แพ้ทางคนสวย

1468 Words
‘ห้ามแสดงตัว’ ‘ห้ามเป็นข่าว’ ‘ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราอยู่ด้วยกัน’ อลันเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ตอบรับเงื่อนไขที่อีกฝ่ายร่างขึ้นมาให้ ตากลมใสมองเขาอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ากระดาษแผ่นเดียวสร้างพันธะสัญญาอะไรไม่ได้ทั้งนั้น มันไม่มีทางเอาคนอย่างเขาได้อยู่ แต่เขายอม ยอมเพราะคนดื้อๆ ตาใสๆ แบบเธอแค่คนเดียว “ครับ ฟ่างจะเป็นเมียผมแค่ตอนอยู่ในห้อง หรือตอนอยู่ด้วยกันสองต่อสองเท่านั้น” คนฟังลอบถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่ชอบที่เขาพูดแบบนี้ แต่รู้ดีว่าขัดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น “ผมจะคืนงานให้คุณเหมือนเดิม ทุกงาน” “คุณไม่คิดจะแนะนำตัวคุณเองเลยเหรอคะ คุณเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามามีบทบาทกับเรื่องพวกนี้ได้” “ผมมีเส้นสายนิดหน่อย” “แน่ใจเหรอคะว่านิดหน่อย คุณสั่งปลดงานฉัน…” เสียงหวานขาดห้วงเมื่อฝ่ามือหนาขย้ำลงมาบนสะโพกเบาๆ ในยามที่เธอแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เขาไม่ชอบใจ “คุณสั่งปลดงานฟ่างได้ทุกงานแบบนี้ แน่ใจเหรอคะว่าคุณมีเส้นสายแค่นิดหน่อยจริงๆ” “เวลาที่ผมอยากได้อะไร ผมก็แค่พยายาม” “คุณเป็นใครคะ แล้วทำไมหน้าห้องของคุณถึงต้องมีคนเฝ้าเยอะแยะเต็มไปหมด” “ลูกน้องของผมทั้งนั้น ทุกคนไว้ใจได้ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณที่เป็นคนของผมแน่นอน” “ลูกน้องคุณเรียกคุณว่าเฮีย” “ครับ ฟ่างอยากเรียกผมแบบนั้นไหม” “ไม่ค่ะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ถ้าสิ่งที่คุณกังวลจนทำให้เราต้องมาอยู่ด้วยกันแบบนี้คือเรื่องท้อง งั้นเราก็มารอดูกันแค่เรื่องนั้นได้ไหมคะ ฟ่างยอมคุณเยอะแล้วนะ” มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก รู้ว่าเธอไม่ยอมคน ไม่ยอมง่ายๆ แต่เขารับมือได้ “ก็ได้ครับ ฟ่างอยากเรียกผมว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ในท้องของฟ่างมีลูกผม ฟ่างต้องตามใจผมบ้างนะครับ โอเคไหม” ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางใช้ฝ่ามือประคองแก้มเนียนให้หันมามองสบตากัน “ก็ได้ค่ะ งั้นบอกตัวตนของคุณให้ฟ่างรู้จักหน่อยได้ไหมคะ อยู่แบบนี้มันอึดอัด เหมือนเราเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน” “อลันครับ เรียกผมว่าลันเฉยๆ ก็ได้ ผมทำธุรกิจหลายอย่าง ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แค่นั้นเองครับ” “ขายอะไรคะ” ก็ดูรวยขนาดนี้เธอก็มีสิทธิ์ถามใช่ไหมล่ะ เขาทำอะไรที่มันผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าไปฟอกเงินจนเธอเสียหายด้วย แบบนั้นไม่เอาแน่นอน “เป็นเมียผม จะไม่มีวันเดือดร้อนจากอะไรทั้งนั้น ฟังแบบนี้แล้วสบายใจขึ้นไหมครับ” คนฟังกัดปากตัวเองเบาๆ ทั้งสีหน้าของเขา น้ำเสียงของเขา เธอไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย “เมียแค่ในห้องนะคะ หวังว่าคุณจะไม่ลืมข้อตกลงของเรา” “ครับ สะดวกเก็บของพร้อมเข้าอยู่ที่นี่ตอนไหนครับ ผมจะส่งลูกน้องไปรอรับ” “ถ้าคุณคืนงานให้ พรุ่งนี้ฟ่างก็ต้องมีถ่ายละครที่รับแสดงรับเชิญเอาไว้ เสร็จงานประมาณทุ่มกว่าๆ ค่อยมาตอนนั้นได้ไหมคะ” “ก็ได้ครับ ผมตามใจคุณ” @อีกด้าน ‘…ห้ามทุกอย่างเกินความพอดี อย่าหาว่าผมไม่เตือน!” แองจี้ไล่สายตาไปตามตัวอักษรของข้อความที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “น้องฟ่าง เดี๋ยวฉากรับเชิญที่เราต้องเล่นอ่ะ พี่จะคุยกับผู้กับกำให้นะว่าขอมุมกล้องเท่านั้น ไม่ให้สัมผัสโดนตัวเด็ดขาด” “แค่หอมแก้มเองนะคะ ถ้าฝ่ายนั้นไม่ติดฟ่างก็ไม่ติดอะไรนะคะ แค่งานออกมาดี ฟ่างโอเค” “แต่พี่กลัวว่ามันจะมีคนที่โอเคน่ะสิ” “พี่แองจี้หมายถึงใครคะ” ดาราสาวหันมามองตาใส เลยมีโอกาสได้เห็นความกังวลบนสีหน้าของผู้จัดการส่วนตัวอย่างชัดเจน “เมื่อวานฟ่างไปเจอใครมา ทำไมอยู่ๆ ถึงได้งานคืนล่ะคะ” “…” “ฟ่างไม่ต้องตอบคำถามของพี่ก็ได้ค่ะ แต่ก็เพราะคนคนนั้นนั่นแหละที่ทำให้เราต้องเซฟทุกอย่าง พี่ไม่อยากให้เขาไม่พอใจ” “เขามาวุ่นวายกับงานนี้ด้วยเหรอคะ ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการฟ่างก็ยอมแล้ว” “เขาก็คงหวงเรานั่นแหละ” “พี่แองจี้รู้?” ข้าวฟ่างเอียงคอมองสบตากับแองจี้ ในเมื่อเธอยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง แล้วทำไมต้องทำเหมือนเขาเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน “พี่ขอโทษนะคะที่ไม่สามารถเคลียร์เรื่องงานให้ฟ่างได้ ทั้งที่พี่เป็นผู้จัดการส่วนตัวแท้ๆ ฟ่างมีอะไรฟ่างบอกพี่นะ เราคุยกันตรงๆ ได้ เผื่อได้หาทางออกร่วมกัน” “ก่อนหน้านี้มันแค่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น เราเลยมีข้อตกลงร่วมกันนิดหน่อยค่ะ แต่ฟ่างเคลียร์ได้ เหตุผลที่ก่อนหน้านี้ฟ่างโดนสั่งปลดมันก็เป็นเพราะฟ่างไม่ยอมเขา แต่ตอนนี้เราปรับความเข้าใจกันแล้วนะคะ เราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว” “คุณอลัน ใช่ไหม?” แองจี้เอ่ยชื่อออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ยิ่งเห็นดาราสาวในสังกัดกดใบหน้ารับ แองจี้ก็แทบกลั้นลมหายใจ “ถ้าเขาสั่งปลดงานเราได้ ตอนนี้อะไรยอมได้ก็ยอมๆ ไปก่อนเนอะ” แองจี้ยิ้มแห้ง เผลอยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ใครกล้าแต่เธอไม่กล้า ทั้งหน้าที่การงาน ทุกอย่างอาจจบในพริบตาเดียวได้เลย! @จุดรวมพล “…ของรอบนี้มาวันเสาร์ ใครจะเป็นคนไปเช็กของล็อตนี้?” ไคเลอร์สบตากับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่ทำธุรกิจร่วมกันมานาน อลัน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา เด็ดขาด ทำอะไรไม่เคยพลาด ไม่เคยมีอะไรสำคัญมากกว่าเรื่องงาน ส่วนไบรอัน หล่อร้าย ขี้เล่น หน้าทะเล้นแต่มันก็ไม่เบา อย่าให้มันได้ร้าย มันไม่ยอมใครเหมือนกัน ส่วนเขา ไคเลอร์ คนที่มีอายุมากที่สุดในบรรดาสามคนนี้ หน้าที่ที่ทำไม่ได้ต่างกัน แค่ต้องเจรจาบางเวลาที่ต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างสถานการณ์ ทุกคนมีถิ่นเป็นของตัวเอง มีพรรคพวก มีลูกน้องเป็นของตัวเอง งานทุกงานต้องวางแผนร่วม เพื่อที่ปัญหาจะได้ไม่เกิดเหมือนที่ผ่านมา “ใครไปอ่ะ เฮียหรือผม?” สบตากับเฮียลันที่นั่งสูบบุหรี่เงียบๆ “กูไปเช็กเอง แต่วันนี้ที่กาสิโนมึงไปเคลียร์แทนกูก่อนนะ ไหวไหม?” ไคเลอร์หันไปมองเจ้าของเสียงอัตโนมัติ ปกติที่กาสิโนคนที่จะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยคืออลัน เพราะที่นั่นมีทั้งคนเมา ใจร้อน ไม่เหมาะที่คนร้อนๆ แบบไบรอันต้องไปเจอ เพราะการปะทะมันเกิดค่อนข้างง่าย สำหรับคนที่ร้อนพอๆ กัน “มึงไม่ว่าง เหรอ?” หันถามคนที่นั่งดูดบุหรี่ แต่แทนที่คนถูกถามจะได้ตอบ ไอ้แสบดันแทรกขึ้นแทน “เฮียเลอร์ไม่รู้อะไร เดี๋ยวนี้เฮียลันไม่แผ่วแล้ว” “ความเสือกของมึงก็ไม่แผ่วเลยเหมือนกัน” คนถูกแซวตอบกลับทันที “วันนี้ไบรท์มีพวกนะ ถ้าเฮียลันสั่งอุ้มผมอ่ะ เฮียเลอร์ไม่ยอมหรอก” ยักคิ้วใส่พี่ อ้อนตีนไปวันๆ จนคนกลางอย่างไคเลอร์ส่ายหน้า “พวกมึงนี่ก็นะ ภาพที่คนอื่นเห็นคือถือปืนมีลูกน้องเดินตามหลัง ส่วนเวลาที่อยู่ด้วยกัน มึงสั่งอุ้มกันเองนี่นะ” “สั่งสอนไอ้น้องเวรของเฮียดิ เดี๋ยวนี้แม่งกวนตีน” อลันตอบกลับพี่ใหญ่แล้วหันไปคาดโทษไอ้คนปากโป้ง “แล้วมึงล่ะลัน พักนี้มึงคือไร ไม่ว่าง?” “อ่า ติดเมีย” “เมีย! เดี๋ยวๆ กูตกข่าวเหรอ? จำได้ว่าเพิ่งแดกเหล้ากันไปไม่กี่วันปะวะ มึงไปมีเมียตอนไหน” “เรียบร้อย เฮียลันอ่ะ แพ้ทางคนสวย ได้ปุ๊บเรียกเมียปั๊บ แบบนี้เรียกแพ้ทาง แบบนี้เมียทิ้งมีร้องแน่นอน” “ไม่มีวัน” “ไม่มีวันร้อง?” “ไม่มีวันยอมเขี่ยทิ้ง” “เนี่ย เฮียเลอร์ดูเอาเองเลย หนักแล้ว เกินเยียวยา ไบรท์ก็แรดอยู่นะ แต่ไม่เอาปุ๊บเรียกเมียปั๊บ คุยกับสาวครับทุกคำแบบเฮียลันแน่นอน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD