“เมียก็ส่วนเมีย คุณก็ส่วนคุณไม่เกี่ยวกัน ก่อนแต่งเราเป็นยังไง หลังแต่งเราก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไป อย่าพูดถึงใครอีก ผมอยากให้คืนนี้มีแต่เราเท่านั้น ผมต้องการคุณ ได้ยินมั้ยมิ้นท์ว่าผมต้องการคุณ”
ปราณปริยาวดียืนนิ่ง จ้องมองไปยังเตียง ที่มีสองร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามัน แม้จะบอกว่าโล่งใจไม่น้อยที่ค่ำคืนนี้จะไม่ต้องตกเป็นของเขา
แต่ก็บอกไม่ได้ว่าดีใจและยิ้มรับกับคนมาทำหน้าที่แทนนัก น้ำตาที่อยากจะหลั่งไหลออกมา ก็พร้อมใจกันหดหายและหลั่งใหลอยู่ภายในแทน
แล้วร่างในชุดสีชมพู ก็หันหลังกลับเดินไปเข้าห้องที่จากมา โดยไม่ได้หันไปมองสุดา ที่ยืนทำหน้าไม่สู้จะดีนักกับภาพที่เห็นพอๆ กับสะใภ้ป้ายแดง เลยได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ
ก่อนจะเดินไปหาห้องตัวเอง เพราะเหนื่อยเต็มทีกับวันงานที่ยาวนาน ส่วนอีกคนที่เข้าไปในห้องแล้ว แม้จะเหนื่อยและง่วง แต่อนิจจาตามันก็แข็งเกินกว่าจะหลับลงได้
จึงนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสารพัด แต่สุดท้ายมันก็วกกลับมาหาคำถามที่ว่า ตัวเองตัดสินใจถูกต้องแล้วหรือ ที่มายืนอยู่ตรงจุดนี้ ในบ้านหลังนี้
ในตำแหน่งเมียของเขานี้ เมียที่เขาไม่ได้มีความรักความพิศวาสให้เลยสักนิด แล้วเรื่องที่ต้องขบคิดต่อมาก็คือเรื่อง ‘หย่า’
จะมีเจ้าสาวสักกี่คนกันนะ ที่คิดเรื่องนี้ตั้งแต่คืนส่งตัวเข้าห้องหอ แต่ใบหน้าแม่กับอาการป่วยของแม่ และใบหน้าผู้คนที่มาในงานต่างก็เรียงรายกันเข้ามาในความคิด
รวมทั้งใบหน้าของคนบ้านใหญ่ คงจะยิ้มอย่างสะใจ เมื่อลูกบ้านน้อยแต่งงานเพียงแค่คืนเดียวก็จะขอหย่าแล้ว
เมื่อรู้ดีว่าตัวเองยังทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ ปราณปริยาวดีก็เลือกที่จะหยุดคิด แล้วเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต คว้าขึ้นมาจัดเข้าตู้ จนครบทั้งสามใบ เครื่องสำอางต่างๆ ในอีกกระเป๋าก็ถูกจัดไว้บนตู้เครื่องแป้ง
เพราะบอกกับตัวเองได้แล้ว ว่าจะไม่ขอกลับไปร่วมห้องกับผู้ชายที่หอบผู้หญิงอื่นมานอนในห้องหอ
บนเตียงที่คุณตาคุณยายอุตส่าห์มาปูให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต แต่เขากลับทำลายมันลงอย่างไม่เกรงใจใครเลย ก็อย่าหวังว่าจะได้การเปิดใจรับจากเมียคนนี้เลย
และนับตั้งแต่นี้ต่อไป ก็จะขออยู่ตรงจุดนี้ เพื่อแม่คนเดียวเท่านั้น ส่วนจะอยู่ได้นานมากน้อยแค่ไหน ก็คงจะขึ้นอยู่กับความอดทนของคนอย่างเธอว่าจะหมดลงเมื่อใดเท่านั้น
แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อความสุขของแม่ที่กำลังถูกโรคร้ายรุมเร้า ร่างสูงเพรียวเดินไปก้าวขึ้นเตียง มุดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม แล้วบังคับตัวเองให้หลับ เพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงเอาไว้ก้าวเดินวันต่อไป
แต่ก็ยากยิ่งที่จะหลับลงได้ เมื่อเสียงและภาพของสามีกับหญิงอื่นลอยมารบกวน เกือบตีสามถึงได้หลับลงเพราะความเหนื่อยอ่อน
สะดุ้งตื่นขึ้นด้วยความเคยชินในตอนหกโมงพอดิบพอดี แม้จะยังไม่รู้จักใครในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะคนเป็นสามี และไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติใดๆ ของบ้าน
แต่ก็ขอให้ได้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ แล้วเลือกชุดเดรสแขนสั้นสีเบจตกแต่งด้วยผ้าโปร่งลายจุดสีขาวยาวปิดเข่าเล็กน้อยมาสวมใส่ แล้วลงไปข้างล่างก่อนก็เป็นพอ
อย่างน้อยๆ ก็ป้าคนเมื่อคืน ที่มีท่าทีแห่งความเป็นมิตรมอบให้ ซึ่งเธออาจจะได้คำแนะนำดีๆ บ้าง
“อ้าว! ทำไมคุณหนึ่งตื่นแต่เช้าจังเลยคะ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกดื่น จะรีบลงมาทำไมคะ คุณๆ ยังไม่มีใครตื่นหรอกค่ะ คงจะเหนื่อยไปตามๆ กัน เพราะแต่ละคนตื่นตั้งแต่เช้ามืดทั้งนั้น”
สุดาเพิ่งจะลงมาได้ไม่กี่นาทีรีบทักทาย เมื่อเห็นสะใภ้ใหม่เดินลงมายืนหันหน้าหันหลังอย่างงวยงงอยู่หน้าบันได จึงได้รับรอยยิ้มเป็นการทักทายจากใบหน้าสวยก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“หนึ่งจะลงมาช่วยทำมื้อเช้าน่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าบ้านนี้กินกี่โมง และต้องทำอะไรยังไงบ้าง คิดว่าป้า...”
“ป้าสุค่ะ”
สุดารีบบอกเพราะนึกขึ้นได้ ว่าสะใภ้ใหม่ยังไม่รู้จักใครในบ้านเลย จะบอกว่ายกเว้นผู้เป็นสามี สุดาก็ยังบอกเต็มปากเต็มคำไม่ได้ ด้วยรู้ดีว่าการแต่งงานมีความเป็นมายังไง
“อ้อ! ป้าสุ”
ปราณปริยาวดีรับและยิ้มให้ แล้วก็ก้าวเดินตามร่างอวบของสุดาไปหาครัว
“ป้าเป็นแม่บ้านที่นี่มาตั้งแต่คุณหนึ่งเด็กๆ ค่ะ ความจริงคุณหนึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ก็ได้นะคะ ป้าจัดการทุกวัน ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ มื้อเช้าก็จะเป็นข้าวต้มหรือแล้วแต่ว่าคุณผู้หญิงอยากจะกินอะไร ท่านก็จะบอกไว้ล่วงหน้าวันหนึ่งค่ะ แต่ถ้าไม่ได้บอกก็ทำอะไรขึ้นโต๊ะก็ได้”
แม้จะบอกว่าไม่เป็นไร แต่สุดาก็ให้ข้อมูลด้วยความเต็มใจ และนึกเอ็นดูสะใภ้ใหม่อยู่ในที อุตส่าห์ห่วงใยเรื่องการบ้านงานเรือน ตั้งแต่วันที่สองของชีวิตการแต่งงาน
สุดาก็ได้แต่หวังว่าหญิงสาวข้างๆ จะรักษาความเสมอต้นเสมอปลายไปตลอดชีวิตคู่
“เหรอคะ งั้นหนึ่งก็จะลงมาช่วยป้าสุทำกับข้าวทุกครั้งที่มีโอกาสก็แล้วกันนะคะ แล้ววันนี้จะทำอะไรบ้างคะ”
“เอางั้นเหรอคะ งั้นก็ตามป้ามาค่ะ”
สุดาไม่อาจจะห้ามคนอยากจะทำหน้าที่สะใภ้หรือหน้าที่เมีย เพื่อไม่ให้บกพร่องได้ จึงเดินนำไปหาตู้เย็นหลังใหญ่ เปิดออกแล้วก็หยิบของสดออกมาส่งให้ปราณปริยาวดีรับไปวางไว้บนเคาน์เตอร์อย่างไม่เกี่ยงงอน
“วันนี้จะทำข้าวต้มขาว ยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอย หนำเลี๊ยบกุ้งสับ หมูสับปลาเค็มทอด ยำผักกาดดอง แล้วก็หมูบะเต็งค่ะ คุณหนึ่งเข้าครัวประจำหรือเปล่าคะ”
ปราณปริยาวดีพยักหน้ารับรู้เมนูจากปากสุดาไปเรื่อยๆ ต้องหยุดแล้วส่งยิ้มบางๆ ให้ ก่อนจะตอบออกไปอย่างถ่อมตัวที่สุด