EP 7

1198 Words
“แต่งตัวซะสวยเช้งเลย กะว่าจะเจอผู้ชายรวยๆ หน้าโง่ๆ ในงานเอาไปไว้ทำผัวเหรอ อย่าลืมกระซิบบอกเขาก่อนล่ะว่ากำพืดพวกคุณมาจากไหน เผื่อเขาจะได้ทำใจเอาไว้ก่อน” เขายังไม่หยุด แต่ปราณปริยาวดีนั้นอดเสียใจไม่ได้ที่ดันหยุดเดินแล้วฟังน้ำคำของเขาอีก แม้จะโกรธ แต่ก็ยังควบคุมสติและอารมณ์พร้อมสีหน้าและท่าทางได้อย่างใจเย็น แถมยังส่งยิ้มพร้อมสายตาสมเพชไปหาเขาเหมือนวันนั้นไม่มีผิด ก่อนจะตัดสินใจเอาคืนด้วยถ้อยคำที่จะทำให้เขาเจ็บไปอีกนานแสนนาน “คุณก็แต่งตัวหล่อดีนี่ กะว่าจะเจอผู้หญิงรวยๆ หน้าโง่ๆ ในงานเอาไปไว้ทำเมียเหรอ คุณก็อย่าลืมกระซิบบอกเจ้าหล่อนด้วยล่ะ ว่าบรรพบุรุษคุณเป็นยังไง เผื่อเจ้าหล่อนจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเหมือนอย่างที่ลูกบ้านใหญ่ของฉันทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะ อยากเห็นหน้าคุณจังว่าจะรู้สึกยังไงที่หน้าตาหล่อ พ่อรวย การศึกษาดี แต่ไม่มีใครอยากได้ไปทำพันธุ์ เพราะนามสกุลมีกระต่ายเป็นโลโก้” แล้วปราณปริยาวดีรีบพาส้นสูงสามนิ้วเดินหนีไปอย่างไม่แยแสต่อสีหน้าและสายตาของคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังว่าจะเป็นยังไง จะโกรธแค้นเพียงไหน “ปากดีนักนะ ฝากไว้ก่อนเถอะแม่ลูกบ้านน้อย เจอคราวหน้าพ่อจะเล่นให้เจ็บเลยทีเดียว” พลาธิปได้แค่อาฆาตไว้ด้วยว่าจาและท่าทางแค่นั้น ก่อนจะก้าวเดินเข้าผับที่หมายตาเอาไว้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อก้าวเข้ามาในสถานที่จัดงานอย่างไม่แน่ใจนักว่าจะมาทำไมกัน น้ำสีอำพันมาพร้อมกันถึงสามแก้ว เพื่อจะลบภาพความสุขของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเมื่อครู่ ออกไปจากหัวให้หมด แต่เขาก็ได้สติและเตือนตัวเองว่าไม่ให้เมาจนฟุบหลับอยู่ผับนี้ รังแต่จะทำให้อดีตคนรักกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด สมน้ำหน้าเอา แก้วสองจึงถูกถือไว้เนิ่นนาน ขณะในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนได้ยินกระแสเสียงจากแขกโต๊ะหลังดังเข้ามากระทบหู แรกทีเดียวเขาไม่คิดจะสนใจฟัง ทว่าหัวข้อสนทนาของคนเหล่านั้นดันเป็นเรื่องของเขาเต็มๆ “คนเยอะมาก เห็นแล้วอึดอัดไม่ไหวๆ หลบมานั่งจิบอะไรที่นี่ดีกว่าอีก เอ้อ! ว่าแต่เจ้าบ่าวไม่ใช่คนที่เป็นแฟนหนูเอก่อนหน้านี้นะ พี่ว่ายังไงก็ไม่ใช่คนนี้หรอก ตอนไปบ้านคุณนาครั้งก่อนน่ะ เป็นอีกคน จะสูงกว่านี้หน่อยขาวกว่านี้หน่อยนะ แล้วก็หล่อคมกว่าคนนี้หน่อยหรือพี่จะจำผิดเอง” สาวสังคมจัดในชุดราตรีสวยงามกำลังคุยกันอย่างออกรส อีกคนที่เด็กกว่ารีบยกมือปัดไหวๆ ขณะกำลังยกแก้วขึ้นดื่มปาก เลยยังไม่ว่างที่จะพูด ทำเอาอีกสองสาวใหญ่ต่างยิ้มออกมาด้วยความขำปนอยากรู้ “อุ๊ย! จะเป็นคนนั้นที่ไหนล่ะพี่จำไม่ผิดหรอกค่ะ นี่น่ะคนใหม่ชื่อเป้ คนก่อนชื่อหนึ่งค่ะ คุณนาบอกน้องเองนะคะว่าสองคนนี้ดีพอกัน เลือกยากพอกัน แต่คนมาก่อนนี่เสียตรงมีพ่อเจ้าชู้ค่ะ หรือจะพูดให้ถูกคือเจ้าชู้มาตั้งแต่ปู่ตั้งทวดโน่นล่ะค่ะ คุณนากลัวเลือดเจ้าชู้จะตกมาหาคนเป็นลูก เกิดหนูเอแต่งด้วย อีกหน่อยก็ไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยมาให้ให้ช้ำใจ คุณนาก็เลยเชียร์ให้เลือกคนชื่อเป้ไงคะ หนูเอก็ดีนะคะเชื่อด้วย จากตอนแรกแกกลัวว่าลูกจะไม่เอาด้วย พอตอบตกลงแกดีใจแทบตายค่ะ เพราะกลัวจะได้ลูกเขยมากเมียค่ะ” “จริงเหรอคะคุณน้อง แต่พี่ว่าคิดอย่างนี้ก็ดีนะ เชื้อยังไงก็ไม่มีวันทิ้งแถว ไม้ยังไงก็ไม่มีวันหล่นไกลต้น พ่อเป็นยังไงลูกกันก็คงจะไม่พ้นหรอก ได้ข่าวว่ามีหน่อเดียวด้วยสิคะคนก่อนน่ะ ถึงสมบัติจะเยอะแต่ถ้าต้องมาคอยแบ่งให้บ้านนั้นบ้านนี้อีกหน่อยก็ร่อยหลอ และจะต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าอีก เพราะผัวไปไข่ไว้หลายที่ เลือกคนนี้น่ะดีแล้วค่ะ เลือดดีตั้งแต่ปู่ลงมาเชียว รักเดียวใจเดียวไม่เหลียวแลหญิงใดถ้าได้หลงหลักปักฐานแล้ว การงานก็ดี รับผิดชอบแทนพ่อที่ตายไปสองสามปีแล้ว ไหนจะต้องคอยช่วยแม่ดูแลน้องๆ ที่มีแต่ผู้ชายอีกด้วยนะคะ” และแล้วแก้วที่สองในมือชายหนุ่มผู้ต้องอกหักรักคุด ด้วยความผิดที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อที่มากเมียถูกกรอกเข้าปากโดยไม่ต้องคิดนาน แล้วแก้วสาวสี่ห้าหก ก็ตามมาติดๆ จนสุดท้ายเขาเมาจนคุยไม่รู้เรื่อง ผู้จัดการผับเลยจำต้องถือวิสาสะเปิดกระเป๋าสตางค์ดูชื่อเสียงเรียงนามของเขา เพราะเดาได้ว่าน่าจะมางานแต่งที่ห้องจัดเลี้ยง เลยเข้าไปหาเจ้าภาพเพื่อถามไถ่ว่ามีใครรู้จักบ้างไหม อนิจจาในโชคชะตาที่ทำร้ายเขาซ้ำๆ ซากๆ เพราะปิยธิดาดันได้ยินสามีคุยกับอีกสองเพื่อน เมื่อผู้จัดการเข้ามาหา ทำให้รู้ว่าตัวเองนั้นคิดไม่ผิดและเลือกคนไม่ผิดจริงๆ จนอยากจะเข้าไปกอดและหอมแก้มแม่เพื่อขอบคุณที่ชี้ช่องสว่างให้ “เอไม่คิดมาก่อนเลยนะคะ ว่าพี่หนึ่งจะกลายเป็นคนเหลวใหลอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ” ปิยธิดากระซิบกระซาบกับสามีที่มีสีหน้าไม่ใคร่จะดีนัก ก่อนจะฝากฝังเพื่อนทั้งสองให้ช่วยตามผู้จัดการผับไปดูที แล้วไม่กี่อึดใจคนเมาก็ถูกสองเพื่อนหิ้วสองปีกไปส่งบ้านเหมือนเคย ที่ไม่เหมือนก็เห็นจะเป็นมีสายตาของอดีตคนรักและรัตนาผู้เป็นแม่มองด้วยความสมเพชตามระคนดีใจที่ไม่หลงผิดคิดคว้ามาทำพันธุ์ ไม่ถึงชั่วโมง เพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสองรวมทั้งแก้วคนขับรถก็ช่วยกันแบกเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่หลับใหลไม่ได้สติ ขึ้นไปทิ้งไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว และรีบกลับไปที่งานเพราะยังสนุกอยู่ ส่วนสองสาวใหญ่ช่วยกันจัดการกับเสื้อผ้าที่เหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า จนได้เหงื่อไปตามๆ กัน พิไลพรรณหันไปหาคนสนิท แล้วส่ายหน้าด้วยความสงสารระคนเอือม กับอาการของลูกที่เมากลังแทบจะทุกคืนก็ว่าได้ นับตั้งแต่รู้ว่าถูกคนรักสลัดจากอกไปแต่งกับเพื่อนสนิทมาเกือบสี่เดือนแล้ว “ไปนอนกันเถอะสุดา พรุ่งนี้เที่ยงๆ ค่อยหิ้วกาแฟมาให้สักกา เฮ้อ! ฉันล่ะกลุ้มใจกับลูกชายคนเดียวจริงๆ เลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD