บทที่ 7

1128 Words
“ทำไมผมต้องพาไป คนในไร่ออกเยอะแยะก็ให้ใครสักคนพาไปสิครับ ผมไม่ได้มีเวลาว่างทำเรื่องไร้สาระ” คำตอบนั้นทำให้คณานางค์รู้สึกสงสารลูกไม่น้อย            เมื่อต้องมารับรู้ว่าพ่อของแกไม่ได้มีความรักความเมตตาให้อย่างที่ควรเป็น แม้จะรู้สึกเจ็บเธอก็ทำได้เพียงแต่นั่งก้มหน้าสงบปากสงบคำ เพราะไม่กล้าทำตัวมีปัญหา ที่จริงถ้าเขาจะใจร้ายมันก็ไม่แปลก เพราะเรื่องระหว่างเธอกับเขามันไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก แต่คนที่เขาควรใจร้ายด้วยคือเธอไม่ใช่ลูก            “แล้วแต่แกก็แล้วกัน ทานเยอะ ๆ นะหนูนะ จะได้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก” เกษมจำต้องรีบตัดบทเมื่อหันมาเจอเข้ากับท่าทีหงอยเหงาของลูกสะใภ้ สงสารก็สงสาร แต่ไม่รู้ว่าจะห้ามปากลูกชายได้อย่างไร            “ค่ะท่าน” คณานางค์รับคำเพียงสั้น ๆ ก่อนจะตักข้าวต้มใส่ปาก ทว่าสัมผัสแรกที่รู้สึกกลับทำให้เธอตกใจ เพราะรสชาติที่เค็มจัดจนแทบกลืนไม่ลง ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังฝืนกลืนมันลงท้องไปอย่างยากลำบาก ดูท่าคงไม่ได้มีเพียงแต่พ่อของลูกเท่านั้นสินะที่เกลียดเธอ            “มีอะไรหรือเปล่าหนู หรือว่าข้าวต้มไม่ถูกปาก อยากทานอย่างอื่นไหม เดี๋ยวฉันสั่งให้เด็กไปทำให้ใหม่” ภาพนั้นไม่อาจเล็ดลอดสายตาของเกษมไปได้            ท่านเอ่ยถามขึ้นอย่างอดห่วงไม่ไหว เพราะยังจำได้ถึงคราวของภรรยา ตอนที่ท้องเจ้าจิณก็เคยมีอาการเช่นนี้กับอาหารบางชนิด ซึ่งกว่าช่วงเวลาเลวร้ายนั้นจะผ่านพ้นก็ปาเข้าไปเดือนที่หก            “คงไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกมั้งครับพ่อ กินเข้าไปอย่าเรื่องมาก”            “เจ้าจิณ”            “ไม่เป็นไรค่ะท่าน นะ...นางทานได้ค่ะ” เพราะไม่อยากให้ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้สองพ่อลูกต้องมีปากเสียงกัน คณานางค์จึงเอ่ยขึ้นก่อนจะพยายามตักข้าวต้มเข้าปาก แต่มันก็ยากลำบาก เพราะเธอกลัวว่ารสชาติของมันจะส่งผลต่อลูกในท้อง จึงทำได้แค่ค่อย ๆ ชิมไปทีละนิดละหน่อยเท่านั้น            “ละเลียดชิมแบบนั้นชาติไหนจะหมดห๊ะ! มันจะอะไรนักหนา ก็แค่ข้าวต้มชามเดียว”            “คะ…คุณจิณ จะทำอะไรคะ” ช้าเกินจะร้องห้าม เมื่อจู่ ๆ คนข้างกายก็เอื้อมมาตักข้าวต้มในชามของเธอเข้าปากก่อนที่เขาจะบ้วนทิ้ง            “โง่หรือไง! เค็มขนาดนี้ทำไมไม่พูด” สิ้นคำนั้นก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้น คนใช้หลายต่อหลายคนต่างมองกันไปมา ราวกับจะหาตัวการก็ไม่ผิด            “ใครเป็นคนทำข้าวต้มถ้วยนี้” แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจรับคณานางค์เข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะเมีย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าใครหน้าไหนจะมีสิทธิ์รังแกหล่อนตามอำเภอใจได้ เพราะนั่นมันไม่ต่างอะไรกับการรังแกลูกของเขาไปด้วย และใครก็ตามที่กล้ามันต้องไม่ได้ตายดีแน่            “ตอบ!”            “อะ…อ้อมเองค่ะคุณจิณ แต่อ้อมไม่ได้ตั้งใจนะคะ สงสัยอ้อมจะเผลอใส่น้ำปลาหนักมือไปหน่อย อ้อมขอโทษค่ะ” อรพรรณตอบรับไม่เต็มเสียงเท่าไร ด้วยกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าโกหก            เธอแอบรักของเธอมาตั้งหลายปี แล้วจู่ ๆ แม่คนนี้ก็เข้ามาชุบมือเปิบไปซึ่ง ๆ หน้า ใครบ้างจะทนอยู่เฉยได้ อย่างน้อยก็อยากสั่งสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พอหายแค้น แต่ก็ไม่นึกว่าจะถูกจับได้เร็วแบบนี้ เพราะถ้ารู้ก่อนเธอจะไม่ทำ            “กินสิ!” ทว่าคำสั่งของผู้เป็นนายที่ดังขึ้นมานั้นทำให้เธอตกใจจนต้องร้องถามขึ้นเสียงหลง            “คะ…คุณจิณว่าอะไรนะคะ”            “ถ้าเธอไม่ได้ตั้งใจอย่างที่ปากพูดก็กินสิ กินให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่หยดเดียว” เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจถึงได้เอ่ยขึ้น ในเมื่อกล้าลองดีก็ต้องต่อให้จบ เขาเกลียดอะไรก็ตามที่มันค้างคา            “คุณจิณคะ” คณานางค์ที่เห็นท่าไม่ดีตัดสินใจเอ่ยขึ้น แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าเด็กที่ชื่ออ้อมตั้งใจจะแกล้งกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เรื่องราวมันใหญ่โตไปมากกว่านี้ หากอีกฝ่ายยอมขอโทษก็ถือว่าจบ แต่ถ้าหากว่าไม่มันก็คงสุดแล้วแต่เจ้าของบ้านว่าจะจัดการกับเด็กปกครองของเขาอย่างไรต่อ            “ฉันไม่ได้ขอความเห็น หุบปาก!”            “จะไปไหนก็ไปอ้อม แล้วทีหน้าทีหลังอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็อย่าแม้แต่จะคิดทำ เพราะถ้าใครคิดจะขัดคำสั่งฉันเห็นจะอยู่ร่วมกันยาก” คำนั้นถือเป็นคำขาดที่ทุกคนต่างต้องพากันรีบรับคำโดยทันที เพราะรู้ดีว่าคำสั่งของนายใหญ่ของบ้านนั้นคือที่สุด หากใครขัดขืนหรือแหกคอกจุดจบก็คงไม่สวยนัก            ไม่นานคณานางค์ก็ได้ข้าวต้มถ้วยใหม่ และก็เป็นจิณที่ตักชิมก่อนจะเลื่อนไปให้ เมื่อรสชาติของมันไม่ได้เลวร้ายเหมือนครั้งแรก โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครหลาย ๆ คนมองดูการกระทำของเขาอย่างแปลกใจ            “ทานเยอะ ๆ นะหนู เจ้าตัวเล็กจะได้แข็งแรง” ว่าที่คุณแม่เพียงแต่ยิ้มรับก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มของตัวเองอย่างเงียบ ๆ สองเดือนต่อมา            การอยู่ร่วมกับจิณไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอย่างที่คิด อาจเพราะหมู่นี้รีสอร์ทของเขากำลังเปิดตัวห้องพักใหม่เลยทำให้เขายุ่งอยู่กับงานจนไม่มีเวลามาหาเรื่องกัน            ในขณะที่เธอเองก็พยายามเป็นอย่างมากที่จะทำตัวให้เกิดประโยชน์ที่สุด ไม่ว่าจะงานบ้านหรือแม้แต่เสื้อผ้าของเขาเธอจึงขอเป็นคนรับผิดชอบดูแล โดยทั้งหมดนั้นเป็นความลับระหว่างเธอกับสอง เด็กสาวที่เขาส่งมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงที่เขาออกไปทำงาน            แม้จะรู้ว่าทั้งหมดนี้เขาทำเพื่อลูกในท้องไม่ใช่เพื่อเธอ แต่ก็อดรู้สึกอบอุ่นในหัวใจไม่ได้อยู่ดี การได้อยู่ร่วมกันทำให้รู้ว่าพ่อของลูกไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลย เขาจะร้ายแค่กับคนที่อยากร้ายด้วยเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD