EP 28

1198 Words
แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับคนที่มีความสวยเป็นทุนเดิมอยู่เต็มตัวอย่างลูกบ้านน้อย กระเป๋าถือสีเบสกับรองเท้าส้นไม่สูงมากสีขาว ช่วยส่งให้น่ามองไม่น้อยในสายตาของสุดา รวมทั้งพิไลพรรณ ที่เดินลงมาจากชั้นบนแล้วเห็นพอดี แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียวกับสะใภ้ สุดาช่วยจัดผมปอยที่ร่วงลงมาขึ้นไปยัดเก็บไว้ตามเดิม แถมยังช่วยใช้หวีจัดให้เข้าที่และสวยงามกว่าเจ้าตัว ที่ไม่อาจจะมองเห็นด้านหลังได้ ในระหว่างรอคนมารับ ร่างสูงเพรียวหมุนตามคำบอกสุดา เพื่อจะได้สำรวจให้รอบตัวอีกที พลาธิปรีบลงจากรถ แล้วขึ้นไปคว้าเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน ไม่กี่นาทีก็รีบมา แล้วพาเมียไปขึ้นรถอย่างเร่งด่วน ไม่มีการพูดคุยอะไรเลยแม้แต่คำเดียวระหว่างทาง ครั้นถึงบ้านเจ้าของงาน เขากลับรีบคว้ามือนุ่มเดินไป พร้อมของขวัญห่ออย่างดิบดีด้วยมือเลขาคู่ใจ เขาตีหน้ายิ้มให้เจ้าของงานได้อย่างไม่ตะขิดตะขวางใจ เหมือนปราณปริยาวดีเพราะไม่ชอบสายตาเพื่อนเขาเลย “ไม่รู้เวลาจะหาจริงๆ จะได้สวยเท่าคุณหนึ่งหรือเปล่านะครับ” ศตวรรษผู้เป็นเจ้าของงาน และเจ้าชู้จนติดอันดับต้นๆ ของรุ่น เอ่ยกับเขาแต่ส่งสายตามองมายังปราณปริยาวดี “ผมยังพูดกับเพื่อนเลย ว่าอิจฉาไอ้หนึ่งที่ได้เมียสวยราวกับนางฟ้า ไม่รู้เพื่อนผมทำบุญด้วยอะไรนะครับ” หลังจากพลาธิปแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ศตวรรษบอกเองว่าจำเธอได้แม่นยำ เพราะเพิ่งจะไปร่วมงานแต่งมาแค่เดือนเศษๆ เอง “ทำยังกับผู้หญิงที่นายควงๆ อยู่ขี้เหล่อย่างงั้นล่ะ มีความสุขมากๆ นะ เดี๋ยวขอตัวไปหาพวกนั้นก่อน” แล้วพลาธิปก็รีบดึงมือเมียออกห่างเพื่อนร่วมรุ่น ที่เขาไม่ค่อยจะชอบขี้หน้า แต่ไม่มาก็ไม่ได้เพราะยังมีอะไรเอื้อกันอยู่ในวงธุรกิจ ปราณปริยาวดีรีบยกมือไหว้รหัทกับวัทน์อย่างนอบน้อม เพราะทั้งสองรวมทั้งผู้เป็นสามีนั้น อายุมากกว่าตัวเองถึงหกปี และอยากจะเรียกหนุ่มๆ เหล่านี้ด้วยคำว่า ‘พี่’ แทนคำว่า ‘คุณ’ จะแย่ แต่ติดตรงที่ตัวเองไม่สนิทมากพอ สามีก็ไม่ได้บอกอะไร “ไอ้เป้มาแล้วเว้ย ควงเมียแสนสวยมาเหมือนแกเลยว่ะหนึ่ง อิจฉาสองคนนี้จัง ไม่อยากยืนอยู่ด้วยเลย” รหัทแซวขณะบุ้ยปากไปทางคนที่ถูกพูดถึง พลาธิปชะงักนิดหนึ่ง เมื่อมองไปยังคนที่ทำให้หัวใจเขาพังทลาย ขณะเจ้าหล่อนเดินคู่กับสามีมาด้วยชุดเกาะอกผ้ายืดรัดรูปสีขาวสั้นเหนือเข่า เผยให้เห็นทรวดทรงองเอวที่เขาเคยหลงใหลได้ปลื้ม และได้ลูบไล้เล็กๆ น้อยๆ มาบ้างแล้วในหลายๆ ครั้งที่ได้อยู่ห่างตาผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่บ่อยครั้งนักเพราะแม่เจ้าหล่อนหวงไม่เบา หัวใจเขากระตุกเต้น จนแทบจะระเบิดเมื่อเจ้าหล่อนเกาะแขนสามีเดินใกล้เข้ามา หนทางเดียวที่จะช่วยได้ในตอนนี้ คือรีบขยับเข้าไปยืนจนชิดเมีย สอดแขนไปโอบเอวคอดไว้อย่างจงใจ แต่เจ้าของเอวพยายามจะขยับหนี เพราะอายผู้คนในงาน เขากลับยิ่งออกแรงแขนรัดไว้แน่นกว่าเดิม “นึกว่าพวกแกจะไม่มาซะแล้ว โทรหาก็ไม่ติด ไลน์ไปก็ไม่ตอบ เฟสไปก็เงียบ อะไรจะยุ่งปานนั้น” ภาธรเอ่ยทักระคนต่อว่าเพื่อนตรงหน้า และไม่ยืมจะยกมือรับไหว้พร้อมส่งยิ้มให้ปราณปริยาวดีเป็นการทักทาย ทว่าเมียยืนอยู่ข้างๆ กลับไม่ชอบใจนัก ที่จะต้องมาเจอหน้าลูกบ้านน้อยในสังคมเดียวกัน แถมในฐานะเท่าเทียมกันด้วย จึงเชิดใส่อย่างไม่แยแสสายตาใครทั้งนั้น ปราณปริยาวดีเอง ก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นไม่เลิกลาของลูกบ้านใหญ่สักนิด เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่มีอะไรด้อยกว่าใคร ยกเว้นแต่เรื่องที่แม่ถูกพ่อหลอกว่ายังไม่มีใคร จนแม่เชื่อ หลงมอบทั้งใจและตัวให้ เลยต้องจำยอมรับสภาพหมายเลขสองเท่านั้น จึงเชิดใส่บ้างและยืนฟังคนนั้นคนนี้พูดคุยกันเงียบๆ “ไปนั่งโต๊ะโน้นกันดีว่า ไกลเวทีหน่อยรำคาญเสียง” รหัทเสนอแล้วบุ้ยปากไปหาโต๊ะนอกสุดที่ยังไม่มีใครจับจอง ทุกคนจึงเดินตามไป ปราณปริยาวดีจำต้องเดินตามวงแขนสามีไปด้วย แม้จะอยากเดินห่างแต่เขาก็ไม่ยอม ขนาดนั่งลงกับเก้าอี้แล้ว เขาก็ไม่วายขยับมานั่งใกล้ๆ สอดแขนไว้ตำแหน่งเดิม ถึงจะดึงมือออกเขาก็ไม่ยอมอยู่ดี แถมยังรั้งร่างระหงมาหาแล้วโน้มไปใกล้ๆ แก้มขาวก่อนจะกระซิบขู่เสียงทุ้ม  แต่ใบหน้านั้นยิ้มน้อยๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมโต๊ะสงสัยได้ “ถ้าคุณพยายามจะดิ้นหนีอีก ผมจะจูบคุณโชว์คนในงานให้ดู ถ้าไม่อยากอาย ก็ช่วยทำหน้าที่เมียให้สมกับเงินค่าสินสอดหลายสิบล้านที่ผมเสียไปให้แม่คุณหน่อย” แต่ปราณปริยาวดีไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอย่างนั้น เมื่อเหลือบไปเห็นคู่ขา ที่เขานอนกกนอนกอดแทบจะทุกคืนมาเป็นเดือน นับตั้งแต่แต่งงานกับเขา กำลังเดินยิ้มตรงมาหาที่โต๊ะพอดี เพราะคิดว่าเขาคงจะเกรงใจคู่ขามากกว่า มือบางจึงเอื้อมไปดึงแขนเขาออกจากเอวคอดด้วยท่าทีไม่หวั่นเกรงในคำขู่สักนิด และชั่ววินาทีนั้น ดวงหน้าขาวก็แทบจะเปลี่ยนเป็นซีด ตัวแข็งทื่อขึ้นมาอย่างไม่ยากเย็น เมื่อเขาฝังจมูกโด่งลงไปหาแก้มนุ่ม แล้วหอมฟอดใหญ่ ต่อหน้าทุกคนอย่างที่ขู่ไว้ไม่มีผิด ทำเอาบรรดาเพื่อนๆ ต่างเงียบไปชั่ว ขณะโดยเฉพาะรหัทกับวัทน์ ที่งงกับการกระทำของเขา ทีอยู่ในบ้านดันเอาอกเอาใจรัตติกาล พอยู่นอกบ้านดันทำสวีทกับเมียอวดคนอื่น “เอ้ย! ไอ้หนึ่ง จะสวีทกับเมียก็เอาไว้กลับบ้านก่อนสิวะ เห็นใจคนยังไม่มีบ้าง ดูไอ้เป้ซิแต่งมาก่อนแกอีก ฉันยังไม่เคยมันทำประเจิดประเจ้อแบบแกเลยนี่หว่า” วัทน์อดปากไว้ไม่ได้ เลยแซวขึ้นด้วยน้ำเสียงกั้วหัวเราะ เพื่อนคนอื่นเลยหัวเราะตามบ้าง ทว่ารัตติกาลเพิ่งเดินมานั่งได้ไม่นานกับปิยธิดา กลับยิ้มไม่ออกเมื่อเห็นภาพเมื่อครู่จังๆ ส่วนปราณปริยาวดีนั้นอายจนไม่รู้จะทำยังไง จะลุกไปก็มีวงแขนเขารั้งไว้และไม่ยอมปล่อยง่ายๆ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD