยแค่ไหน ต้องลงทุนลงแรงตามไอ้หัวขาวนั่นเกือบสี่วันได้ กว่าจะได้โอกาสที่พวกเขาทำอะไรอุบาดๆ สักที “ยัง ยังอีก!” เสียงแข็งๆ มาพร้อมกับเอฟเฟคสายตาที่คาดขึง “...” ฉันทำได้เพียงแค่เบ้ปากเล็กน้อย พร้อมกับถอนหายใจฟืดยาว “ดีนะที่แกยังฉลาดพอ ใช้แอคเคาต์ปลอมอัปคลิปนั่นลง” อย่างที่ยีนส์มันชมนั่นแหละ ฉันฉลาดพอ ถึงแม้อยากให้คนทั้งมหาลัยรู้ว่าคนที่ทำให้พวกหล่อนๆ ตาสว่างคือ น้องเพลย์เยอร์น้อยคนสวยนี้แค่ไหน แต่ฉันเป็นพวกชอบปิดทองหลังพระ เลยไม่อยากเปิดเผยตัวตน “ยีนส์จ๋า... นะๆ” ฉันเปลี่ยนเป็นลงไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกับยีนส์พร้อมกับกอดเอวบาง เอาหน้าซบหน้าอกหน้าใจที่นุ่มนิ่มๆ ของเพื่อนรักเพื่อออดอ้อน “ไม่ มี ทาง” ยีนส์รู้ทัน เธอรีบปฏิเสธคำขอร้องฉันแทบไม่ต้องคิด โด่! ก็แค่จะให้ปลอมแอคเคาต์หลายๆ แอคเคาต์เพื่อที่จะไปปั่นเมนต์เห็นด้วยกับฉันแค่นั้นเอง ฉันสมัครเองมั่วจนเว็บบอร์ดจะบล็อกไอพีอยู่แล้ว “ชิ งอน” ไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย ไปหาแนวร่วมคนใหม่ก็ได้ Rrrr ทว่าฉันที่กำลังจะเข้าไลน์เพื่อส่งข้อความไปหาแนวร่วมน้องรักอย่างตาโต เสียงโทรศัพท์ในมือก็แผดเสียงลั่นขึ้นมาซะก่อน ‘แม่เล็กสุดเยิฟ’ ชื่อแม่อีกคนของฉันขึ้นโชว์เด่นหลา ไม่ต้องปล่อยให้ปลายสายรอนาน นิ้วเรียวสวยรีบสไลด์หน้าจอเพื่อรับทันที “สวัสดีค่ะแม่เล็ก คิดถึงน้องเพลย์ล่ะซี้~” ทักทายปลายสายเสียงอ้อนๆ แต่สายตาฉันกลับมองยีนส์ด้วยความแง่งอน [คิดถึงสิคะ แม่เล็กกลัวน้องเพลย์จะไปเที่ยวทำใครเขาเดือดร้อน] แม่นมาก! เหมือนแม่ฉันรู้เห็นสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้เลยอะ “โธ่! แม่เล็กอะ!” น้ำเสียงฉันเศร้าสลดลงทันทีที่ถูกจี้ใจดำ ฉันได้ยินเสียงยีนส์หัวเราะเยาะฉันเบาๆ พร้อมกับทำปากขมุบขมิบ ‘สมน้ำหน้า โดนด่าใช่ม๊า~’ ดูเพื่อนฉันสิ! ช่างแดกดัน [วันศุกร์นี้น้องเพลย์ไม่มีเรียนใช่ไหมคะ แม่เล็กโทรถามยีนส์มาค่ะ] ยังไม่ทันเอ่ยถามว่าแม่ฉันรู้ได้ยังไง ท่านก็พูดเองตอบเองเฉยเลย “ทำไมต้องโทรถามยีนส์ด้วยคะ?” น้อยใจของแท้เลยอะ ทำไมมีอะไร ทั้งป๊าและแม่เล็กต้องโทรหาเพื่อนฉันก่อนทุกทีเลย [โอ๋ๆ ไม่น้อยใจนะคะคนสวยของแม่เล็ก] เนี่ย! ก็เป็นเสียแบบเนี๊ย! “แล้วตกลงวันศุกร์มีอะไรเหรอคะ” เพราะแค่แกล้งงอนไม่ได้งอนจริงเลยปรับเสียงให้เป็นโทนปกติแล้วถามท่านไป [แม่เล็กกับคุณพ่อมีเรื่องจะปรึกษาน่ะ ข่าวดีมากๆ ด้วย] หืม! ข่าวดีด้วยเหรอ? ชักอย่างรู้แฮะ! “ข่าวดีของเพลย์หรือว่า... แม่เล็กจะมีน้องให้เพลย์คะ” พูดไปก็ยิ้มไป ความฝันฉันคืออยากมีน้องสาวน่ะ ถึงแม้ถ้ามีตอนนี้ขึ้นมาจริงๆ อายุจะห่างกันราวกับน้าหลานฉันก็จะเอา [อันนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอกจ๊ะ!] เสียงปนเศร้าของแม่เล็กทำให้ฉันรีบยกมือตบปากตัวเองทันที ลืมไปเลยว่าแม่เล็กท่านไม่สามารถมีลูกได้ เพราะท่านเคยแท้งมาก่อน “เพลย์ขอโทษค่ะ” น้ำเสียงสำนึกผิดรีบหลุดออกจากปากฉันทันที [ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่เล็กไม่ได้โกรธหรือว่าอะไรน้องเพลย์เลย เอาเป็นว่าวันศุกร์เราเจอกันนะคะ เห็นคุณพ่อเราบอกจะให้คนไปรับ] “เพลย์กลับพร้อมยีนส์วันพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ เห็นยีนส์บอกที่บ้านเรียกตัวกลับเหมือนกัน เราเลยตกลงกันว่าเลิกเรียนแล้วจะกลับทันที” [แต่มันไกลนะลูก ขับมอเตอร์ไซค์กลับแบบนั้นเมื่อยตูดกันพอดี ยีนส์ก็ตัวเล็กนิดเดียวขับหลายๆ ชั่วโมงอันตราย ถ้างั้นแม่เล็กให้คนไปรับพรุ่งนี้เย็นเลยแล้วกันนะจ๊ะ ห้ามดื้อ!] แม่เล็กรู้ทันฉันอีกแล้ว ท่านรีบพูดดักทางแบบนี้จะให้ฉันทำยังไงล่ะ นอกจากต้องตอบตกลง หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยแม่เล็กเลยขอวางสายไป “มีอะไรเหรอ เดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็ทำหน้าซังกะตาย” ยีนส์เดินมาหาฉันที่ตอนนี้นั่งแหมะอยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก “แม่เล็กโทรมาบอกให้กลับบ้านวันศุกร์น่ะ” “แต่ฉันบอกท่านว่าจะกลับพร้อมแก เอามอไซค์ไป” “โดนบ่นกลับว่างั้น?” ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยค ยีนส์ก็แย่งพูดขึ้นมา “อื้ม ท่านบอกสงสารแกน่ะ ตัวก็เล็กขาดสารอาหารขนาดนี้ กลัวจะพาเจ้าหญิงน้อยของท่านกลับไม่ถึงบ้าน” ฉันทำสายตาละห้อยให้ดูน่าสงสารพร้อมคำพูดเสริมเติมแต่งที่คนฟังรู้ได้ในทีว่าฉันมันแหลแต่งอะไรเข้าไปบ้าง “ถ้าแม่เล็กพูดแบบนั้นน้ำคงท่วมกรุงเทพแล้วล่ะ” เพื่อนฉันมันไม่ได้โง่ ถึงจะดูไม่ออกว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนเรื่องแต่งจากฉัน “สรุปท่านจะให้คนมารับพวกเราแทน แกว่าไงอะ!” ฉันเลิกเล่นหันไปขอความเห็นจากยีนส์ “เอางั้นก็ได้ แกก็แวะไปส่งฉันที่บ้านก่อนแล้วกัน” ยีนส์เป็นคนง่ายๆ แบบนี้แหละ นิสัยออกจะแมนๆ ด้วยซ้ำ อะนะ! ดูจากสไตล์การชอบรถของเธอทุกคนก็คงรู้กันอยู่แล้วแหละ Thursday @บ้านสวัสดิ์รุ่งโรจน์ หลังจากที่ฉันให้คนขับรถแวะไปส่งยีนส์ที่อีกหมู่บ้านเสร็จ ตอนนี้ลุงจุนคนขับรถเก่าแก่ของป๊ากำลังเคลื่อนตัวรถจอดเทียบบันไดบ้านหลังใหญ่ตระง่านสีขาวสะอาดตา ไม่ได้กลับมาแค่เดือนเดียว รู้สึกเหมือนบ้านจะหลังใหญ่ขึ้นไปมั้ยนะ “คุณหนูเพลย์” เสียงหย่อนยานของแม่นมวัยหกสิบห้าปีที่ยังกระปรี้กระเปร่าวิ่งเข้ามาโอบกอดฉันแน่น คล้ายกับคนไม่เจอกันแรมปี “คิดถึงนมจันทร์จังเลยค่ะ” ฉันกอดตอบนมจันทร์ หอมแก้มท่านเบาๆ “ไม่คิดถึงป๊าบ้างเหรอเรา” เสียงอันทรงอำนาจของป๊าดังขึ้นด้านหลังนมจันทร์ ท่าทางทะมัดทะแมง ร่างสูงไม่อ้วนไม่ผอม ใบหน้าหล่อเหลาในแบบคนมีอายุเดินควงสาวสวยวัยสี่สิบต้นๆ ลงบันไดหน้าบ้านมาหาฉันกับนมจันทร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแม้จะติดงอนนิดๆ “โอ๋ๆ คนแก่นี่ขี้น้อยใจกันทุกคนมั้ยคะ” ฉันผละออกจากนมจันทร์วิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ ท้ายประโยคก็แอบขยิบตาใส่แม่เล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ “ใครว่าป๊าแก่ นี่ดู! แข็งแรงอุ้มเราขึ้นได้แล้วกัน” “ไม่เอาค่ะ เพลย์เชื่อแล้ว” ป๊าฉันจะโชว์พาวด์ว่างั้น? คิดว่าจะอุ้มฉันขึ้นเหรอ ฉันไม่ใช่เด็กๆ เหมือนตอนสี่ห้าขวบแล้วนะ ฉันรีบวิ่งหนีคุณพ่อมาแอบอยู่หลังแม่เล็ก กอดเอวบางทางด้านหลัง หอมแก้มท่านฟอดใหญ่ ออดอ้อนให้ท่านช่วยกำราบคุณพ่อขี้แกล้งลูกสาว “พอกันเลยสองพ่อลูก ป้ะ! เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าค่ะ” แม่เล็กปรามฉันกับคุณพ่อ แล้วก็โอบเอวฉันพาเดินเข้าบ้านโดยที่มีคุณพ่อและนมจันทร์เดินตามหลังมา พวกเราสามคน ฉัน ป๊า แม่เล็ก กำลังนั่งกินอาหารว่างที่พี่แจ๋นหลานนมจันทร์ยกมาให้ “ไหนคะข่าวดีที่แม่เล็กว่า” พออิ่มแล้วฉันเลยเป็นคนทวงถามข่าวดีที่แม่เล็กเคยบอกผ่านโทรศัพท์เมื่อวันก่อน “แหม! ให้พ่อกับแม่หายใจก่อนไม่ได้หรือไงเรา เห็นใจคนแก่บ้างเถอะ” ฉันทำแก้มป่องใส่คุณพ่อแล้วปากมันก็ดันหลุดพูดแซวท่าน “ไหนใครน๊า~ ที่เมื่อกี้บอกว่ายังไม่แก่ ยังจะอุ้มเพลย์โชว์คนอื่นๆ อยู่เลย” แปะ~ จบคำแซวฉัน เสียงฝ่ามือน้อยๆ ของแม่เล็กที่ตีเบาๆ ที่ต้นแขนฉันเป็นเชิงปรามสิ่งที่ทำลงไปก่อนหน้า ท่านจ้องฉันเขม็งบอกทางสายตาว่า ‘นิสัยไม่ดีเลยค่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมย้อนคุณพ่อแบบนั้น’ ฉันคิดว่านะ “แฮร่ๆ” ยกมือลูบต้นแขนจุดที่แม่เล็กตีเบาๆ เหมือนมันเจ็บมากมายแก้อายที่ตัวเองเผลอทำนิสัยไม่ดีออกไปจริงๆ “ช่างลูกเถอะ!” คุณพ่อพูดกับแม่เล็กปนยิ้มขำให้กับความเจ้าระเบียบของแม่เล็กน้อยๆ “ค่ะคุณ” แม่เล็กยิ้มกลับให้คุณพ่อ พร้อมกับเขยิบเข้ามาใกล้ฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ “ตอนนี้น้องเพลย์ยังตามหาเจ้าชายในฝันคนนั้นอยู่มั้ยคะ?” แม่เล็กเล่นเปิดด้วยคำถามที่รู้ทั้งรู้ว่าฉันจะตอบอะไรออกไปแบบนี้เลยเหรอ “แน่นอนสิคะ เพลย์ไม่มีทางลืมเจ้าชายคนนั้นได้หรอกค่ะ” เสียงจริงจังของฉันทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหันไปมองหน้าพร้อมกับยิ้มให้กันเหมือนถูกอกถูกใจอะไรสักอย่าง “มีอะไรเหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วแบบงงงวยถามออกไป “แม่เล็กจะบอกว่าคุณพ่อเราหาเจ้าชายน้องเพลย์เจอแล้วไงคะ” คำบอกเล่าของแม่เล็กทำให้ฉันสตั้นไปหลายวินาที เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งแล้วคิดว่าฝันไปน่ะ เคยเป็นกันมั้ย? “วะ ว่าไงนะคะ... แม่เล็กหาเขาเจอแล้วเหรอ? เรื่องจริงใช่ไหมคะ” รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนคนสติหลุดมากแค่ไหน “ใจเย็นๆ ลูก ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เพราะสิ่งต่อไปที่หนูต้องรู้จะยิ่งน่าทึ่งกว่านี้หลายเท่า” เสียงของคุณพ่อทำให้ฉันรีบกระพริบตาถี่ๆ เรียกสติตัวเองกลับมาสิงร่างอีกครั้ง จากท่าทางที่อึ้งอยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ฉันอึ้งกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อลองทวนคำพูดก่อนหน้าคุณพ่อ ยังมีอะไรที่จะทำให้ฉันช็อกไปมากกว่าการที่พวกท่านตามหาคนๆ นั้นเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนเจอได้อีกเหรอ “บอกเพลย์มาเลยค่ะ เพลย์พร้อมแล้ว” ฉันทำท่าสูดอากาศเข้าปอด นั่งตัวตรง ท่าทางพร้อมฟังสิ่งต่อไปอย่างตั้งอกตั้งใจ “น้องเพลย์ปีนี้จะ 21 แล้วใช่ไหมลูก” แม่เล็กที่นั่งข้างๆ ฉันพูดขึ้น “…” ฉันนั่งนิ่งไม่มีปากเสียง ทำเพียงแค่พยักหน้าตอบท่านไป “เมื่อสามเดือนก่อนคุณพ่อหนูท่านไปเจอเพื่อนเก่าที่อังกฤษมา เลยรู้ว่าคนที่ช่วยหนูไว้เมื่อสี่ขวบเป็นลูกชายของเพื่อนคุณพ่อเอง” อึ้ง! ช็อกอย่างที่คุณพ่อบอกไว้ก่อนหน้าจริงๆ คือทำไมมันถึงได้โลกกลมอีกแล้ว นี่สินะเขาเรียก พรมลิขิต “ทางนั้นเขาเลยอยากได้ลูกสะใภ้ คุณพ่อก็เห็นว่าน้องเพลย์ยังไม่มีใครถ้าหากจะให้เราทั้งคู่ลองคบๆ ดูใจกันไปก่อน น้องเพลย์คงไม่ขัดข้องใช่ไหมจ๊ะ” เต็มใจเลยค่ะ เพลย์ให้ทั้งตัวเลย เพลย์ยอม~ “เดี๋ยวนะคะ” แต่แทนที่จะตอบสิ่งที่ใจคิด ฉันกลับเบรกสิ่งที่เกือบจะหลุดปากบอกพ่อกับแม่เล็กไป “อะไรลูก หรือว่าหนูมีแฟนใหม่แล้ว” คำถามของคุณพ่อทำให้ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ใช่ค่ะ เพลย์ยังไม่ได้คบใครทั้งนั้น แต่เพลย์สงสัย” ฉันทำท่าทางคิดหนักอีกครั้งก่อนจะเอ่ยออกไป “แม่เล็กบอกว่าคุณพ่อเจอเพื่อนเก่าที่อังกฤษหรือว่าเจ้าชายของเพลย์จะเป็นลูกครึ่งเหรอคะ เพลย์ก็จำหน้าตาเขาไม่ค่อยได้แล้วด้วย” ถึงจำได้ก็คงไม่เหมือนเดิมหรอกนี่มันผ่านมาตั้ง 17 ปีแล้วนะ “เปล่าหรอก พี่เขาเป็นคนไทยแท้เหมือนหนูนั่นแหละ เพียงแต่พ่อเขาไปทำธุระที่นู่นแล้วบังเอิญเจอกัน พ่อเลยเล่าเรื่องของหนูให้เพื่อนพ่อฟัง เขาเลยบอกว่าตอนนั้นลูกชายเขาก็ได้ช่วยเด็กผู้หญิงมัดแกละไว้ตอนที่กำลังจะถูกสุนัขขย้ำ” โป๊ะเชะ! นั่นแหละเจ้าชายของฉัน “ตอนนั้นพ่อไม่ทันได้ถามเด็กคนนั้นว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่งั้นหนูคงไม่ต้องทนรอพี่เขามาถึง 17 ปีแบบนี้” น้ำเสียงคุณพ่อเหมือนกับรู้สึกผิด “ไม่ใช่ความผิดป๊าสักหน่อย ตอนนั้นใครๆ ก็ต้องคิดเรื่องลูกตัวเองก่อนใช่ไหมล่ะคะ” ฉันรีบเดินไปนั่งข้างๆ คุณพ่อแทน โอบกอดท่านไว้คล้ายปลอบใจไม่ให้ท่านคิดมาก “เจ้าชายเพลย์ยังโสดอยู่ใช่ไหมคะ เขายังจะรอเพลย์อยู่เหรอ” ฉันพูดเหมือนกับถามพ่อตัวเอง แต่ลึกๆ แล้วฉันพูดกับตัวเองเสียมากกว่า “โสดสิ ถ้าไม่โสดแล้วคุณลุงเขาจะให้พ่อมาตามหนูไปดูตัวเหรอ” ฉันรีบสะดุ้งตัวจากอ้อมกอดผู้เป็นพ่อทันที ตกใจปนเขินอะ จู่ๆ คุณพ่อก็พูดซะตรงเชียว “หน้าแดงเชียว” เสียงคุณพ่อแซวฉัน แถมแม่เล็กก็ยังส่งยิ้มหวานมาล้อฉันอีก “แล้วเจ้าชายเพลย์หล่อมั้ยคะ เท่เปล่าอะ” โอ๊ย! อยากเห็นหน้าแล้ว “น้อยๆ หน่อยเรา วันที่ไปเจอพี่เขาก็อย่าทำตัวแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวผู้ชายวิ่งหนีเอา” คุณพ่อพูดแซวฉันยิ้มๆ ฉันไม่สนใจท่านแล้วนาทีนี้ ความคิดมันเตลิดไปไกลแล้ว อยากให้ถึงวันดูตัวเร็วๆ จังเลย เพลย์เยอร์คนนี้แหละ จะจับเจ้าชายให้อยู่หมัดเลย ‘แล้วเจอกันนะคะ ว่าที่คู่หมั้นของฉัน’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD