“ลดา!” ชายหนุ่มตะโกนเรียกชื่อของหญิงสาวเสียงดังลั่นจนคนในบ้านตกใจ จากนั้นเขาก็กระโดดลงไปช่วยหญิงสาวได้ทันแต่เธอก็สำลักน้ำไปหลายอึกแล้ว เขาพยายามผายปอดให้เธอทั้งที่เธอไม่ได้สลบไป หลังจากนั้นอาการของเธอก็ดีขึ้นตามลำดับ
“ว้าย! เกิดอะไรขึ้นตาบรูค” คาร่าร้องออกมาด้วยความตกใจที่เห็นลูกชายกำลังจุมพิตสาวสวยมากกว่าจะเป็นการผายปอด
“แค่กๆ นะ หนูเป็นตะคริวค่ะคุณแม่” แก้มของเธอเห่อร้อนด้วยความเขินอายเพราะคิดว่ามารดาของชายหนุ่มคงเข้ามาทันเห็นจังหวะที่เขาผายปอดให้เธอ
“ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลยไม่รู้หรือไงว่าตัวเองท้องอยู่น่ะ” ชายหนุ่มตำหนิออกไปเสียงเข้ม ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้กลับเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้ ชายหนุ่มวินาทีนี้รู้สึกหงุดหงิดใจเหลือเกิน
“ตอนนี้หนูลดาก็ปลอดภัยแล้วอย่าดุกันนักเลยลูก ลูกพาหนูลดาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย” คาร่าต้องรีบเข้ามาเอ่ยห้ามปรามก่อนที่เรื่องราวจะใหญ่โตไปกันใหญ่
“ครับแม่” ชายหนุ่มไม่มองหน้าคนที่ตนเองกำลังช้อนอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขนแกร่งจากนั้นก็พาไปยังห้องพักของหญิงสาว ระหว่างทางหญิงสาวได้แต่ก้มหน้าหงุดที่อกแกร่งเพราะความใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว เมื่อถึงที่หมายเขาวางเธอลงที่บริเวณหน้าห้องน้ำ
“เปลี่ยนเองได้ใช่ไหมหรือต้องให้เปลี่ยนให้” ชายหนุ่มถามออกไปเหมือนอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
“ปะ เปลี่ยนเองได้ค่ะ คุณบรูคออกไปก่อนสิคะ” เธอรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากเมื่อเขาเอาแต่จ้องมองมา
“หึ” ชายหนุ่มถือวิสาสะมองเรือนร่างขาวเนียนที่ตัดกับเนื้อผ้าชุดว่ายน้ำสีดำของหญิงสาวอย่างเปิดเผยจนเธอต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดบังหน้าอกอวบอิ่มของตนให้พ้นจากสายตาโลมเลียของคนตัวโต ชายหนุ่มส่ายศีรษะของตนเองไปมาช้าๆเมื่อเผลอตัวจ้องมองคนตรงหน้าอย่างโจ่งแจ้ง
“ออกไปก่อนสิคะ” เธอใช้มือข้างหนึ่งดันเขาให้ค่อยๆเดินออกจากห้องไป บรูคเดินเข้ามาในห้องนอนของตนแล้วก็ต้องเอามือกุมหัวใจของตนเองไว้ เมื่อครู่เขายอมรับเลยว่าตกใจและเป็นห่วงหญิงสาวจับใจ ถ้าเขาช่วยเธอเอาไว้ไม่ได้เขาคงจะถือว่าเป็นความผิดของเขาไปชั่วชีวิตเพราะอย่างน้อยๆเขาก็ไม่ใช่คนใจจืดใจดำ
ตกดึกลดารู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเป็นอย่างมาก หล่อนรู้สึกหนาวนอนพลิกตัวไปมาอย่างทรมานอยู่บนเตียงกว้าง ด้านชายหนุ่มก็รู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงแอบเดินมาดูให้มั่นใจว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นอะไรแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังโดยไข้หวัดเล่นงาน เขารีบต่อสายหาเพื่อนที่เป็นหมอถามหาชื่อยาจากเพื่อนและรีบหามาให้หญิงสาวได้รับประทานแน่นอนว่ายาชนิดนั่นต้องปลอดภัยกับเจ้าก้อนวุ้นในท้องของหญิงสาวด้วย
“กินยาก่อนเร็ว”
“คะ คุณบรูค” หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยพอเห็นว่าเป็นเขาก็เอ่ยเรียกคนตัวโตน้ำเสียงแหบแห้ง ตอนนี้อาการไข้กำลังเล่นงานเธอเข้าแล้ว
“เร็วสิ” หญิงสาวอ้าปากน้อยๆจากนั้นชายหนุ่มก็ส่งเม็ดยาสีขาวเข้าไปในปากจากนั้นก็ตามด้วยน้ำดื่มสะอาด
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ไม่ใจร้ายกับลดาแล้วก็ลูกของเรา” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาจากใจ ดีใจที่เขาช่วยเหลือเธอได้ทันเวลา
“เดี๋ยวก็คงดีขึ้น เธอนี่เป็นภาระจริงๆเลย” ชายหนุ่มบอกออกไปอย่างต้องการแก้เก้อ เวลาที่เธอเอ่ยถึงลูกเขามักจะทำหน้าไม่ถูก เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆหรอก หลังจากเขาหมุนตัวเดินหนีเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ขอบคุณนะคะ ลดามีความสุขมากที่คุณเป็นห่วงลดา” เธอรับรู้ทุกอย่างตั้งแต่ที่เขาโทรหาเพื่อนแล้วล่ะ เมื่อได้ทานยาและพักผ่อนเต็มอิ่มไข้หวัดก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้อีก คาร่าออกมาหาน้ำดื่มก็เจอเข้ากับลูกชายคนโตกำลังเดินออกจากห้องพักของว่าที่ลูกสะใภ้ คาร่าได้แต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างเหนื่อยใจกับความปากแข็งของลูก เป็นห่วงจนต้องมาดูแลแต่ยังทำเป็นเมินหญิงสาวอยู่ร่ำไป
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับที่รัก” นาธานถามออกไปด้วยความสงสัย แค่ออกไปเอาน้ำเองต้องทำหน้าเหนื่อยหน่ายขนาดนั้นเชียวหรือ
“ก็ลูกชายคนโตของเราน่ะสิคะ เป็นห่วงเขาแต่ก็ชอบปากแข็งนู้นนี่”
“ฮ่าๆ พี่ว่าผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับลูกชายเรามากนะคาร่า เพียงแต่ทั้งสองอาจจะมีเรื่องผิดใจกันก่อนหน้านี้ก็ได้เพราะไม่อย่างนั้นลูกชายของเราต้องคัดค้านจนถึงที่สุด”
“จริงด้วยค่ะ อยากให้เด็กๆปรับความเข้าใจกันได้สักทีนะคะ ถึงเวลานั้นบ้านเราจะได้กลับมามีบรรยากาศอบอุ่นสดใสเหมือนเดิม”
“พี่ก็หวังให้เกิดขึ้นในเร็ววันครับ” วันรุ่งขึ้นก็มีมื้อเช้าจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อย มื้อเช้าเธอได้ทานข้าวต้มร้อนๆพร้อมหน้ากับคนในบ้าน ทุกคนต่างเป็นห่วงถามไถ่อาการของเธอด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง เธอยิ้มรับและบอกกับทุกคนไปว่าอาการดีขึ้นเยอะแล้ว วันนี้พักผ่อนอีกสักวันก็คงหายดี จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง