“โถ่เว้ย ไอ้นั่นมันเอาตัวนังญารัณไปซ่อนไว้ที่ไหนวะ” เวศณะสบถอย่างหัวเสีย เมื่อได้รับรายงานจากลูกน้องว่าหาทั่วทุกห้องแล้วแต่กลับไม่พบญารัณอยู่เลย
“นายครับ พวกมันกลับมาแล้วครับ”
“มึงว่ายังไงนะ ไหนบอกว่าในใประชุมสำคัญไง”
“ผมได้ยินมาแบบนั้นจริงๆ ครับ”
“กลับ!” เวศณะสั่งลูกน้องทุกคนให้กลับไปตั้งหลักด้วยความเสียดาย เพราะยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการกลับไปด้วย ถ้าหากจะอยู่ต่อก็ต้องปะทะกับฉลามซึ่งเป็นลูกน้องของแก๊งมาเฟียใหญ่โซนอังกฤษและมีอิทธิพลในแถบนี้ไปไม่น้อยกว่าเขาเช่นกัน ผลที่ได้ก็จะมีแต่เสียกับเสีย คราวหน้าค่อยหาทางมาใหม่น่าจะดีกว่า
หลังจากที่ฉลามเพิ่งออกมาได้เพียงสิบนาที ก็ได้รับข้อความจากไลจาห์ว่าการประชุมวันนี้จะถูกเลื่อนออกไปก่อน เพราะเวกัสโมโหและทำร้ายลูกน้องบาดเจ็บนับสิบคนเลยต้องไปจัดการเรื่องนี้ก่อนโดยด่วน เขาจึงเลือกที่จะสั่งให้ลูกน้องรีบวนรถกลับไปที่ผับ
“จอดตรงนี้ก่อน นายลงไปซื้อเค้กช็อกโกแลตมาสองชิ้น” เขาอยากซื้อเค้กซึ่งเป็นของโปรดของญารัณกลับไปฝากเธอเลยทำให้ล่าช้าไปอีกเกือบยี่สิบนาที เพราะร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากพอสมควรทำให้มีลูกค้ารอคิวยาวกว่าปกติ
ฉลามมองเค้กในมือด้วยใจที่พองโตเพียงแค่คิดว่าคนตัวเล็กต้องดีใจมากแน่ๆ ที่จะได้กินเค้กถึงสองชิ้น หลังจากที่เขาห้ามเธอกินขนมหวานมาเกือบสองอาทิตย์
ทว่าทันทีที่มาถึงเขากลับรู้สึกตงิดใจแปลกๆ เพราะเขาเห็นเหมือนมีรถหลายคันขับออกไปจากที่นี่ในขณะที่เขาเข้ามาในผับ ลูกน้องของเขานับสิบสลบเหมือดนอนกองอยู่กับพื้นกันหมด ฉลามรีบวิ่งลงจากรถโดยไม่รอให้ลูกน้องมาเปิดประตูให้เลย
“พาพวกนี้ไปทำแผลซะ ส่วนนายไปเช็คกล้องวงจรปิดซะ” ฉลามเอ่ยเสียงสั่นด้วยความเหนื่อย เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสามด้วยใจที่ร้อนรนพร้อมกับลูกน้องคนสนิทอีกสองคน
ใจของเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มในทันที่เมื่อพบว่าห้องที่เขาเคยอยู่กับญารัณถูกรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจายไปหมด ไร้ซึ่งร่างของคนที่เขาใช้ชีวิตด้วยมานานหลายสัปดาห์ ถุงเค้กในมือร่วงลงกับพื้นพร้อมกับร่างสูงที่ทรุดลงไปด้วย
“นายครับ ผมไปเช็คกล้องวงจรปิดมาแล้ว เป็นพวกเวศณะที่บุกมาครับ”
“งั้นก็แสดงว่าพวกมันได้ตัวของญารัณกลับไปแล้ว”
ปึก! ฉลามทุบมือลงบนพื้นปูนด้วยความโมโหที่รู้ว่าตัวเองไม่สามารถปกป้องหญิงสาวไว้ได้
“แต่ว่าพวกมันเหมือนจะไม่ได้ตัวคุณญารัณกลับไปนะครับ แต่น่าแปลกมากที่กล้องวงจรปิดในชั้นสามถูกปิดหมดเลย”
“แสดงว่าญารัณก็ยังอยู่ที่นี่งั้นเหรอ” หัวใจของเขากลับมาพองโตอย่างมีความหวัง เมื่อรู้ว่าคนพวกนั้นไม่ได้ตัวของหญิงสาวไป
“ค้นให้หมดทุกห้อง หาให้เจอว่าญารัณหลบอยู่ที่ไหน” ฉลามสั่งลูกน้องคนสนิททั้งสองคนเพื่อให้ช่วยตามหาญารัณ บางทีเธออาจจะกำลังกลัวและหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งในผับก็ได้
“ครับนาย” ฉลามรีบออกค้นหาตัวของญารัณทุกห้องด้วยความมั่นใจว่าตอนนี้ญารัณยังอยู่ที่นี่แน่นอน แต่ไม่ว่าเขาจะตามหาที่ไหน เขาก็หาเธอไม่เจอเลย จนเริ่มท้อมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงห้องสุดท้ายที่ยังไม่ได้ค้นแล้ว
“ญารัณ” ภายในห้องมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น เขาหมดความหวังทันที หลังจากที่พยายามค้นหาเธอทุกห้องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่ร่องรอยเลยสักนิด ฉลามได้แต่คิดว่าญารัณจะไปซ่อนที่ไหนได้อีก ในกล้องวงจรปิดจากชั้นอื่นก็ไม่มีร่องรอยอะไรที่บอกว่าญารัณไปที่นั่นเลยแม้แต่น้อย กล้องวงจรปิดชั้นสามก็ดันถูกปิดซะอีก
“นายครับ หาไม่เจอเลยครับ” ความหวังสุดท้ายในใจของเขาดับลงเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องบอก ฉลามแบกร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกลับไปที่ห้องท่ามกลางสายตาของลูกน้องคนสนิทที่กำลังรู้สึกสงสารเจ้านายของตัวเองอยู่ไม่น้อย
“ญารัณ หายไปไหนกันแน่ ทำไมถึงไม่ออกมาหาเฮียล่ะ จะซ่อนไปถึงไหนกัน” ชายหนุ่มพร่ำเพ้อออกมาพลางกระดกแก้วเหล้าเข้าปากราวกับน้ำเปล่า ในใจได้แต่ภาวนาให้เธอกลับมาหาเขาโดยเร็ว...
14.00น.
ในขณะที่ผับเพิ่งเริ่มเตรียมเปิดทำให้มีเพียงพนักงานของที่นี่เท่านั้นที่ต่างก็รีบมาเข้างานกัน เช่นเดียวกับแม่บ้านที่ทำความสะอาดที่นี่และต้องขึ้นมาที่ชั้นสามเพื่อเอาของเก่าภายในห้องเก็บของที่ถูกสั่งให้นำไปทิ้งออกมา
“ว้ายยยยยย” เสียงร้องของป้าแม่บ้านทำให้ลูกน้องของฉลามที่กำลังเดินอยู่แถวนั้นรีบวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“รีบไปบอกนายใหญ่เร็ว” ลูกน้องคนหนึ่งรีบสั่งอีกคนให้ไปตามเจ้านายมาด้วยความรีบร้อน พลางวิ่งเข้าไปดูอาการของหญิงสาวที่หมดสติอยู่ภายในห้องเก็บของเล็กๆ ที่อยู่บริเวณมุมตึก ตอนที่ตามหาพวกเขาไม่ได้คิดถึงห้องนี้เลยแม้แต่น้อยเพราะไม่คิดว่าญารัณจะเข้ามาในที่แบบนี้
“ญารัณ!” ฉลามรีบวิ่งตรงเข้ามาหาร่างเล็กทันที เขาตกใจอยู่ไม่น้อยตอนที่ลูกน้องของเขาเข้ามาลากเขาให้วิ่งมาที่นี่โดยไม่บอกอะไรสักคำ แต่พอเห็นคนที่นอนอยู่บนพื้นเขาก็เข้าใจทุกอย่างทันที
“นายครับ ผมสั่งให้คนเตรียมรถแล้วครับ รีบพาคุณญารัณไปส่งโรงพยาบาลเถอะครับ” ชายหนุ่มทำตามที่ลูกน้องบอกโดยทันที เขาแทบจะเป็นบ้าเมื่อเห็นเธออยู่ในสภาพแบบนี้ เป็นเพราะเขาไม่รอบคอบจนทำให้มาช่วยเธอได้ช้าเกินไป
“โชคดีนะครับที่พาคนไข้มาได้เร็ว คนไข้มีอาการแพ้ฝุ่น เนื่องจากสูดดมฝุ่นเข้าไปจำนวนมากจนอาการแพ้กำเริบ ตอนนี้หมอได้ทำการรักษาให้แล้วจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถึงยังไงก็ควรพักรักษาตัวที่นี่อีกสักสามสี่วันนะครับ” เสียงของคุณหมออธิบายอาการของคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพยาบาลก่อนจะเดินออกไป ฉลามแทบไม่รู้ว่าควรจะขอโทษเธอยังไงดีหากเธอฟื้นขึ้นมาเพราะนี่มันคือความผิดของเขาทั้งนั้น เขาลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในห้องทำงานทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมมันแม้แต่ครั้งเดียว ญารัณโทรมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขาเกือบร้อยสายแต่เขากลับไม่ได้รับรู้เลยนั่นเป็นเพราะความสะเพร่าของเขาจริงๆ