"พูดซะซึ้งเลย หนูก็รักพี่มากนะ อยากให้พี่ได้เจอผู้หญิงที่ดีที่เค้าพร้อมจะรักพี่ทั้งหัวใจ อยู่กับพี่ทั้งยามทุกข์และสุข หนูพูดจริง ๆ นะ" ต้องตาเอ่ยด้วยน้ำคลอตา
สองพี่น้องกอดกันกลมทั้งสองน้ำตาคลอ โดยทั้งสองไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนที่แอบมองด้วยความตื้นตันเช่นกัน
คุณนายตรีทิพย์ปิดประตูห้องลูกชายลงอย่างเบามือ พร้อมกับปาดน้ำตาอย่างลวก ๆ เข้าห้องนอนของตัวเองไปอย่างเงียบ
เธอรู้ดีที่สุดว่าลูกชายคนโตของเธอมีคนรักแล้ว และเธอก็เป็นคนดีและรักลูกชายของเธอเช่นกัน ติดเพียงลูกชายของเธอรอให้น้องสาวบรรลุนิติภาวะ เพื่อให้มีวุฒิภาวะมากกว่านี้แต่ไม่คิดว่าลูกสาวคนเล็กของเธอจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ ทั้งที่อายุเพิ่งจะ19ปีเท่านั้น มันทำให้เธอคลายกังวลไปหนึ่งเปราะ
-มหาวิทยาลัยJ
"นุชเราใบหาใบเตยที่คณะสัตวแพทย์ฯ กัน"
"ปะ ฉันอยากกินข้าวมันไก่ที่นั่นด้วย น้ำซุปสุดยอดมาก"
"เห็นแก่กิน" ต้องตาแกล้งเย้า "อืมใช่ ยอมรับ" ไปได้ยัง? ปะ
ทางนี้ต้อง นุช ใบเตยโบกไม้โบกมือให้เพื่อนซี้ต่างคณะ "ลมไรหอบพวกแกมาถึงคณะได้...กินข้าวกัน" ใบเตยเอ่ยชวนเพื่อนสาวทั้งสอง
"ได้เลย มาเพื่อการนี้อยู่ล้าว" นุชธิดาตอบ
ทั้งสาวสาวกินข้าวกันอย่างเงียบด้วยความเอร็ดอร่อย
หลังจากอิ่มหนำสำราญ
"แกมีไรก็ว่ามา คงไม่ได้มากินข้าวอย่างเดียวมั้ง" ใบเตยคาดคั้น
"ก็นางผู้นี้ล่ะซิชวนฉันมาถึงนี่" นุชธิดาพูดขึ้น
"คือฉันอยากให้แกสอนวิธีดูแลหรือรักษาเบื้องต้นสัตว์น่ะ นะนะนะแก" ต้องตาอ้อนตาใส "โถว่ นึกว่าไร ได้อยู่ล้าว" ใบเตยคุยฟุ้ง ถึงแม้เธอจะอยากได้ต้องตาเป็นพี่สะใภ้มากแค่ไหนแต่มิตรภาพสำคัญที่สุดเธอจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีต้องตาและกันตพงษ์สนิทกันมากขึ้นไปมาหาสู่กันและมีความรู้สึกดีให้เขามากขึ้นไม่เย็นชาเหมือนเดิม เพียงแต่เธอไม่กล้าเปิดใจยอมรับก็เท่านั้น และปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการศึกษา และเธอต้องฝึกงานและเพื่อนของเธอก็เช่นกัน โดยกันตพงษ์ได้เสนอให้ต้องตาไปฝึกงานที่บริษัทของตนโดยให้เหตุผลว่าจะได้เรียนรู้มากกว่าคนในครอบครัว (ข้ออ้างเนียนๆ) ซึ่งทางครอบครัวของเธอก็ไม่ขัด
"แต่หนูอยากฝึกงานที่บริษัทของเรานะคะพี่ต่อ" ต้องตาแย้ง
"พี่อยากให้เราได้เปิดโลกทัศน์นะ ได้เห็นอะไรข้างนอกบ้าง ไอ้กันมันเก่งจะตาย เป็นอาจารย์สอนพิเศษในมหา'ลัย เป็นผู้บริหารบริษัทอีกหลายกิจการ พี่ว่าเราไปเรียนรู้วิชาจากมันนั่นแหละดีแล้ว พี่น้องสอนกันมันไม่ค่อยดีเท่าไรเคยได้ยินมั๊ยคนในครอบครัวสอนขับรถน่ะ ทะเลาะกันเกือบตายกว่าจะเป็น เผลอ ๆ ไปจ้างเค้าดีกว่า นี่ก็เหมือนกันแหละ เออ" ต่อพงษ์ตัดจบ
"แหมช่างอุปมา อุปไมยนะพี่ชาย แต่เอางั้นหรอ..ก็ได้..แล้วอย่ามาบ่นว่าเหนื่อยที่น้องสาวไม่ช่วยงานนะ" ต้องตาบ่นไปเรื่อย
"คร้าบ..ยัยน้อง ถ้าเรียนจบแล้วค่อยว่ากัน" ต่อพงษ์เปรย ๆ
"เอ๊ะ พี่ต่อนิ่ พูดแปลกจริง เรียนจบน้องก็ต้องมาช่วยงานที่บริษัทของครอบครัวเราซิ่ จะให้น้องไปไหนได้ น้องไม่ใจดำปล่อยพี่ทำงานคนเดียวหรอก น้องรู้พี่น่ะแก่แล้ว น้องก็อยากให้พี่พักบ้างไรบ้างแหละ" ต้องตาแกล้งเย้าพี่ชาย
"เออ แต่ระวังใครอีกคนให้ดีหล่ะ กลัวว่าจะไม่ยอมปล่อยละดิ่" ต่อพงษ์แกล้งเย้าน้องสาว
"โว๊ะ ไม่คุยล๊ะ ไปดูซีรีย์ดีกว่า"
หึ
-บ้านต้องตา
แปะ แปะ แปะ ต้องรัก ทางนี้ มาเร็ว ๆ จุ๊ฟ จุ๊ฟ จุ๊ฟ ทางนี้ มาหาพี่มา
หญิงสาวเรียกเจ้าขนปุยซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นสุนัขโตเต็มวัยที่เฉลียวฉลาด แต่ยังมีนิสัยขี้เล่นอยู่เหมือนเดิม
นางเป็นน้องเล็กตัวจริงของครอบครัว เพราะนางได้ขึ้นแท่นเป็นลูกรักของคุณนายแม่ตรีทิพย์และเป็นน้องสาวสุดที่รักของพี่ชายของเธอไปเสียแล้ว
"นั่นใครมา ต้องรัก ดูนั่นซิใครมา" ต้องตาชี้ชวนให้ต้องรักดู ทันที่ที่นางเห็นผู้มาใหม่ นางดีใจกระดิกหางแทบหลุด
อิ๊ก ๆ อื๋อ ๆ แพล่บ ๆ
"พอแล้วต้องรัก พี่จั๊กจี๋" กันตพงษ์ปรามเจ้าขนปุยอย่างไม่จริงจัง เหตเพราะคติที่ว่า "love me love my dog" คำนี้ยังคงศักดิ์สิทธิ์จริง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่าเขารู้สึกรักเจ้าตูบตัวนี้ซ๊ะแล้วซิ
"ต้องรักมานี่มะ มาหาพี่มะ..พี่กันเค้าแก่แล้วอย่าไปกระโดดเกาะพี่เค้ามากไปเดี๋ยวจะล้มเอา" ต้องตาแกล้งเย้าคนพี่
"หึ ว่าพี่แก่เหรอ ระวังคนแก่คนนี้ไว้ให้ดีเถอะ ปีนี้จบแล้วแต่งเลยนะ" กันตพงษ์สัพหยอก
"ห๊ะ! อะไร แต่งอะไร พี่กันมั่วแระ" ต้องตาแกล้งบิดเบือนประเด็น
"น้องต้องไม่เห็นใจพี่มั่งเหรอ รอมา 5 ปีแล้วน๊า ตั้งแต่เราอายุ 17 ปีโน่น" กันตพงษ์แกล้งตัดพ้อ
"เอ๊า ตอนนั้นไม่นับไง ก็น้องยังไม่รู้ เพิ่งมารู้เมือตอนขึ้นปี 2 นี่เอง" เธอยังค้านหัวชนฝาเช่นเดิม
"ไม่รู้หล่ะ ไม่งั้นจะจับกดให้มันรู้แล้วรู้รอดไป พี่ทำจริงนะจะบอกให้ ไอ้ต่อก็ไอ้ต่อเหอะไม่กลัวมันหรอก"
"โห ดุจัง น้องก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย น้องก็ไม่ได้มีใครไง แต่มันจั๊กจี๋ยังไงก็ไม่รู้ พี่กันก็อย่างองแงซิ่ น้องไปไหนไม่รอดหรอก ห้ามทำอย่างว่ากับน้องด้วย" ต้องตาเอ่ยปรามกลาย ๆ
"ไม่รู้แหละ มาให้พี่กอดเสียดีดี มาปลอบพี่ก่อนเลย" กันตพงษ์พูดพร้อมกับอ้าแขนให้อีกฝ่าย
ต้องตาชั่งใจอยู่นานจึงเอ่ยปากออกไป
"ก็ได้ก็ได้ แค่กอดนะ" ร่างบางพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหาอ้อมกอดของอีกคนที่กำลังอ้าแขนรอรับอยู่อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
หมับ กันตพงษ์กอดหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างแนบแน่นและแอบซุกไซร้ซอกคอหญิงสาวอย่างอดใจไม่ไหว
"พอแล้ว พี่กัน ไหนบะ...ริมฝีปากได้รูปกดทับริมฝีปากบางทันที เขาพยามยามหลอกล่อหญิงสาวให้เปิดปากยอมรับเขาเข้าไป อื้อ อื้อ อี่ อัน อ่อยเอี๋ยวอี้อ๊ะ อี้....ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ต้องตาทุบหน้าอกอีกฝ่ายจนสุดแรงจนอีกฝ่ายยอมปล่อยแต่โดยดี
"พี่ขอโทษ พี่อดใจไม่ไหว พี่รอเรามานานเหลือเกิน อีกอย่างเราน่ารักเกินไป อย่าโกรธพี่เลยนะ เหลืออีกเทอมเดียวเอง เราแต่งงานกันนะ" กันตพงษ์เอ่ยปากอย่างหมดท่า
"หา อะ อะไรกัน เร็วไป เรายังไม่รู้นิสัยใจคอกันเลยด้วยซ้ำ"