~ Chapter 6 ~ ลวงหลอก

2262 Words
ในเวลาเดียวกัน [สาธารณรัฐอิตาลี] มาเฟีย.. เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสังคมที่ผิดกฎหมายอย่างลับ ๆ เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางของศตวรรษที่ 18 ในเกาะซิซิลีประเทศอิตาลี จากนั้นจึงเริ่มแผ่กระจายไปยังสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย โดยดั้งเดิมแล้ว มาเฟีย คือ กลุ่มพันธมิตรในยุคกลางของอิตาลี ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชาวนอร์มันและชาวเติร์ก ต่อมาจึงกลายเป็นคำเรียกองค์กรลับต่าง ๆ ในอิตาลี หนึ่งในองค์กรลับ ๆ ที่เป็นที่กล่าวขาน คือ ตระกูลคาร์น “พอเลยค่ะ ปล่อยเธอไปใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละค่ะ ให้มีแฟน มีเพื่อน” บนคฤหาสน์สุดหรูมีเสียงของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งดังขึ้น มันทำให้ดวงตาคมของชายวัยกลางคนตวัดมองภรรยาของตนทันที ไม่คิดว่าเธอจะอนุญาตให้ลูกสาวคนเดียวมีแฟนเร็วขนาดนี้ “ฝันไปเถอะ” เควิน คาร์น มาเฟียหนุ่มใหญ่เอ่ยออกมาเสียงเรียบนิ่ง หลังจากได้รับข่าวสารจากลูกน้องว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเขานั้นกำลังขึ้นรถไปกับชายแปลกหน้า คำสั่งอย่างหนึ่งที่เขาจะสั่งลูกน้องคือพาเธอกลับมาที่นี่ แต่พอเห็นใบหน้าง้ำงอของภรรยาแล้ว คำสั่งเมื่อครู่จึงต้องถูกสั่งไว้ในใจก่อน “ถ้าให้ลูกกลับมา ก็ไม่ต้องคุยกันค่ะ” เธอว่าพลางลุกขึ้นยืน ก่อนจะกระทืบเท้าบึกปังหนีเข้าห้องไป มีเมียเด็กนั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เควินลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะเดินตามภรรยาของตนเข้าห้องนอนไป เธออายุห่างจากลูกคนโตเพียงแค่สิบเก้าปี ความเข้าใจลูกสาวนั้นจึงมีมากกว่าเขาหลายเท่าเลยก็ว่าได้ เวลาต่อมา... [กรุงเทพฯ] บรรยากาศภายในรถพอร์ชคันหรูเงียบสงัดไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงแอร์รถยนต์ หญิงสาวแทบกลั้นลมหายใจเพราะกลัวมันจะดังออกไปรบกวนเขา “เหมือนเธอมีคำถามนะ” “อ๊ะ...” เสียงทุ้มลึกของเขาดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้ เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพราะไม่มั่นใจว่าควรถามได้หรือเปล่า แต่ก็เอาเถอะมันก็ควรถามอยู่เหมือนกัน “เอ่อ ทำไมถึงบอกผู้ชายคนนั้นว่า เป็นแฟนฝันคะ” เธอตกใจมากที่เขาได้พูดออกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่พอตเตอร์เลื่อนกระจกรถลง ประโยคแรกที่เขาพูดคือ ‘คุยอะไรกับแฟนกู’ “แล้วฝันอยากให้พี่พูดว่าอะไรล่ะ” หญิงสาวทำแก้มป่องออกมา เพราะชายหนุ่มตอบคำถามของเธอด้วยคำถามอีกแล้ว “พูดว่าเป็นพี่ชายก็ได้นิคะ” “อ้อ เราอยากเป็นแค่น้องสินะ” “ไม่ใช่นะ!!” รอยยิ้มมุมปากของเขากระตุกขึ้นเมื่อเธอโพล่งเสียงออกมาแทรกเขาแบบนี้ “คือ ฝันหมายถึง เอ่อ...ฝันไม่ใช่น้องแท้ ๆ ของพี่นี่หน่า” หญิงสาวแก้ตัวน้ำขุ่น ซึ่งมันก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะดูเหมือนเขาจะดูออกว่าเธอกำลังหวั่นไหวอยู่ “ลืมมันไปเถอะค่ะ” แม้นว่าเธอจะพูดแบบนั้น แต่ก็รู้ดีว่าคงไม่มีใครลืม เพียงฝันกำกระโปรงตัวเองแน่นด้วยความประหม่า “มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราอยากรู้จักใครมาก ๆ ให้ชวนไปดื่ม” เพียงฝันค่อย ๆ หันหน้ามามองใบหน้าคมสันของเขา ซึ่งพอตเตอร์กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอยู่ “หืม? ดื่มเหรอคะ หมายถึงเหล้าน่ะเหรอ” ชายหนุ่มเพียงแค่พยักหน้ารับ ซึ่งเธอก็พยักหน้ายินยอมเช่นกัน เพราะเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอยู่แล้ว “ว่าไง” “อ้อ ได้ค่ะ” พอตเตอร์ยกยิ้มขึ้นมาเบา ๆ ที่ได้ยินอย่างนั้น สงสัยวันนี้จะได้กินกวางน้อยซะแล้วสิ ความร้อนของเหล้านั่นแหละจะทำให้เธอไร้ข้อกังขากับเขา “แล้ว...ทำไมวันนี้ถึง เอ่อ...มาช้าคะ” “โทษที พี่แฮงก์” “หืม?” “เมื่อวานไปดื่มกับเพื่อน ไอ้วิลล์ก็ไป ไม่เชื่อโทรไปถามมันสิ” “อ้อ ไม่หรอกค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ ถ้าเขาบอกอย่างนี้ก็แล้วไป เธอก็นึกว่าเขาลืมนัดเธอเสียอีก แค่รู้ว่าเขาไม่ลืม เธอก็ดีใจมากแล้ว @Friday nigth Club ทันทีที่เดินเข้ามาภายในผับหรู เพียงฝันเธอตาโตขึ้นมากับสิ่งที่เห็น เคยเห็นแต่ในทีวีและอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยย่างกรายเข้ามาสถานที่แบบนี้เลยแม้ว่าธุรกิจของครอบครัวเธอจะมีแบบนี้เช่นกัน ท่าทีตื่น ๆ ของหญิงสาวนั้นทำให้ชายหนุ่มฉวยโอกาสยื่นลำแขนแกร่งออกไปโอบเอวบางของเธอเข้าแนบชิดกาย การกระทำของเขามันทำให้เลือดในกายของหญิงสาวสูบฉีดขึ้นทันที ใบหน้านวลเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เคยมา?” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปกระซิบเบา ๆ ที่ใบหูเล็ก อาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มเขาก็เลยทำแบบนี้ แต่มันกลับทำให้หญิงสาวตกใจ เธอยกมือยันแผงอกของเขา ก่อนจะห่อไหล่ขึ้น “ค่ะ ไม่เคย” น้ำเสียงสั่น ๆ ของเธอทำให้เขานึกขัน ก่อนที่เขาจะเดินโอบเอวบางของเธอเข้าไปในสถานที่เริงรมย์นี้ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมองมาที่ชายหนุ่ม เขาเป็นที่รู้จักของสาว ๆ ในผับแห่งนี้ด้วยหน้าตาและฐานะ แต่พอมีเพียงฝันเดินมาด้วยสายตาของหญิงสาวหลายคนที่มองมากลับเปลี่ยนไป เพียงฝันรู้สึกประหม่าจนตัวแข็งทื่อไปหมด เธอไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหน และจะทำตัวยังไงเมื่อมีสายตาของคนหลายคนมองมาแบบนี้ “เอ่อ ไม่ต้องนั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ร่างบางขยับตัวออกจากลำแขนแกร่งของเขา ซึ่งเขาก็ปล่อยออกโดยง่าย หญิงสาวเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเขา เธอก้มหน้างุดลงด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เธอรู้ดีว่าทำไมมีคนมองมาทางเธอมากขนาดนี้ หลายคนคงมองผู้ชายที่เธอมาด้วย และไม่แปลกที่คนเหล่านั้นจะมองมาที่เธอด้วย “ไม่เคยมา แล้วดื่มเป็นหรือเปล่า” “ปะ เป็นค่ะ” หญิงสาวตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงมากนัก ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจ แต่สายคมของเขาที่มองมานั้นมันแฝงอะไรบางอย่างจนทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา “แล้ว ชอบดื่มแบบไหน” กวางตัวน้อยอย่างเธอหรือจะดื่มเหล้าเป็น เธอคิดจะหลอกเขาเหรอ หรือยังไง “หืม ดื่มได้หมดค่ะ วิสกี้ วอดก้า จิน บรั่นดี เตกีลา ลิเคียว รัม อืมม...อะไรอีกนะ อ้อ แอพเพอริทิฟค่ะ ฝันดื่มยังไงก็ไม่เมา” พอตเตอร์เลิกคิ้วข้างหนึ่งด้วยความงุนงงเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ “แด๊ดดี๊ฝึกให้ฝันดื่มตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบแปดเลย ดื่มเรื่อย ๆ จากที่เมาก็ไม่เมาอีกเลย แด๊ดดี๊บอกว่าโตขึ้นจะได้ไม่ถูกผู้ชายเลวมอมเหล้าค่ะ” “หึ หึ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาในลำคออย่างนึกขัน ก็มาลองดูว่าจะคอแข็งได้แค่ไหนกันเชียว ว่าแล้วฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นเรียกพนักงานเสิร์ฟทันที “วอดก้า หนึ่ง” หญิงสาวตาโตขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าเขาจะเล่นเหล้าแรงแบบนี้เหมือนกัน “นำเข้าประเทศไหนคะ” เพียงฝันหันไปถามพนักงานเสิร์ฟด้วยท่าทีกระตือรือร้น มันผิดคาดสำหรับพอตเตอร์นิดหน่อย “อ้อ จากบัลแกเรียครับ” หญิงสาวยกยิ้มขึ้นก่อนจะพยักหน้ารับ บัลแกเรียแอลกอฮอลล์แปดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เธอนึกคิดในใจหากแต่ไม่ได้แสดงสีหน้าเป็นกังวลอะไรจนชายหนุ่มที่มองอยู่นั้นขมวดคิ้วมองด้วยความแปลกใจ พอตเตอร์ลุกขึ้นยืน ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งข้าง ๆ เธอหลังจากพนักเสิร์ฟรับออเดอร์ออกไปแล้ว มันทำให้เพียงฝันตกใจ เธอพยายามขยัยออกห่างแล้วแต่เขาก็เข้ามาใกล้ แบบนี้หมายความว่ายังไง “เอ่อ...” “เบื่อคนมอง” ชายหนุ่มพูดขึ้น ก่อนที่เพียงฝันจะหันหลังไปมองและเธอก็พบกับสายตาหลายคู่ที่มองมาเช่นกัน “อ้อ ค่ะ” สงสัยเขาจะไม่ชอบให้คนมองเหมือนกับเธอ แต่เขาหน้าตาดีแบบนี้ ทำไมยังไม่ชินกันนะ หญิงสาวคิดวุ่นในหัวโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นถ้อยคำแห่งการหลอกลวง เขาน่ะเคยชินกับสายตาที่มองมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในอดีตที่เขาเคยทำวงดนตรีกับเพื่อน ๆ หรือตอนที่เขาแข่งรถ แต่ที่มานั่งกับเธอนั้นเขามีข้อสงสัยบางอย่าง “เธอ...ใช้น้ำหอมอะไร” กลิ่นหอมจากคนตัวเล็กนั้นเขาได้กลิ่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอ และตอนนี้เขาก็ได้กลิ่นมันอีก อดไม่ได้ที่เขาจะยื่นมือไปเขี่ยปอยผมของเธอออกจากต้นคอขาว “ทะ ทำอะไรคะ” หญิงสาวตกใจราวกับกวางน้อยที่เพิ่งมองเห็นเสือ เธอดีดตัวหนีห่างเขาออกไปนั่งไกลจนสุดขอบโซฟาตัวยาว “หึ” พอตเตอร์แค่นหัวเราะออกมา ขณะที่ใจของหญิงสาวกระหน่ำเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง มันเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นกระดอนออกมา หญิงสาวทำตัวไม่ถูกเธอคิดว่าเธอควรไปตั้งหลัก “ฝะ ฝันไปเข้าห้องน้ำนะคะ” “หืม รู้เหรอว่าไปทางไหน” “พี่แค่บอกก็พอค่ะ” น้ำเสียงสั่น ๆ ของเธอนั้นทำให้เขานั้นนึกขันอยู่ในใจ แต่เธอใจกล้าดี ถ้าจะกลัวเขามากขนาดนี้ เธอไม่ควรขึ้นรถมากับเขาตั้งแต่แรก หรือในใจเธอนั้นชอบเล่นกับไฟ “เดินตรงไป มันมีป้ายบอก” “โอเคค่ะ” เพียงฝันยกมือขึ้นทัดผมที่ใบหู ก่อนที่เธอจะเดินอ้อมโต๊ะเหล้าของเขาและเธอไป ขณะที่สายตาคมของเขายังคงมองแผ่นหลังบางของเธอด้วยความรู้สึกบางอย่าง พอตเตอร์นั่งที่โต๊ะของเขาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและหมุนตัวเดินไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่มองเขาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว และดูท่าจะยังไม่หยุดมอง ชายหนุ่มเดินไปใช้ข้อศอกค้ำบาร์ที่ตั้งอยู่ระดับเอวของเขา ขณะที่หญิงสาวที่เขานั้นรู้สึกว่าเธอมองเขาอยู่กำลังนั่งบนเก้าอี้หันหน้าไปทางบาร์เทนเดอร์ “น่าเสียดายจัง ผมนึกว่าคุณมองผมอยู่ซะอีก” “หึ คะ?” เธอค่อย ๆหันมามองเขา หลังจากที่เสแสร้งทำเป็นไม่ได้มอง “ว้า...” “ก็มองว่าวันนี้คุณไม่ได้มาคนเดียวน่ะสิ” หญิงสาวหน้าตาสะสวยพูดขึ้น เธอยกแก้วไวน์ขึ้นแกว่งเบา ๆ ขณะที่พูดไปด้วย “หึ งั้นแสดงว่ามองมาตลอด” “ค่ะ ก็รอให้คุณรู้อยู่เหมือนกัน” พอตเตอร์กระตุกยิ้มที่มุมปากทันที ก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาลงที่บาร์ “เบอร์?” ริมฝีปากบางของเจ้าหล่อนเผยอค้างเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะสนใจเธอเช่นกัน ก่อนที่มือบางจะยื่นไปคว้ามันมากดเบอร์โทรศัพท์ของเธอลงไป หลังจากกดเสร็จเธอก็ยื่นให้เขา “ฉันนึกว่าคุณมากับแฟนซะอีก” “แฟนผมยังไม่มีหรอก แต่ถ้าจะมีก็คงเร็ว ๆ นี้” “คิก” หญิงสาวยกมือขึ้นป้องปากเมื่อเธอหลุดขำให้กับมุกจีบสาวของเขา “เดี๋ยวผมโทรหา” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินไป แต่ก่อนจะได้เดินไป เรียวขาขาวเนียนในส้นสูงห้านิ้วก็ยื่นมาเขี่ยเบา ๆ ที่ต้นขาของเขาเสียก่อน “รออยู่นะคะ” พอตเตอร์ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด จริง ๆ ควรจัดเรียงคิวดี ๆ ของหวานควรกินหลังของคาวซึ่งเขาเพิ่งเขี่ยทิ้งไปเมื่อช่วงสายของวัน เขาต้องกินของหวานก่อนถึงจะกลับมากินของคาวได้อีกน่ะสิ “หึ” เขาไม่ได้หันหลังกลับไปหาเธอ เพราะจังหวะนั้นกวางน้อยของเขากำลังเดินกำสายกระเป๋าสะพายเข้ามาข้างในพอดี ผมเผ้าของเธอที่เสียทรงทำให้เขาขมวดคิ้วสงสัย เห็นอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาเธอทันที ตึก ตึก~ หมับ! “จะไปไหน?” หญิงสาวหมุนตัวมาหาเขาตามแรงกระชากของมือหนา ก่อนที่คิ้วหนาของเขาจะขมวดเข้าหากันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะหน้าของเธอนั้น... “ใครทำอะไรเธอ” “ฮึก..” “เพียงฝัน...ใครทำวะ” “มีคนบอก ฮึก...ว่าเป็นแฟนพี่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD