EP 15

1110 Words
“ได้ข่าวว่าบุญหล่นทับ ได้ค่าสินสอดซะเยอะแยะไม่ใช่เหรอแม่หนึ่ง ไปทำอีท่าไหนล่ะ ถึงมีคนหลงเข้ามาขอได้” รัตนา ศรีสวัสดิ์วัฒนา ถามลูกบ้านน้อย ด้วยน้ำเสียงค่อนขอดประชดประชันปนดูแคลน มากกว่าจะเป็นการอยากรู้ หรืออยากจะยินดีปรีดาย์ด้วย ซึ่งผิดวิสัยที่ผู้ใหญ่พึงจะกระทำ ทว่าปิยธิดากลับถูกอกถูกใจอย่างยิ่ง เมื่อผู้เป็นแม่เปิดทางไว้ จึงจัดการแขวะลูกบ้านน้อยต่ออย่างเร่งด่วน “ก็จะอะไรล่ะคะคุณแม่ ถ้าไม่เพราะพี่หนึ่งอยากจะประชดเอ ที่แต่งงานกับพี่เป้ ก็เลยรีบคว้าใครก็ได้มาแต่งๆ ไปให้เสร็จเรื่อง แต่น่าเสียดายนะคะ คว้าใครไม่คว้า ดันมาคว้าลูกเมียเก็บเมียน้อย คิดเหรอคะว่าเอจะสะทกสะท้าน” และแม้ปราณปริยาวดีจะรู้มาตั้งแต่แรก ว่านี่น่าจะเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ถูกอีกฝ่ายส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอแบบปุบปับ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากกับใครเลย กระทั่งประโยคเสียดสีจากลูกสาวของอีกบ้าน เปล่งออกมาอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อตัวเองกับแม่จำต้องมาร่วมกินมื้อค่ำที่บ้านใหญ่ เพราะปู่กับย่าที่ไปอยู่ต่างจังหวัดกลับมาเยี่ยมลูกหลาน และจะรอร่วมงานแต่งเลย ซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ “อุ๊ย! เรื่องอะไรเอจะต้องแคร์ด้วยล่ะกับผู้ชายพรรค์นั้น ตอนรักๆ กันก็คงจะดีอยู่หรอก แต่อยู่ไปไม่นานคงจะดีแตกออกลายให้เห็น เพราะเลือดพ่อมันแรง แต่งไม่ถึงปีคงจะมีบ้านเล็กบ้านน้อยมาให้เมียปวดหัวไม่เว้นวันเป็นไมเกรนตายเข้าจนได้ เลือกพ่อเป้น่ะดีที่สุดแล้วล่ะลูก” รัตนาจีบปากจีบคอต่อคำลูกอย่างสนุกปาก เพราะตอนนี้ปราณปริยาวดีอยู่รับศึกคนเดียว และมักจะไม่ชอบต่อปากต่อคำด้วย ถ้าไม่เหลืออดจริงๆ นี่จึงเป็นนาทีทองให้สองแม่ลูกได้เล่นงาน เพราะถ้าปานมาเมื่อไหร่ มีหรือจะนิ่งให้ว่าได้เหมือนลูกสาว “หล่อนก็เหมือนกันนะแม่หนึ่ง อย่าได้ริย่ามใจว่านายนั่นจะรักจะพิศวาทในตัวหล่อน จำที่ยัยเอบอกเมื่อกี้ไว้ให้ดี ที่ฉันบอกที่ฉันเตือนก็เพราะหวังดี ไม่อยากให้น้ำตาเช็ดหัวเข่า แต่คงไม่ทันแล้วมั้งจะแต่งอยู่รอมร่อแล้วนี่” เพราะผู้แม่ขึ้นไปรับปู่กับย่าบนห้อง ส่วนผู้พ่อก็ยังไม่ลงมา ปราณปริยาวดีจึงถูกสองแม่ลูกรุม แต่ก็ใช่ว่าจะเกรงกลัวใดๆ เลยสักนิด หากแค่ไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วยเท่านั้น จึงได้แต่นั่งเงียบทำเป็นทองไม่รู้ร้อนใส่ทั้งสองหน้าตาเฉย แต่นั่นกลับทำให้อีกฝ่ายร้อนระอุขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีแรงเกลียดผลักดันอยู่แล้ว “แน้! ตักเตือนดีๆ ยังจะมาตีหน้ามึนใส่อีก จะขอบคุณสักคำไม่มี หล่อนนี่มันด้านได้แม่ซะจริงๆ เลยนะ อย่างนี้คงจะเหมาะกับนายนั่นพอดีล่ะมั้ง เวลามันหอบเมียน้อยเข้าบ้าน จะได้สู้รบปรบมือไหว เพราะคงจะหาเมียหลวงประเสริฐอย่างฉันไม่ได้อีกแล้วล่ะมั้ง ที่ยอมให้เมียน้อยมานอนเอาผัวตัวเองรดหัวอยู่ได้เป็นสิบๆ ปี” “คุยอะไรกันจ๊ะแม่นาเสียงดังเชียว แล้วนี่ทำอะไรให้แม่กินบ้างล่ะ เห็นพ่อยะอวดนักอวดหนาว่าเมนูวันนี้พิเศษสุดๆ” คุณย่าบานเย็น ศรีสวัสดิ์วัฒนา ส่งเสียงมาก่อนตัวจะเดินถึงโต๊ะเสียอีก และนั่นทำให้สะใภ้ใหญ่ตีหน้ายิ้มแย้มให้แม่ผัว แล้วส่งเสียงอ่อนเสียงหวานไปหา “วันนี้มีปูทะเลนึ่งกระเทียม ปลากระพงอบเกลือ แกงส้มกุ้งชะอมทอด ยำปลาทูน่า ผัดจับฉ่ายแห้ง แล้วก็ซุปเนื้อค่ะ มีแต่ของโปรดคุณแม่ คุณพ่อทั้งนั้นเลย ตบท้ายด้วยแปะก๊วยกะทิสดด้วยค่ะ สั่งมาจากเยาวราชเลย คุณแม่นั่งก่อนนะคะ” ว่าแล้วรัตนาก็รีบลุกขึ้นไปช่วยประคองแม่สามี แย่งเมียน้อยหน้าตาเฉย “เอ้อๆ ดีจริงนานทีได้กินข้าวกับลูกกับหลานพร้อมหน้า จะมีเหลนให้ย่าหรือยังล่ะยัยเอ แล้วตาเป้ไม่มาเหรอ” คุณย่าบานเย็นทักทายหลานคนแรกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลานสาวยิ้มอย่างเอียงอายก่อนจะตอบ “พี่เป้ติดกินข้าวกับลูกค้าค่ะคุณย่า ตอนนี้เรายังไม่อยากมีลูกเท่าไหร่ค่ะ กะว่ารอปีหน้าก่อนค่ะ” ผู้เป็นย่าพยักหน้ารับหงึกๆ ก่อนจะหันไปหาหลานชายคนเดียว หน่อเดียวที่ปิยะมีไว้สืบสกุล ที่เหลือไม่ว่าจะกับเมียคนไหน ก็จะมีแต่ลูกสาวรวมแล้วถึงห้าคนเลยทีเดียว “เราล่ะตาบี เมื่อไหร่จะเรียนจบ แล้วแต่งการแต่งงานเหมือนพี่เขาสักที” “ผมก็เรื่อยครับคุณย่า ตามประสาคนน่าตาดีก็ต้องมีสาวๆ เยอะเป็นธรรมดา” ปิยะพันธุ์ตอบผู้เป็นย่าไป พร้อมกับยิ้มแถมยักคิ้วน้อยๆ ให้ตามนิสัยคนอารมณ์ดี หน้าตาดี ปากดีเหมือนเคย และอีกไม่นานก็คงจะมีอะไรดีๆ ที่ได้จากพ่อ หลั่งไหลตามมาเป็นแน่ ในความคิดของปานที่นั่งนิ่งรอให้แม่สามีหันมาถามลูกสาวของตัวเองบ้าง ทว่าก็รอเก้อจนได้ ปราณปริยาวดีนั้นแม้จะเสียใจที่ไม่ว่าจะยังไง ปู่กับย่าก็ไม่เคยให้ความรักและให้ความสำคัญกับลูกบ้านน้อยเลยนับตั้งแต่จำความได้ หรือถ้ามีก็น้อยนิดเต็มทีในความรู้สึก แต่มาถึงวินาทีนี้ก็อดเสียใจอีกไม่ได้ “คุณแม่ลองชิมน้ำพริกปูม้าหน่อยสิคะ ยัยหนึ่งทำเองกับมือสำหรับมาให้คุณแม่คุณพ่อชิมโดยเฉพาะเลยนะคะ ปูสดมากๆ ค่ะ เนื้องี้หวานเชียวค่ะ เดี๋ยวปานตักให้นะคะ” ปานถนัดเรื่องเอาอกเอาใจ ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือพ่อแม่สามี รีบทำให้ลูกสาวของตัวเองไม่อยู่นอกวงโคจรสายตาตามเคย แต่ขึ้นชื่อว่าไม่ชอบยังไง จะกี่ปีกี่ชาติ คุณย่าเย็นก็ยังรู้สึกอย่างนั้นกับเมียน้อยอยู่ดี หลานก็เลยได้กุศลความไม่ชอบนี้ติดตัวมาด้วยตั้งแต่แรกเกิดก็ว่าได้ “ไม่ต้องหรอก! ฉันไม่ค่อยกินของเผ็ดๆ แล้ว แม่ปานกินๆ ไปเถอะไม่ต้องห่วงฉันหรอก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD