-ที่บ้านกันตพงษ์
"กัน..ไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอลูก"....คุณนายกานดาเอ่ยถามลูกชายด้วยความห่วงใย..
"ไม่แล้วครับแม่ผมรีบไปรับน้องที่บ้าน บอกแม่กับพี่ชายน้องไว้แล้ว... ผมไปนะครับ รักแม่ครับ"..กันตพงษ์บอกมารดาพร้อมกับยกมือไหว้มารดาเหมือนที่เคยทำทุกครั้งก่อนออกไปทำงานแต่วันนี้มีพิเศษเพราะลูกชายตัวดีของเธอโอบกอดอย่างเอาใจซึ่งลูกชายคนโตของเธอไม่เคยอ้อนแบบนี้มานานแล้ว...จะขออะไรอีกล่ะ ลูกชายฉัน...คุณนายกานดาได้แต่พึมพำในใจ
บ้านต้องตา
"อ้าวพ่อกัน มารับน้องเหรอจ๊ะ นายต่อนี่ก็อะไรก็ไม่รู้ คนขับรถที่บ้านก็มี ตัวเองไม่อยู่ก็ยังไปรบกวนเพื่อนไปรับไปส่งน้องไปโรงเรียนอีก...แม่เกรงใจจัง.. อ้อกินอะไรมารึยังลูก แม่เตรียมกาแฟ แซนด์วิช แล้วก็ผลไม้สดไว้ให้ค่ะ เห็นต่อบอกแม่ไว้ อ้อ ข้าวต้มก็มีนะ" ตรีทิพย์บอกอย่างจริงใจ "ไม่เป็นไรครับแม่ ผมง่าย ๆ กาแฟกับแซนด์วิชก็ได้ ปกติก็กาแฟขนมปัง" กันตพงษ์บอกว่าที่แม่ยายไปอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน เค้ารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้มาบ้านหลังนี้ เหมือนอยู่บ้านตัวเองยังไงก็ไม่รู้
-อีกด้าน
...น้องต้อง น้องต้อง เสร็จหรือยังลูก พี่กันมาแล้วอย่าให้พี่เค้ารอนานน๊าลูก..มากินข้าวได้แล้วจะได้รีบไปเดี๋ยวจะสายเอาน๊าลูก ตรีทิพย์ร้องเรียกลูกสาวตัวดีเพราะเกรงใจเพื่อนลูกชายที่ต้องไปส่งลูกสาวตัวดีของเธอที่โรงเรียนแล้วก็ต้องรีบไปทำงานของตัวเองเช่นกัน
"เสร็จแล้วค่า น้องเสร็จตั้งนานแล้ว น้องไปเล่นกับต้องรักมา" ต้องตาขานรับมารดาเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับอุ้มเจ้าตูบวัยสองเดือนเศษ ๆ ชูขึ้นให้มารดาดู..
ตายแล้วชุดเปื้อนขนหมากันพอดี ยัยคนนี้นิ่จริง ๆ เล้ยลูกเอ้ย..ไปล้างไม้ล้างมือแล้วไปกินข้าวเลย..พี่กันกำลังกินกาแฟรออยู่...มะเอาต้องรักมาให้แม่" นางพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปอุ้มเจ้าลูกหมาขนปุยมาไว้แนบอก
ส่วนคนที่แอบมองได้แต่ยกยิ้มมุมปาก เป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่น ชายหนุ่มมองภาพนั้นแล้วเห็นอนาคตของเค้าและน้องน้อยร่างบาง...ถ้าเป็นไปได้เค้าสมหวังเค้าคงเป็นผู้ชายที่มีความสุขมากจริงจริง
เวลาผ่านไปต้องตาสามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังและมีคุณภาพได้อย่างที่ครอบครัวต้องการ
เวลาผ่านไปต้องตาสามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังและมีคุณภาพได้อย่างที่ครอบครัวต้องการ
-ที่มหาวิทลาลัยJ
"ต้อง ต้อง ยัยต้องตา ทางนี้"....นุชธิดา โบกมือเรียกเพื่อนรักของเธอ เธอเองก็สามารถสอบเข้าเรียน ม.แห่งนี้ได้อย่างหวุดหวิด อ่านหนังสือเกือบขิต
"เออ เออ" ต้องตายกมือขึ้นเล็กน้อยตอบเพื่อนรัก"มานานรึยัง".."สักพักปะหาไรกินกัน"..."ปะ"
ชีวิตวนหรูบไป รับน้อง เรียน กลับบ้าน เลี้ยงน้อง (น้องหมาขนปุย) และยังมีแอบไปทำความรู้จักนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ฯ บ้างถึงจะไม่ได้เรียนในคณะที่ชอบแต่ก็ไม่เสียใจ เธอขอมีเพื่อนเป็นสัตวแพทย์ก็ยังดี ซึ่งเธอก็ได้เพื่อนคณะนี้จริง ๆ ชื่อใบเตยเธอน่ารักนิสัยดีวาไรตี้อีกต่างหาก
-บ้านต้องตา
"ตอนนี้ก็ใกล้สอบปลายภาคแล้วอ่านหนังสือบ้างรึยังยัยน้อง" ต่อพงษ์เอ่ยถามน้องสาว เค้ารักและเป็นห่วงน้องสาวมาก อาจจะดูกังวลกับน้องสาวมากกว่าปกติเนื่องจากวัยที่ต่างกันถึง 15 ปี ทำให้เค้าต้องแบกรับความคาดหวังจากบิดาในเรื่องการดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวหลังจากท่านได้จากโลกนี้ไปแล้ว แม้ตอนนี้มารดาเค้ายังมีชีวิตอยู่ก็ตาม
"อ่านบ้างแล้วค่ะคุณพี่ชาย น้องซ๊ะอย่างต้องเอาเกรดดีดี มาฝากพี่อยู่ล้าววว" ต้องตากอดอกยื่นหน้าใส่พี่ชายอย่างน่ารัก
หืมมมม...."ไอ้ขี้คุย ให้มันจริงเถ๊อะ ถ้าได้Aทุกวิชามีของขวัญใหญ่จะให้" ต่อพงษ์โยกศีรษะแล้วเลื่อนมาบีบจมูกเรียวน้องสาวอย่างหมั่นเขี้ยว เค้ารักน้องสาวคนนี้มาก จำได้ว่าเป็นเค้าเองที่ขอให้แม่มีน้องให้เขาเพราะไม่อยากเหงาและสัญญาว่าจะรักและดูแลน้องอย่างดี ซึ่งเขาก็ทำอย่างที่สัญญากับพ่อแม่ตลอดมา
ฮ๊า..... สดชื่นจังเลย สอบเสร็จซ๊ะที ต้องตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เธอยืนอยู่บนเนินดินใกล้ ๆ คลองส่งน้ำท้ายไร่ที่บ้านของเธอ
"ไง เรา สอบเสร็จซินะ ปิดเทอมนี้อยากลองไปทำงานกับพี่มั๊ย เดี๋ยวให้ค่าขนม" พี่ชายเอ่ยถามพร้อมกับลูบผมน้องสาวอย่างเอ็นดู
"ไปก็ได้ค่ะ อยากไปดูว่าพี่แอบสาว ๆ ไว้บางรึเปล่า บอกไว้ก่อนเลย พี่สะใภ้ต้องผ่านต้องก่อนนะจะบอก" ต้องตาเปรย
"มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วมั๊ยยัยน้อง" นี่...ต่อพงษ์บีบจมูกเรียวน้องสาวอย่างไม่แรงจนเกินไปนัก
โอ้ย ....พี่ชาย อย่าบีบ นี่ถ้าเป็นของปลอมคงได้ซ่อมกันยกใหญ่แล้วเนี่ย" ต้องตาลูบจมูกป้อย ๆ พร้อมกับบ่นไปงั้น
หึ ...
-บ้านกันตพงษ์
"ไง ลูกชาย ไม่เห็นหน้ากันเลยนะเรา เป็นไงบ้าง" พงษ์ศักดิ์ ตบที่หน้าอกข้างซ้ายของลูกชายเบา ๆ และตบที่โซฟาข้าง ๆ ตนเป็นนัยบอกให้ลูกชายมานั่งด้วยกัน
"ก็เรื่อย ๆ ครับพ่อ เรื่องงานก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไรครับ" "อืมมมพ่อรู้ลูกชายพ่อทำมันได้ดีมาตลอด พ่อหมายถึงหัวใจน่ะ ไปถึงไหนแล้ว" กันตพงษ์สตั๊นไป 3 วิ ลูบท้ายทอยอย่างเขิน ๆ "พ่อรู้เหรอครับ" พร้อมกับพึมพำเบา ๆ แม่นะแม่
"เฮ้ย...ไอ้เสือไม่ต้องไปคาดโทษแม่เค้าหรอก ใคร ๆ เค้าก็รู้ ดูจากดาวอังคารเค้ายังรู้เลย..."
"เสือที่ไหนละพ่อ แมวเชื่อง ๆ นี่เอง....เดี๋ยวผมไปติวให้น้องก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวผมไปส่งน้องที่ม.นะครับแม่ เดี๋ยวผมไปรับน้องที่ม.ก่อนนะครับแม่...ถามจริงลูกชาย...ใครจะไม่รู้บ้าง" คุณนายกานดาพูดแทรกขึ้นทำเอาลูกชายตัวดีไปไม่เป็น
"แล้วทางนั้นรู้ตัวรึเปล่าล่ะลุก" พงษ์ศักดิ์เอ่ยถามลูกชายเผื่อมีอะไรให้ช่วย
"น้องไม่รู้อะไรเลยครับ มีพี่ชายที่รู้แต่ก็แอบหวง ๆ เหมือนกัน ส่วนคุณแม่น้องผมไม่แน่ใจครับ" กันตพงษ์เล่าตามความจริง
"แต่แม่ว่าคุณแม่น้องต้องรู้ซิ ขนาดแม่ยังรู้เลย" คุณนายกานดาแทรกขึ้น "แม่คร้าบ..." "พอเลยคุณอย่าแซวลูกซิ ดูซิ๊ลูกชายคุณเขินจนหูแดงไปหมดแล้วนั่น" พงษ์ศักดิ์ห้ามทัพแม่ลูก
"พามาหาแม่หน่อยซิ่แม่อยากเห็น" คุณนายกานดาบอกอย่างทนอดใจไว้ไม่ไหว "แม่คร้าบ..จะให้ผมพามาเนื่องในโอกาสอะไรล่ะครับ..ผมลำบากใจ" ลูกชายถึงกับตัดพ้ออย่างหมดหนทาง
"เฮ๊อ.....นี่คุณไม่คิดจะช่วยลูกจริง ๆ เหรอ รักคุดไม่ได้ผุดไม่เกิดมากี่ปีแล้ว ลูกเราจะ 35 ปีแล้วนะ แฟนซักคนยังไม่เห็นเลย" คุณนายกานดาบ่นกระปอดกระแปด