วันต่อมา...
คฤหาสน์หรูราคาหลายล้านเป็นที่พักชั่วคราวของเพียงฝัน เธอเพิ่งมาอาศัยกับคุณอาที่รู้จักกัน ซึ่งเป็นเพื่อนกับบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเอง
“ชุดไหนดีล่ะ” หญิงสาวยกปลายนิ้วชี้ขึ้นกัดเล็บอย่างใช้ความคิด เธอจะใส่ชุดไหนไปคาเฟ่ร้านกาแฟกับเขาคนนั้นดี เธอยังเลือกไม่ได้
หลังจากเขาบอกให้เธอชดใช้ด้วยกาแฟ วิลล์พี่ชายของเธอก็กลับมาพอดีทำให้เธอกับเขาจากกันเพียงแค่นั้น แต่ยังดีที่เขาได้บอกร้านคาเฟ่ และเวลากับเธอเสียก่อน
ตลอดชีวิตของเธอการอาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม และคฤหาสน์หลังโตนั้นเป็นเรื่องที่เธอเคยชิน เพราะอยู่มันมาตั้งแต่เกิด แต่การออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้เธอไม่เคยทำ
จะให้ใครไปส่ง หรือไปเป็นเพื่อนนั้นคงยากเพราะเธอไม่รู้จักใครเลย เพื่อนของเธออย่างอิทธ์ก็หนีออกจากบ้านไป เช่นเดียวกันกับวิลล์ที่ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านหลังนี้
“ตัวนี้ก็แล้วกัน” เดรสกระโปรงยาวถึงตาตุ่มลายลูกเชอร์รี่สีแดงถูกหญิงสาวหยิบขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ในตอนนี้หญิงสาวเปรียบดั่งนกน้อยที่เพิ่งออกจากกรงทองด้วยข้อจำกัดทางด้านธุรกิจของครอบครัว เธอจึงเหมือนกับเจ้าหญิงตัวน้อยบนหอคอย
หญิงสาวยิ้มให้ตัวเองบาง ๆ บนกระจกเงาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ เพียงฝันเม้มริมฝีปากเบา ๆ เพราะเธอไม่เคยแต่งตัวเช่นนี้มาก่อน แต่ส่องกระจกมันก็พอดูดีใช้ได้เลย
ลิปปาล์มไร้สีถูกยกมาทาเบา ๆ ที่ริมฝีปากอวบอิ่มแต่มันก็มีสีแดงธรรมชาติด้วยสีริมฝีปากของเธอเอง หญิงสาวยิ้มให้ตัวเองอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนที่เธอจะหยิบกระเป๋าใบเล็กราคาแพงมาสะพายข้าง
เพียงฝันเดินออกจากบ้านในช่วงบ่ายขณะที่บ้านหลังใหญ่เงียบจนไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอไม่ได้บอกกล่าวใครเพราะกลัวมันจะไปถึงหูบิดาของเธอ
เธอพอรู้มาบ้างว่าจะต้องเดินทางยังไง ง่าย ๆ คือเรียกแท็กซี่แล้วบอกว่าจะไปไหน อินเทอร์เน็ตบอกเธออย่างนั้น คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็โบกมือเรียกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านไปมาทันที
ไม่นานเธอก็ได้ขึ้นแท็กซี่ ฝ่ามือบางค่อย ๆ ยกขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่ออยู่ ๆ มันก็กระหน่ำเต้นราวกับว่าเธอกำลังจะไปเดตอย่างไงอย่างงั้น
“หึ” หญิงสาวขำออกมาเบา ๆ ให้กับความคิดของตน เขาหล่ออย่างกับอะไรดี ใยเขาจะมาสนใจเธอ เพียงฝันรำพึงในใจถึงความเป็นไปได้อันน้อยนิด ก่อนที่เธอจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นานมากแล้วที่ไม่ได้มาที่ประเทศไทย แต่ถ้าได้มาก็มากับพ่อแม่ และรถที่เธอนั่งทุกคันมักติดฟิล์มมืดตลอด ชีวิตที่ไม่ต่างจากติดคุกนั้นมันไม่เรียกว่าชีวิตหรอก เธอถึงตัดสินใจที่จะมาที่นี่ แต่ชีวิตของเธอยังคงมีขีดจำกัดเช่นเดิม เพราะพ่อของเธอให้คนตามเธออยู่ห่าง ๆ ตลอด ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าจริงไหมเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ไม่เห็น
เอี๊ยดด!
รถแท็กซี่เบรกกะทันหันทำให้เพียงฝันหันไปมองคนขับ ใบหน้าเล็กมึนงงเล็กน้อยก่อนที่ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขับจะพูดขึ้น
“ถึงแล้วหนู”
“อ้อค่ะ” ฝ่ามือบางควานหาเงินในกระเป๋า ก่อนที่เธอจะยื่นธนบัตรสีเทาให้ และลงจากรถทันทีโดยไม่ได้รอเอาเงินทอนเพราะเธอไม่รู้
แต่กระนั้นคนขับแท็กซี่ก็ฉวยโอกาสที่เธอไม่รู้นี้ขับรถออกไปโดยไม่ได้เรียกอะไรเธอ
ร่างบางเดินเข้าไปในคาเฟ่ร้านกาแฟสุดหรูกลางเมือง เธอมาก่อนเวลาตั้งชั่วโมงหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นหรือกะไรเธอถึงมาก่อนเวลามากขนาดนี้
เพียงฝันเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะหัวมุมโดยที่ยังไม่ได้สั่งอะไร เพราะเธอไม่ได้อยากกิน แค่จะมาชดใช้เรื่องที่นอนนั้นให้เขาดังที่เขาต้องการ และอีกนัยหนึ่งเธอก็อยากเจอเขาด้วย
ไม่รู้ว่าตอนนี้เวลามันเดินช้าหรือเธออยากเจอเขาเร็ว ๆ กันแน่ หญิงสาวยกเรียวแขนขึ้นดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือหลายต่อหลายครั้งแม้มันจะเพิ่งผ่านไปแค่นาทีเดียว
เพียงฝันเขี่ยปลายเท้าไปมาเมื่อเลยเวลานัดมานานมากแล้ว เขาก็ยังไม่มา เธอชะเง้อคอมองทุกครั้งเวลาเสียงกระดิ่งบานประตูดังขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เขาคนนั้นทุกครั้งที่เธอเงยหน้าขึ้นมอง
หรือเขาจะลืม
หรือเขาติดธุระ
นั่นสิ
หญิงสาวนึกคิดถึงเหตุผลของการมาสายของเขา ก่อนที่เธอจะยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟเมื่ออยู่ ๆ ก็เกิดหิวน้ำขึ้นมา บางทีเขาอาจจะไม่มาแล้วก็ได้ พอคิดแบบนี้เธอก็รู้สึกแปลก ๆ ที่หัวใจขึ้นมา แม้ว่าเพิ่งเจอเขา ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกัน..
คอนโดหรูกลางเมืองเป็นสถานที่อยู่ของชายหนุ่มในความคิดของเพียงฝัน ร่างหนารู้สึกตัวตื่นจากการหลับใหล พอตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่ามันเป็นเวลาช่วงบ่ายจนจะถึงช่วงเย็นอีกรอบแล้ว แต่เขากลับเพิ่งตื่น
อาจจะเป็นเพราะศึกสวาทเมื่อคืนก็เป็นได้ ฝ่ามือหนาจับเรียวแขนเล็กของหญิงสาวนางหนึ่งที่พาดอยู่บนเอวหนาของเขาออก ก่อนที่เขาจะลงจากเตียงนอนในสภาพเปลือยเปล่า
พอตเตอร์ขยับต้นคอไปมาเพื่อลดการขดเกร็งของเส้นเลือด ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำไป ร่างกำยำภายใต้สายน้ำของฝักบัวนั้นมีร่องรอยจิกเล็บของหญิงสาวที่ยังนอนไม่ตื่น เขาชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แม้นว่าจะห้ามแล้วแต่เธอก็ยังทำ สงสัยจะถึงคราวที่จะต้องเขี่ยทิ้งแล้ว
และขณะนั้นเองที่เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนมีนัดกับสาวน้อยคนเมื่อวาน แต่เขาก็ไม่ได้ร้อนรนที่จะไปเจอเธอ เพราะไม่ได้อยากเจออะไรขนาดนั้น ไปทันก็ทัน ไปไม่ทันก็ไม่ได้น่าเสียดายอะไร..
หลังจากอาบน้ำเสร็จชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่บนตัวของเขามีเพียงแค่ผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวสอบ พอตเตอร์เดินไปหยิบเสื้อผ้าของตนที่เกลื่อนเต็มพื้นขึ้นมาสวมใส่ และขณะนั้นเองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนที่นอนก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น
“จะกลับเลยเหรอคะ” แพนเค้กเอ่ยปากถามร่างสูงใหญ่ที่จัดการสวมใส่เสื้อผ้าของตนอยู่ และการเงียบของเขานั้นทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่เธอก็ต้องระงับความไม่พอใจนั้นไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม
“หือ? พรุ่งนี้แพนขอไปมอกับพอตนะ”
“จิ๊!” ชายหนุ่มจิ๊ปากออกมาอย่างคนรำคาญเต็มทน ซึ่งมันทำให้เธอมึนงงเพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน
“มี...อะไรหรือเปล่าคะ” แพนเค้กยันตัวเองพิงหัวเตียง ก่อนที่เธอจะดึงผ้าห่มมาคลุมกายไว้
“น่ารำคาญ ฉันบอกเธอว่าอย่าทำให้ตัวฉันมีรอย”
“หือ? ...ก็”
“....ก็พอตทำแรงนี่ แพนเจ็บก็เลยจิกลงไปแบบนั้น”
“ถ้าฉันบอกว่า ‘ห้าม’ เธอก็ควรฟังฉัน”
“ถ้ามันทำให้พอตไม่พอใจ ก็...ได้ค่ะ ทีหลังแพนจะไม่ทำ อย่าโกรธแพนเลยนะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นกระโจมผ้าห่มเดินเข้าไปหาเขา
“เธอไม่ได้ทำอีกแน่ เพราะฉันจะไม่มาเอาเธออีก” ลำแขนแกร่งยกขึ้นเมื่อเธอกำลังจะยื่นฝ่ามือมาจับต้นแขนเขา แต่ก็ไม่ทันได้จับอะไร
“มะ หมายความว่าไงคะ”
“ก็ตามนั้น” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนที่เขาจะก้าวขาเดินหนีเธอไป ปล่อยให้แพนเค้กเบิกตากว้างตกใจอยู่ที่เดิม
“จะไปไหนคะ พอตเตอร์!!! กรี๊ดดด....”
อยู่ ๆ ความหนาวเหน็บก็เพิ่มมากขึ้นเพียงฝันยกมือขึ้นลูบต้นแขนของเธอเบา ๆ ก่อนที่เธอจะหันไปหน้ามองนอกกระจกร้าน
“โอ๊ะ...” คิ้วโก่งเรียวสวยขมวดเข้ากันเมื่อเห็นฝนกำลังโปรยปรายอยู่ข้างนอก
“ฝนตกซะแล้ว” เธอพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบา พอเห็นอย่างนั้นหญิงสาวก็ก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือของเธออีกครั้ง เข็มนาฬิกาที่กำลังบอกเวลาทำให้เธอยิ้มออกมาบาง ๆ อย่างนึกขันตัวเอง ก่อนจะหุบยิ้มลงด้วยความรู้สึกเสียใจ เขาคงลืมนัดเธอไปแล้ว...
พรึ่บ!
คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน เธอวางธนบัตรหนึ่งใบลงโต๊ะโดยที่ไม่ได้มองเสียด้วยซ้ำว่ามันเป็นแบงก์อะไร
เพียงฝันเดินออกจากคาเฟ่ไป เธอยืนโบกมือให้รถแท็กซี่หลายต่อหลายคันที่วิ่งผ่าน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคันใดจอดให้เธอเลยสักคัน และขณะนั้นเอง
กริ่ง~
เสียงกระดิ่งที่ดังมาจากประตูคาเฟ่ทำให้เธอหันไปมอง ก่อนจะพบว่ามันถูกเปิดจากบุคคลภายใน
“คุณลืมเงินทอนครับ” เพียงฝันชี้นิ้วมาที่ตัวเองก่อนที่เธอจะพยักหน้าเพื่อถามว่าหมายถึงเธอเหรอ ซึ่งเขาก็พยักหน้าให้เธอเบา ๆ ก่อนที่เธอจะยื่นมือไปรับเงินทอนที่เขายื่นให้ ชายหนุ่มผู้มาใหม่เขาสวมเสื้อกันเปื้อนของร้านกาแฟอยู่ มันทำให้เธอเข้าใจว่าเขาเป็นพนักงานเสิร์ฟ ทว่ามันกลับไม่ใช่
“รอแฟนเหรอครับ”
“อ้อ เปล่าค่ะ” เขายิ้มบาง ๆ ให้กับคำตอบของเธอ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ผมเห็นคุณนั่งอยู่ในร้านตั้งแต่บ่ายแล้วนะครับ” ดวงตากลมโตช้อนสายตามองคนตัวสูงก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาบาง ๆ ร้านคาเฟ่นี้ดูใส่ใจลูกค้าดีจังเธอคิดอย่างนั้น
“รอ...เอ่อ”
“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มเห็นเธออ้ำอึ้งที่จะตอบ เขาก็เลยชิงพูดตัดหน้าเธอเสียก่อน
“ค่ะ” อันที่จริงเธอแค่ไม่รู้ว่าจะตอบเขาว่าอะไรดีต่างหากล่ะ ก็ผู้ชายคนเมื่อวานเธอยังไม่รู้จักชื่อเขาเสียด้วยซ้ำ
“เข้าไปนั่งในร้านก่อนก็ได้นะครับ คงไม่มีรถคันไหนรับหรอกครับ เพราะแยกหน้ารถติดน่ะ” เพียงฝันมีสีหน้าซึมเศร้าทันที ก่อนที่เธอจะมองเห็นป้ายหน้าร้านกาแฟที่ว่า
“มันหมดเวลาแล้วนี่คะ”
“ครับ แต่ผมเป็นเจ้าของ” เพียงฝันตาโตเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพยักหน้าเข้าใจ
“งั้น ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอดูต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอ เธอดูไม่ออกเลยหรือยังไงว่าเขานั้นต้องการชวนเธอคุย
“ชื่ออะไรเหรอครับ”
“หือ อ้อ เพียงฝันค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้เขาบาง ๆ ตามฉบับของเธอ เธอนั้นไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตนกับผู้คนยังไง เพียงฝันไม่ค่อยได้เจอใครอยู่แล้ว เป็นครั้งแรก ไม่สิ ครั้งที่สองรองจากชายหนุ่มคนเมื่อวานที่เธอได้คุยด้วย นอกนั้นมีแค่ลูกน้องของพ่อเธอที่เคารพเธออย่างกับอะไรดี
“แล้วชื่ออะไรเหรอคะ...”
“หึ ชื่อ...”
เอี๊ยดด!
เสียงเบรกรถที่ดังขึ้นทำให้เพียงฝันหันไปมอง เธอมึนงงเล็กน้อยที่อยู่ ๆ รถคันหรูคันนี้ก็แล่นมาจอดตรงที่เธอยืนพอดี แต่ก่อนที่เธอจะหันกลับไปสนใจชายหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟนี้อีกครั้ง บานกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงเสียก่อน
“อ๊ะ พี่...”