“อ๊า! พี่!?” ยามเมื่อปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็อดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงร้อง ความซ่านสยิวแล่นลิ่วไปทั่วร่างราวกับว่ามันแทรกซึมอยู่ในกระแสโลหิต ยิ่งยามที่ปลายนิ้วแข็งแรงสะกิดตุ่มไตที่ไวต่อความรู้สึก ปลายเท้าของเธอก็ได้เขย่งแทบไม่ติดพื้น เขากระทำมันอย่างย่ามใจ อย่างสาแก่ใจ ราวกับว่าสนุกที่ได้เห็นเธอร้องระงมเพราะพิษแห่งราคะ
สองมือเธอจับบ่าเขาแน่นเมื่อการถูกกระแทกด้วยปลายนิ้วทำเอาร่างทั้งร่างสั่นสะเทือน ปากเขาโน้มมาหา จูบเธอไว้ บดบี้ขยี้ชิมกลีบปากเธออย่างหนักหน่วง แล้ววินาทีที่กำลังจะถึงฝั่งฝัน เสียงผู้คนนอกห้องก็ดังแว่วเข้ามา
“พี่...มีคนมาอีกแล้ว พอ...พอก่อน”
“ชู่ว์...”
แทนไทปรามด้วยเสียงที่ลอดจากริมฝีปาก หล่อนคงได้หงุดหงิดแน่นอนถ้ามาถึงกลางทางแล้วไม่ได้ไปต่อ อย่างน้อยถ้าเขาไม่ได้ลิ้มรสพรหมจรรย์อันหอมหวาน ก็ขอทำให้หล่อนเป็นสุข หล่อนจะได้ติดใจในสิ่งที่เขาทำให้อย่างไรเล่า
“พะ..พี่...เร็วๆ เร็วกว่านี้ได้ไหม...อื้อ...”
ปลายนิ้วไม่สมดังใจ แทนไทเลยนั่งลงไป ซุกหน้ากับส่วนนั้นของเธอ ขาข้างหนึ่งถูกจับยกพาดบ่าเขา ให้เขาได้ดูดชิมลิ้มรสอย่างที่เคยทำ เธอไม่สนแล้วว่าใครจะเข้ามาในห้องนี้ สิ่งที่เธอต้องการคือลิ้นร้อนๆ กับลีลาอันพลิกพลิ้วที่ทำให้เธอซ่านสยิวเกินกว่าจะถอยห่าง ให้เขาทำต่อไปเถิด ห้ามหยุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งนั้น ห้ามหยุด!
แทนไทดูดชิมลิ้มรสสวาทอยู่ใต้กระโปรงพลีทของยุริญดา ยามที่หล่อนปลดปล่อยความซ่านสุขออกมาก็คล้ายว่าความสำเร็จจะมาเยือนเขาด้วย ความรู้สึกยินดีผลิพุ่งเสมอยามได้เห็นแม่ตัวแสบร่างอ่อนระทวยเพราะหมดสิ้นเรี่ยวแรง การเสร็จสมทำเอาหล่อนแข้งขาอ่อนจนเขาต้องพยุงร่างไว้ เขาดึงกางเกงชั้นในตัวจ้อยขึ้นไปได้ทัน ก่อนที่นักศึกษาอีกกลุ่มจะพากันเดินเข้ามาที่ห้องพักของอาจารย์
ยุริญดารีบเดินหนีรุ่นพี่ขาหื่นในทันทีที่เสื้อเสื้อผ้าหน้าผมถูกลูบแตะให้เรียบร้อย เหงื่อเธอผุดซึมแต่เขากลับอมยิ้มล้อกันไม่เลิก ร่างสูงใหญ่ของแทนไทยังตามติดเธอมา ไม่สนว่าสาวๆ ที่เขาเคยโปรยเสน่ห์ไว้จะมองมาที่เธอราวกับจะทึ้งหนังหัวให้หลุดด้วยดวงตาของพวกหล่อน
“เด็กพี่จะกินหัวฉันละ ไปเดินห่างๆ เลย” แขวะคนที่มีสาวในสต็อกเยอะยิ่งกว่าจำนวนถุงเท้าที่บ้าน แต่แทนไทกลับยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำไม หึงเหรอ”
“โอ้ว...แรง! พี่ล้อฉันแรงไปนะ”
ยุริญดาทำหน้าแขยงเสียเต็มประดา เธอก้าวข้ามถนนเส้นเล็กๆ เพื่อตรงไปยังคาเฟ่ข้างมหาวิทยาลัย ที่นั่นขายอาหารเช้าอย่างง่าย รวมถึงเครื่องดื่มที่ดื่มตอนเช้าแล้วจะอุ่นท้องไปหลายชั่วโมง นักศึกที่ ม. นี้ส่วนมากจะแวะมาที่นี่ตอนเช้าแทบทั้งนั้น กลิ่นกาแฟกับขนมปังอบหอมๆ ลอยมาตั้งแต่เธอยังเดินไปไม่ถึงประตูเลยทีเดียว
“ยุ ฉันพูดด้วย ไม่มีหูหรือไง”
“ฉันหิว ขี้เกียจคุย” ตัดบทความน่ารำคาญของเพื่อนพี่ชายแล้วตรงดิ่งเข้าไปในคาเฟ่ สั่งเครื่องดื่มและอาหารมากกว่าปกติเพราะวันนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งด้วย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องจ่ายสักบาท เธอมีหน้าที่เลือกๆๆ และเขามีหน้าที่จ่ายๆๆ
“งั่ม!”
ปากกว้างอ้างับเอาขนมปังที่ยัดไส้ด้วยสลัดปลาอย่างง่าย เคี้ยวหยับๆ ไปไม่กี่ทีก็กลืนลงท้องด้วยความหิว และพออาหารถูกส่งเข้าปาก แม่ตัวแสบก็ยิ้มร่าหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
“อร่อยอะไรนักหนา”
“ก็ฉันหิวนี่” เถียงเขาแล้วกัดขนมปังอีกรอบหนึ่ง
แทนไทมองเมิน ก่อนจะกวักมือเรียกบริกรมาสั่งอาหารอีกที เพราะสิ่งที่ยุริญดาสั่งมาเขาไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เขาสั่งสลัดผลไม้ แม้แต่เครื่องดื่มที่ชอบกาแฟก็ตั้งใจเปลี่ยนเป็นน้ำส้มแทน เขารอไม่กี่นาที อาหารก็มาเสิร์ฟ และยุริญดาก็เริ่มหัวเราะล้อเขาอีกครั้ง
“แหม...พี่อ่า...น่าเอ็นดูนะเนี่ย” ชมเขาแล้วยิ้มเรี่ยราด ก็อาหารที่เขาสั่งน่ะ มันเหมือนในบทความที่เขาเพิ่งอ่านไปนี่นา เธอมองทันนะ ก่อนที่เขาจะแย่งมือถือคืนไป บทความที่ว่า กินอะไรรสอสุจิถึงจะหอมหวานนั่นน่ะ แหม...พี่แทนนี่ก็นะ ช่างสรรหา!
“หุบปากไปเลย กินให้หมดด้วย สั่งอะไรมาเยอะแยะ”
“ก็พี่เลี้ยงนี่นา พี่เลี้ยงทั้งที น้องจะกินให้พุงกางเลยค่า” ทำเป็นเสียงอ่อนเสียงหวานออดอ้อน
แทนไทส่ายหัวให้คนที่ยิ้มเรี่ยราด ประหนึ่งอารมณ์ดีนักหนา อ้อ...ใช่สินะ
“อารมณ์ดีเชียวนะ” เขาประชด
ยุริญดายักคิ้วให้เพื่อนพี่ชายไปทีหนึ่ง
“แน่นอน ก็ฉันโล่งอะ มัน...ปลอดโปร่งมาก!” ตอบเขาอย่างไร้ความเคอะเขิน ก็ระหว่างเธอกับเขาคงไม่มีอะไรให้ต้องอายแล้วกระมัง
“หมั่นไส้!”
แม่ตัวแสบยิ้มให้เมื่อถูกว่าคืน เธอตักสลัดผักของตัวเองใส่จานให้แทนไท เอาใจคนที่คงจะอารมณ์ค้าง
“กินเยอะๆ นะคะพี่ ‘น้องจิ’ จะได้หวานๆ”
“อา...ยัยคนนี้นี่ พูดจา...”
“ก็มันจริงนี่ ฉันอ่านทันหรอกน่า กินผักผลไม้เยอะๆ รับรองน้องจิของพี่หวานหอมอร่อยชัวร์!”
แทนไทจับช้อนส้อมแน่นหนึบ จิ้มองุ่นลูกหนึ่งเข้าปากแล้วแทบจะคายทิ้งเพราะมันเปรี้ยวบรรลัย!